กระท้อน ไม้ผลยืนต้นหลายสายพันธุ์ ไม้ประดับร่มรื่น ให้ผลในด้านการพาณิชย์

ด้วยลักษณะของลำต้นที่สูงใหญ่และมีกิ่งก้านที่ให้ร่มเงา กระท้อนจัดว่าเป็นไม้ผลที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะผลสุกที่ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว เป็นที่ต้องใจของผู้คนทำให้ ผลกระท้อนสุกมีมูลค่าทางการค้าคู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน เราจึงเห็นสวนกระท้อนเกิดขึ้นในทุกภาคของประเทศ แม้ความเชื่อเกี่ยวกับผลไม้ชนิดนี้ ไม่ค่อยเป็นมงคลนัก แต่ด้วยคุณประโยชน์และเป็นผลไม้ขายดี ตลอดจนสามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ทำให้กระท้อนยังเป็นที่นิยมปลูกกันโดยทั่วไปมานับแต่โบราณกาลนั่นเอง

พันธุ์กระท้อน
sliced santol fruit on wooden background, the famous fruit of Lop Buri, Thailand and seasonal fruit on june.

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาอังกฤษ : Santol

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sandoricum koetjape Burm.f. Mer.

ความเชื่อเกี่ยวกับไม้มงคล

แม้ว่าต้นกระท้อนจะเป็นที่นิยมปลูกกันเพื่อการค้าขาย ด้วยเหตุที่ว่าเป็นผลไม้ขายดีมานับแต่โบราณกาล แต่ด้วยความเชื่อส่วนหนึ่งของคนสมัยเก่ายังคงเชื่อว่าต้นไม้ชนิดนี้ไม่เป็นมงคลนัก เพราะเชื่อว่าชื่อเสียงของคนในบ้านที่ทำไว้จะไม่ขจรขจายไปไกลจะสะท้อนกลับมายังที่เดิมดังชื่อของต้นไม้ชนิดนี้ ทำให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พ่อค้าวาณิชย์ที่ต้องการชื่อเสียงเกียรติยศ ความก้าวหน้า ไม่นิยมนำผลไม้ชนิดนี้ขึ้นบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือแม้กระทั่งถวายแด่พระสงฆ์

ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูกภายในบริเวณบ้าน

แต่ด้วยคุณประโยชน์ทางด้านอื่นของต้นกระท้อน ไม้ผลยืนต้นที่มีอายุเฉลี่ยนานมากกว่า 10 ปี ที่มีกิ่งก้านสาขาให้ร่มเงามาก ตลอดจนสามารถนำมาประกอบอาหารคาว หวานได้ มักเป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ  อีกทั้งเป็นผลไม้ขายดี ทำให้คนโบราณนิยมยังคงนิยมปลูกต้นกระท้อนไว้ในบริเวณบ้านหรือในสวน นอกจากนั้นในฤดูน้ำหลากยังเป็นกุศโลบายเบี่ยงเบนความสนใจของเด็ก ๆ จากการลงเล่นน้ำที่ท่าน้ำมาเป็นการไล่เก็บลูกกระท้อนสุกที่ตกลงมาแทนได้อีกด้วย

ส่วนประกอบของต้นกระท้อน

ลักษณะของลำต้น

กระท้อนเป็นไม้ให้ผลยืนต้นขนาดใหญ่ สูง 15-30 ซม. มีอายุเฉลี่ยกว่า 10 ปี ขึ้นไป เปลือกลำต้นเรียบมีสีเทา มีจุดสีขาวเป็นวง เมื่อกะเทาะเปลือกออกจะเห็นน้ำยางสีแดงหรือสีน้ำตาล

ใบ

ใบกระท้อนจะเรียงสลับบนก้านกิ่งที่แตกยอดออกมา มีสีเขียวอ่อนและเข้มขึ้น เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและสีแดงแล้วจะหลุดร่วงหล่นไป ลักษณะของใบกระท้อนเป็นรูปไข่หรือรี ขอบใบเรียบเป็นคลื่น แตกใบย่อยความละ 3 ใบบนก้านกิ่งย่อย มีไขนวลปกคลุม ด้านล่างมีเส้นใบเด่นชัด

ดอก

ช่อดอกกระท้อนจะมีความยาวประมาณ 4-16 ซม. แทงช่อแยกแขนงออกตามง่ามใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกเล็กสีเขียวอมเหลือง ช่อดอกมีดอกย่อยจำนวนมาก ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ

ผล

ต้นกระท้อนให้ผลอ่อนสีเขียว เมื่อเด็ดออกจะเห็นน้ำยางสีขาวมาก ผลแก่จะมีน้ำยาสีขาวน้อยลงเปลือกนอกจะมีสีเหลืองผิวสากคล้ายกำมะหยี่ ภายในผลจะมีปุยสีขาวห่อหุ้มเมล็ดอยู่ ซึ่งพัฒนามาจากเปลือกหุ้มเมล็ด รับประทานได้

สายพันธุ์ยอดนิยม

กระท้อนกลายเป็นพืชที่นิยมปลูกไว้เชิงพาณิชย์ ด้วยรสชาติที่ถูกปาก และคุณประโยชน์มากมายในการนำมาประกอบอาหารนั่นเอง และสายพันธุ์ที่นิยมนำมาปลูกมาก ได้แก่

พันธุ์ปุยฝ้าย

เป็นพันธุ์พื้นเมืองของ ต.ตะลุง และถือว่าเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกและรับประทานกันมากที่สุดเพราะให้ผลที่มีรสหวาน เมื่อทานแล้วจะหมือนกับว่าปุยกระท้อนละลายในปากได้เลย เปลือกนิ่ม และเม็ดกระท้อนให้ปุยมาก ขนาดผลมีทั้งเล็กทั้งใหญ่ สีเหลืองนวลสวย ลูกกลมแป้น

พันธุ์อีล่า

กระท้อนพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดปราจีนบุรี เป็นกระท้อนปุยฝ้ายที่ให้ผลขนาดใหญ่ บางผลมีน้ำหนักมากเกือบกิโลกรัม เมื่อยังไม่แก่จัดจะให้รสเปรี้ยวอมหวาน มีสีโทนเหลือสด ผิวไม่เรียบ และเมื่อแก่รสชาติจะหวานมีปุยมากและมักจะสุกช้ากว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

พันธุ์ทับทิม

เป็นพันธุ์ดั้งเดิมของ ต.ตะลุง แต่น้อยคนนักจะรู้จัก จะให้รสหวาน ผลกลมสีเหลืองนวลขนาดไม่ใหญ่มาก เปลือกนิ่ม

พันธุ์นิ่มนวล

อีกสายพันธุ์ที่คนนิยมรับประทานกันมาก เพราะมีเปลือกบาง เนื้อในหนานุ่ม ไม่แข็งกระด้าง ปุยหุ้มเมล็ดหนาฟู และให้รสหวาน ผลกลมขนาดผลเล็กใหญ่ประมาณ 300 -600 กรัม

ลักษณะ ต้น กระท้อน

วิธีการปลูกต้นกระท้อนให้เจริญงอกงาม

การปลูกกระท้อนจะใช้เวลาประมาณ 3 ปีก็เริ่มให้ผลผลิต โดยสามารถปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ด แต่มักจะทำให้กลายพันธุ์ แต่ปัจจุบันสามารถปลูกด้วยการตอนกิ่ง ทาบกิ่ง ได้เช่นกัน ซึ่งวิธีที่นิยมปลูกมากจะเป็นการปลูกจากต้นกล้าเพาะที่จะให้สายพันธุ์ที่ตรงตามต้องการ ไม่กลายพันธุ์ง่าย ๆ นั่นเอง แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ต้นกระท้อนจะเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดีก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาหลังปลูกด้วยเช่นกัน

วิธีการดูแลรักษา                   

แสง

ต้นกล้ากระท้อนต้องการแสงปานกลาง เมื่อปลูกใหม่อาจต้องทำร่มบังแดดให้เหมือนการปลูกต้นกล้าทั่วไป

น้ำ

กระท้อนเป็นพืชชอบน้ำแต่ก็ทนสภาวะแห้งแล้งได้ การให้น้ำหลังปลูกต้นกล้าควรให้อย่างสม่ำเสมอและทิ้งห่างได้เมื่อต้นกระท้อนเจริญวัย

ดิน

กระท้อนปลูกได้ดีในดินร่วนหรือดินร่วนปนดินเหนียว

ปุ๋ย

การให้ปุ๋ยสามาถให้ได้ทั้งปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี สามารถใส่ปุ๋ยบำรุงเว้นระยะ 3 เดือน/ ครั้งได้

คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นกระท้อน

นอกจากคุณประโยชน์ด้านการประกอบอาหารทั้งคาวและหวานแล้ว กระท้อนยังมีคุณประโยชน์ด้านยา โดยตำรายาแผนโบราณนำใบกระท้อนมาต้นอาบแก้ไขได้อีกด้วย

รากต้นกระท้อน

ราคาต่อต้นโดยประมาณ

ราคาโดยประมาณของต้นกล้ากระท้อนจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาดของลำต้น ซึ่งราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ ต้นละ 100 บาทเป็นต้นไป

แหล่งอ้างอิง : http://www.natres.psu.ac.th/FNR/vfsouthern/

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้