แครนเบอร์รี่ ไม้ผลประดับที่ให้มากกว่าความงามในสวนสวย

พืชตระกูลเบอร์รี่ อีกชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เนื่องด้วยสรรพคุณและคุณประโยชน์มากมาย ที่มีฤทธิ์ทางยาและบำรุงร่างกายโดยเฉพาะผู้หญิง ทำให้ แครนเบอร์รี่ ไม้เลื้อยที่ก่อกำเนิดผลไม้สีแดงทรงรีขนาดเล็ก อันทรงคุณค่าด้วยสรรพคุณทางยาและเป็นแหล่งของสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพไม่แพ้ผลไม้ชนิดอื่น ๆ ทำให้ผลไม้ชนิดนี่กลายเป็นที่นิยมของคนปัจจุบันอย่างปฏิเสธไม่ได้

แครนเบอร์รี่ ปลูกในไทย

ข้อมูลทั่วไปของแครนเบอร์รี่

ชื่อภาษาอังกฤษ : Cranberry

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Vaccinium macrocarpon

ประวัติแครนเบอร์รี่

แครนเบอร์รี่มีต้นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือและแคนาดา พบมากในพรุที่เป็นกรดและหนาวเย็น นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ ที่มีอายุยืน ที่นิยมปลูกมากในแถบอเมริกา ยุโรป รัสเซียและแคนาดา ในสมัยโบราณชาวอเมริกันนำผลไม้ชนิดนี้มาประกอบอาหารหลากหลายชนิดเพื่อรับประทาน โดยเฉพาะชาวอังกฤษที่อพยพมาพำนักอาศัยอยู่ในอเมริกาสมัยก่อน นิยมใช้แครนเบอร์รี่ในวันขอบคุณพระเจ้า ก่อนจะถูกส่งแพร่กระจายในยุโรปในปี ค.ศ. 1820 และกลายเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงนับแต่นั้นเป็นต้นมา ด้วยสรรพคุณที่ช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี นั่นเอง

ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูก

แครนเบอร์รี่ เป็นพืชไม้เลี้อยที่สามารถแตกกิ่งก้านสาขาเป็นทรงพุ่ม มีความสูงไม่มากนัก ซึ่งดูแล้วจะออกเป็นทรงพุ่มแคระไปซะมากกว่า ด้วยความเป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็ก ที่มีอายุยืน จึงสามารถปลูกลงแปลงหรือลงกระถางได้ แต่ควรทำค้างให้ลำต้นได้เกาะเลื้อยและเก็บผลผลิตได้ง่าย และควรเลือกพื้นที่ปลูกในบริเวณที่แสงแดดสามารถส่องถึงได้อย่างเพียงพอ ในเป็นเพราะไม้พันธุ์นี้ชื่นชอบแสงแดดในการเจริญเติบโตไม่น้อยเลยทีเดียวนั่นเอง

แครนเบอร์รี่ เม็ด ราคา

ส่วนประกอบของแครนเบอร์รี่

ลักษณะของลำต้น

แครนเบอร์รี่มีลำต้นสีน้ำตาล มีลักษณะกลม เป็นเถายาว มีหน่อเล็กๆ แตกจากลำต้นและหน่อจากพื้นดิน ลักษณะคล้ายกับไม้เลื้อยแตกกิ่งก้านมากมาย

ใบ

ลักษณะใบของแครนเบอร์รี่เป็นทรงรี บนก้านใบสั้นๆ ผิวใบเรียบสีเขียว ขนาดเล็ก ๆ แตกใบตามกิ่งก้านสาขาทำให้ต้นดูเป็นทรงพุ่ม ในช่วงฤดูใบไม่ร่วงใบจะเปลี่ยนเป็นสีแดง

ดอก

แครนเบอร์รี่ออกดอกย่อย ๆ รวมกันเป็นช่อ ให้ดอกสีขาวหรือชมพูทรงแตร ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง

ผล

ลักษณะผลของแคนเบอร์รี่จะออกกันเป็นกลุ่มหรือพวง ประกอบด้วยผลเดี่ยวย่อย ๆ อยู่บนช่อออกตามซอกใบและปลายกิ่ง ผลอ่อนสีเขียวและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเมื่อแก่เต็มที่ มีทรงรี ผิวเปลือกบางเรียบลื่น เนื้อในสีขาวนวลฉ่ำน้ำ ให้รสเปรี้ยวและมีกลิ่นหอม

