หากพูดถึงผลไม้ไทยที่อยู่คู่ครัวเรือนไทยมานานแสนนาน คงไม่พ้นกล้วยอย่างแน่นอน เพราะผลของกล้วยนั้นสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งเรายังสามารถใช้ประโยชน์ต่างๆจากแทบทุกส่วนของต้นกล้วยได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายครอบครัวในประเทศไทยนิยมปลูกกล้วยไว้ในบริเวณบ้าน ดังนั้นบทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับกล้วยให้มากขึ้น
คติความเชื่อของคนไทยกับกล้วย
เดิมทีนั้นกล้วยเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่สามารถพบด่ายในประเทศไทย เนื่องจากผลของกล้วยนั้นมีรสชาติอร่อยอีกทั้งยังมีประโยชน์มากมายต่อร่างกาย ไม่เพียงเท่านี้กล้วยนั้นยังได้มีความเกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาและประเพณีของไทยที่เกี่ยวกันกันกับกล้วยมานานแสนนาน อีกทั้งคติความเชื่อต่างๆอีก เช่น คู่แต่งงานนั้น หากในการแห่ขันหมากมีการถือต้นกล้วยหรือกล้วยทั้งเครือเป็นส่วนประกอบในพิธีแล้วนั้นจะทำให้คู่แต่งงาน มีความอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้เครือของกล้วยยังสื่อถึงการที่คู่แต่งงานนั้นจะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองเหมือนเครือของกล้วย ไม่เพียงเท่านี้คนไทยสมัยก่อนยังมีความเชื่ออีกว่าหากหญิงสาวคนไหนตั้งครรภ์แล้วไม่อยากได้ลูกแฝด ห้ามรับประทานกล้วยแฝดเป็นอันขาด แต่ในทางกลับกัน หากครอบครัวไหนต้องการมีลูกแฝด ให้รับประทานกล้วยแฝดนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านี้ คำว่ากล้วย นั้นในภาษาไทยเองยังมีความหมายแอบแฝงว่า สามารถทำให้เรื่องยากกลายเป็นเรื่องง่าย เช่น ข้อสอบครั้งนี้กล้วยมากๆ ดังนั้นบางครอบครัวจึงมักนิยมปลูกกล้วยไว้ในบริเวณบ้าน เพื่อให้เวลาเจอเรื่องยาก ก็สามารถผ่านพ้นไปได้แบบกล้วยๆนั่นเอง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นกล้วย
กล้วย ภาษาอังกฤษ (Banana) ถูกจัดว่าเป็นพรรณไม้ล้มลุกชนิดหนึ่งที่อยู่ในสกุล Musa ซึ่งในสกุลนี้นั้นมีหลากหลายชนิดมาก บางชนิดนั้นก็อออกหน่อแต่ว่าบางชนิดกลับไม่ออกหน่อ ลักษณะของกล้วย ลำต้นของกล้วยนั้นมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 2-9 เมตร มีลำต้นสั้นๆ อยู่ใต้ดิน ซึ่งเรามักจะเรียกว่าหัว พร้อมด้วยตาหลายตาเป็นตำแหน่งที่ทำให้เจริญเป็นหน่อต่อไป รากของกล้วยนั้นจะแผ่กระจายออกไปตามแนวราบ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ผิวของดิน หน่อของกล้วยนั้นมีรูปทรงกระบอก นอกจากนี้ลำต้นเทียมของกล้วยนั้นเกิดจากกาบของใบที่ทับสลับกันจนแน่นแล้วกอดกันขึ้นมาเป็นก้อนกลม ใบของกล้วยนั้นมีขนาดใหญ่ ซึ่งหลายคนจะรู้จักดีในชื่อของใบตอง มีลักษณะใบเป็นแผ่นยาวประมาณ 1.50 เมตร กว้างประมาณ 40-60 เซนติเมตร สามารถทรงตัวอยู่ได้ด้วยเส้นกลางใบที่แน่นและแข็ง ตัวใบตองนั้นจะมีการจัดเรียงตัวแบบขนนก เส้นของใบขนานกัน ผิวของใบตองนั้นจะเรียบและมันวาว มีสีเขียวสด ในส่วนของดอกนั้น กล้วยจะอออกดอกเป็นช่อห้อยลงมา มีกาบสีแดงอมม่วงหุ้มอยู่ เรียกว่าหัวปลี ซึ่งตัวหัวปลีนั้นมีรูปร่างกลมรี มีดอกย่อยติดกันเป็นแผง ดอกตัวเมียจะอยู่ที่ฐาน ในส่วนของดอกตัวผู้จะอยู่ช่วงปลาย หลังจากดอกตัวเมียมีการเจริญเป็นผล ดอกตัวผู้จะร่วงโรยลงไป ช่อดอกจะเจริญต่อไปเป็นเครือกล้วยที่ประกอบไปด้วยหวีกล้วยประมาณ 7-8 หวี ผลของกล้วยอ่อนนั้นมีสีเขียว พอแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