เมล็ด

ด้านในของผลแคนเบอร์รี่จะมีเมล็ดสีน้ำตาลอยู่ในเนื้อ

สายพันธุ์ยอดนิยม

สำหรับสายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากและให้สารอาหารประเภทโปรแอนโธไซยานิดิน  (Proanthocyanidin) ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูง และเป็นที่นิยมบริโภคกันมากคือสายพันธุ์ Vaccinium macrocarpon ที่ให้สาร PAC ชนิด A สูงมากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ เนื่องด้วยงานวิจัยหลากหลายได้ระยุว่าสายพันธุ์นี้เท่านั้นที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ดีนั่นเอง แต่ถึงกระนั้นในสายพันธุ์อื่น ๆ ก็ยังเป็นที่นิยมปลูกเช่นกัน แม้จะไม่ให้ฤทธิ์ทางยาในการรักษาโรคเฉพาะแต่ก็มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อหัวใจและร่างกายได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

วิธีการปลูกแครนเบอร์รี่ ให้เจริญงอกงาม

โดยธรรมชาติแล้ว แครนเบอร์รี่จะเกิดขึ้นและเติบโตจากเมล็ดในผลแก่จัด และสามารถเติบโตได้ในดินทุกชนิด ในอากาศที่หนาวเย็นจะทำให้ต้นเครนเบอร์รี่เติบโตและเจริญงอกงามได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันวิธีการปลูกต้นแครนเบอร์รี่นอกจากจะใช้เมล็ดในการเพาะต้นกล้าแล้ว  ยังมีการติดตา ตอนกิ่ง มาช่วยในการขยายพันธุ์อีกด้วย และด้วยความที่เป็นไม้เลื่อยขนาดเล็ก จึงควารปลูกห่างกันประมาณ 50×50 เซนติเมตร เพื่อให้รากแก้วทำงานได้ดี และควรทำค้างไว้ให้ลำต้นเลื้อยเกาะจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทำให้เติบได้เต็มที่ ทั้งนี้ ยังคงต้องอาศัยการดูแลรักษาหลังปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่งอกงามเช่นกัน

วิธีการดูแลรักษา                   

แสง

แครนเบอร์รี่เป็นพืชที่ชองแสงแดดควรปลูกในแสงที่เพียงพอ หรือที่โล่งแจ้ง

น้ำ

การรดน้ำควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพราะเป็นพืชที่ชื่นชอบอากาศเย็น เว้นระยะในช่วงหน้าฝน

ดิน

โดยปกติแครนเบอร์รี่จะเติบโตได้ในดินทุกชนิด แต่สำหรับการเตรียมดินปลูกควรเป็นดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดีจะให้ผลผลิตที่ดีกว่า

ปุ๋ย

ให้ปุ๋ยบำรุงได้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยคอก ซึ่งในปีแรกอาจให้ปุ๋ยทุกๆ 2 สัปดาห์และเมื่อเจริญเติบโตได้ในปีที่ 2 อาจทิ้งระยะห้างในการให้ปุ๋ยเป็น 6 ครั้งต่อปี ได้

ต้นแครนเบอร์รี่

คุณประโยชน์ที่ได้จากแครนเบอร์รี่

สำหรับแครนเบอร์รี่แล้ว นับว่าเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่หลากหลายชนิด ที่ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นอกจากจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ทรงคุณค่าแล้วยังอุดมไปด้วยสารชีวภาพธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และป้องกันโรคต่าง ๆ ได้โดยเฉพาะการป้องกันการเกิดลิ่มเลือด การป้องกันต่อต้านเซลล์มะเร็ง และรักษาโรคปัสสาวะอักเสบได้เป็นอย่างดี อีกด้วย

ราคาต่อต้นโดยประมาณ

แครนเบอร์รี่ มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบเมล็ด และ ต้นกล้า โดยราคาเมล็ดสำหรับเพาพันธุ์จะอยู่ที่ 50 บาทเป็นต้นไป ส่วนต้นกล้าราคาอยู่ที่ 250 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วยเช่นกัน

แหล่งอ้างอิง

: https://www.nsm.or.th/

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้