วิธีการปลูกและดูแลรักษาต้นกล้วย
กล้วยนั้นเป็นพืชที่ชอบดินร่วนที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี มีความชุ่มชื้นที่เหมาะสม หรือที่เรียกกันว่า ดินน้ำไหลทรายมูล ดังนั้น หากมีการปลูกต้นกล้วยกับดินเหนียว ควรจะผสมปุ๋ยคอกเพื่อช่วยให้เนื้อดินนั้นมีความโปร่งขึ้น หรือยกร่องเพื่อช่วยระบายน้ำด้วย นอกจากนี้กล้วยยังเป็นพืชที่ชอบอากาศร้อนชื้น และแสงแดดพอสมควร แต่ต้องระวังอย่าให้ต้นกล้วยนั้นอยู่ในบริเวณที่มีลมแรงมาก เพราะใบของกล้วยหรือใบตองนั้นมีขนาดใหญ่และมีความต้านลมสูง นอกจากนี้หากต้องการขยายพันธุ์ของกล้วย สามารถทำได้ทั้งวิธีการเพาะเมล็ด แยกหน่อ และเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
สายพันธุ์ของกล้วยที่พบได้ในประเทศไทย
ในประเทศไทยนั้นมีสายพันธุ์กล้วยที่สามารถพบเห็นได้หลากหลาย ซึ่งแต่ละสายพันธุ์เองก็มีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น
กล้วยหอม
มีลักษณะลำต้นสูงเพรียว ใบตั้ง ผลดก ตัวผลกล้วยจะมีเนื้อเหนียวนุ่ม รสขาติหวานและมีกลิ่นหอมอร่อย
กล้วยน้ำว้า
มีลักษณผลใหญ่ อวบ และสั้นกว่าเมื่อเทียบกับกล้วยหอม คนไทยนิยมนำส่วนต่างๆ ของต้นกล้วยน้ำว้ามาใช้ประโยชน์
กล้วยเล็บมือนาง
เป็นกล้วยท้องถิ่นทางภาคใต้ ผลจะมีขนาดค่อนข้างเล็กและเพรียว
กล้วยไข่
ทรงผลจะเป็นทรงกลม ขนาดเล็กและสั้น เปลือกบาง
สรรพคุณและคุณประโยชน์ของกล้วย
กล้วย สรรพคุณ กล้วยนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณมากมายที่หลายคนคาดไม่ถึง ซึ่งผลของกล้วยนั้นมีสารอาหารและคคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ซึ่งทำให้กล้วยนั้นมีสรรพคุณดังนี้
- แก้อาการท้องผูก เนื่องจากกล้วยมีทั้งโพรไบโอติกส์ที่ช่วยผลิตแบคทีเรียชนิดดีต่อลำไส้ และกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายต่อลำไส้ออกไป
- ช่วยควบคุมนน้ำหนัก กล้วยมีวิตามิน B1 และ B2 คอยช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาล และไขมัน อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรตชนิดดีต่อร่างกาย มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ เมื่อกล้วยตกเข้าไปในระบบย่อยอาหารจึงดูดซับน้ำ พองตัว และช่วยทำให้ท้องรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น
- บำรุงหัวใจ โพแทสเซียม เป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ บำรุงหัวใจให้แข็งแรง ไม่เสี่ยงต่อโรคหัวใจ
- บำรุงสายตา วิตามิน A บวกกับ เบต้าแคโรทีน และอัลฟา-แคโรทีน ที่มีอยู่ในกล้วย จะช่วยบำรุงสายตา
- บำรุงกระดูก ฟรุกโตโอลิโกแซกคาไรด์ คาร์โบไฮเดรตที่มีคุณสมบัติเหมือนไฟเบอร์ละลายน้ำได้ ที่มีอยู่ในกล้วย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบขับถ่าย และส่งเสริมให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมจากอาหารที่กินได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับแคลเซียมไปบำรุงกระดูก