แบล็คเบอร์รี่ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากคุณประโยชน์ที่เราควรรู้จัก

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาอังกฤษ : Blackberry

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ : Rubus Fruticosus

แบล็คเบอรี่ ปลูกในไทย

ส่วนประกอบของต้นแบล็คเบอร์รี่ (Blackberry)

ลำต้น

ต้นแบล็คเบอร์รี่เป็นพืชล้มลุกที่มีขนาดเล็ก ลำต้นมีลักษณะเลื้อยตามพื้นดิน แตกกิ่งก้านออกมาเป็นพุ่ม ลำต้นมีลักษณะกลมๆเป็นสีน้ำตาล มีหน่อแตกออกมาจากต้น และบริเวณลำต้นก็มีหนามแหลมแข็งออกมาปกคลุม

ราก

ลักษณะของรากต้นแบล็คเบอร์รี่นั้นจะมีลักษณะกลมๆ แทงลงในดิน มีรากแขนงและรากฝอยเล็กๆออกมาตามแนวรากและจะมีหน่อเล็กๆแทงออกมาจากดินแตกจากต้น

ใบ

ใบของต้นแบล็คเบอร์รี่นั้นจะมีลักษณะเป็นทรงกลมรี ใบมีขนาดใหญ่บริเวณรอบขอบของใบมีรอยหยักฟันเล็กๆ ก้านในยาวมีหนามปกคลุมมีใบย่อย 3 ใบบนอยู่บนก้านเดียวกัน เมื่อสัมผัสใบจะรู้สึกได้ว่าใบมีความสากมือและมีขนปกคลุมสีของใบเป็นสีเขียว

ดอก

จะออกดอกเป็นช่อ มีรูปทรงคล้ายแตร เกสรของดอกเป็นสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงสีเขียว กลีบดอกสีขาว ก้านของดอกจะมีความยาว ออกดอกออกช่อตามบริเวณซอกหรือปลายกิ่ง

ผล

เป็นผลเดี่ยว อยู่เป็นพวงมีลักษณะเป็นพวงรูปกรวยผิวเปลือกมีปุ่มกลมเล็กๆอยู่บนผลแน่น มีขนบางๆอยู่ทั่วผล ผลอ่อนจะเป็นสีเขียวอ่อน ผลแก่จะเป็นสีแดง เมื่อผลเริ่มสุกแกจะกลายเป็นสีม่วงเข้มหรือสีดำ มีเนื้อเป็นสีดำอมแดง เนื้อชุ่มฉ่ำ รสชาติหวานเปรี้ยว มีกลิ่นหอม

เมล็ด

เมล็ดของต้นแบล็คเบอร์รี่นั้นจะอยู่ในผลมีลักษณะเป็นทรงรีเล็กๆเมล็ดแข็ง สีน้ำตาล

เมล็ด แบล็คเบอร์รี่ กินได้ไหม

สายพันธุ์ของต้นแบล็คเบอร์รี่ (Blackberry)

แบล็กเบอร์รี่แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ 1.Primocane  2.Floricane

Primocane

เป็นสายพันธุ์ที่ออกดอกออกผลตั้งแต่ปีแรกที่ปลูก ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศแบบไหนโดยจะมีลูกดก ผลโตรสชาติอร่อย

Floricane

เป็นกลุ่มสายพันธุ์ที่ต้องมีอายุ 2 ปีขึ้นไปถึงจะออกผลโดยต้องผ่านอากาศหนาวๆเพื่อกระตุ้นดอก นิยมปลูกในบริเวณ อเมริกาและอังกฤษ

สายพันธุ์ที่นิยมของต้นแบล็คเบอร์รีมีดังนี้

  1. Blackberry Black Satin เป็นต้นที่มีความสูงไม่เกิน 2 เมตร ผลมีขนาดกลาง มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน
  2. Blackberry Natchez เป็นเบอร์รี่ที่มีรสชาติหวานถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกา ในปี 2550 เริ่มเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน กรกฎาคม
  3. Blackberry Agavam ผลจะสุกในช่วงเดือน สิงหาคม ต้นสูงได้ถึง 3 เมตรผลผลิตจะออกแบบค่อยเป็นค่อยไป
  4. Blackberry Ruben เป็นพุ่มไว้ที่ลักษณะสูง ผลจะมีขนาดที่ใหญ่ชั่งได้ 10 ถึง 16 กรัมสุก ในช่วงปลายฤดูร้อนเก็บเกี่ยวได้ถึงเดือนตุลาคม
  5. Blackberry Triple Crown เป็นอีกสายพันธุ์ในอเมริกันถูกสร้างโดยมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของโอเรกอน มีความอดทนในหน้าหนาว
  6. Blackberry Chester Thornless เป็นต้นที่ไม่มีหนามลดความยุ่งยากในการปลูก มีกลิ่นหอม ผลสีดำรสชาติหวาน
  7. Blackberry Karaka Black ผิวของผลมีความหนาสีดำทันวาว รสชาติมีความฉ่ำอร่อย
  8. Blackberry Variety Loch Ness
  9. Blackberry Polar เป็นสายพันธุ์ที่ได้มาจากพันธุ์โปแลนด์ ทนต่อการต้านทานน้ำค้างแข็งสูง ผลมีขนาดใหญ่ เป็นรูปทรงไข่มีสีผิวดำเงารสชาติหวาน
  10. Blackberry Loch Tay ผลเบอร์รี่มี่มีขนาดใหญ่ รถชาติหวานมีเยื้อหนาแน่นผิวเรียบมันวาว
  11. Blackberry Thornfrey เป็นไม้พุ่มที่มีขนาดกลาง หน่อยาวไท่เกิน 5 เมตรทนทานต่อโรคและผลผลิตสูง
  12. Blackberry Giant เป็นพันธุ์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหนาม ทนต่อฤดูหนาว
  13. Blackberry Arapaho เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมาก ผลมีน้ำหนักถึง 7 กรัม รสชาติหวาน ผลมีเปลือกมันเงาสีดำรูปกรวย
  14. Blackberry Kiowa ผลมีขนาดใหญ่มากน้ำหนักมีถึง 20 กรัม ทนต่อน้ำค้างได้ดี
  15. Blackberry Apache เป็นต้นที่มีหน่อที่แข็งแรง ทนต่อน้ำค้างแข็งมีขนาด 10 กรัม ออกผลผลิตที่ออกมาได้จำนวนมากๆ
สายพันธุ์แบล็คเบอรี่

วิธีการปลูกต้นแบล็คเบอร์รี่ (Blackberry)

ต้นแบล็คเบอร์รี่นั้นเป็นพืชที่ชอบความร้อนมากดังนั้นหากต้องการจะปลูกต้นแบล็คเบอร์รี่ควรเลือกปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงสว่างมากพอ หรือจะให้ดีควรเลือกปลูกในบริเวณฝั่งตะวันออกหรือตะวันตกเพื่อป้องกันแสงแดดยามเที่ยง โดยวิธีการปลูกต้นแบล็คเบอร์รี่นั้นสามารถทำได้หลายทาง เช่น การใช้หน่อจากต้น มาปลูกลงในแปลง หรือจะใช้วิธีการปลูกแบบการขยายพันธุ์เช่นการ ปักชำ ตอนกิ่ง โน้มกิ่ง หุ้มยอดก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

วิธีการดูแลรักษาต้นแบล็คเบอร์รี่ (Blackberry)

ดิน

ต้นแบล็คเบอร์รี่นั้นสามารถจะปลูกได้กับดินทุกชนิดแต่จะเติบโตและออกผลได้ดีมากหากปลูกลงในดินร่วนปนทราย ดินชุ่ม โปร่ง แต่ระบายน้ำได้ดี เช่น ดินผสมกับกาบมะพร้าวสับ หรือใบก้ามปู

น้ำ

ต้องให้น้ำในปริมาณเพียงพอหรือพอแค่ดินชุ่มไม่ควรให้เยอะเกินไป โดยการปลูกในช่วงแรกนั้นควรรดน้ำทุกวัน เมื่อต้นเริ่มโต รากเริ่มแข็งแรงค่อยลดการให้น้ำ

แสงแดด

ต้นแบล็คเบอร์รี่เป็นพืชที่ชอบแสงแดดมาก ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดเพียงพอ แต่หากเป็นแดดช่วงเที่ยงหรือแดดจ้าควรหาสแลงมาปกคลุมเพื่อลดควาร้อนของแดดช่วงเที่ยง

ปุ๋ย

การให้ปุ๋ยควรให้ทุกๆ 15 วันต่อครั้ง พ่นฮอร์โมนหรือพ่นน้ำหมักชีวภาพสูตรเร่งผลทุกๆ 10-12 วันต่อครั้ง และเมื่อมีดอกก็จะใส่ปุ๋ยสูตร 18-46-0 ผสม 0-0-60 ฝังลึกๆห่างโคนต้น 1 คืบ

การเก็บเกี่ยวผล

ต้นแบล็คเบอร์รี่จะให้ผลผลิตใวงเวลา 3-4 เดือนหลังจากทำการปลูกต้นแบล็กเบอร์รี่ลงในแปลง เมื่อผลเป็นสีแดงให้ตัดโดยวิธีการหยิบจับควรจับให้เบามือเพื่อไม่ให้ผลช้ำ

การเก็บรักษาผล

เมื่อทำการเก็บผลแบล็คเบอร์รี่เราจะรอจนกว่าผลจะสุกเป็นสีดำหรือม่วง แล้วเราจะนำผลไปเก็บไว้ในภาชนะกล่อง แช่ไว้ในตู้เย็นหรือช่องฟรีสเพื่อเก็บรักษาได้นานขึ้น

แบล็คเบอรี่ ราคา

ประโยชน์และสรรพคุณของต้นแบล็คเบอร์รี่ (Blackberry)

ผล

แบล็คเบอรี่ ผลไม้ที่มีส่วนประกอบของวิตามินซีอยู่มาก ซึ่งสามารถฟื้นฟูคลอลาเจนได้ดี ทำให้ผิวหนังของเราไม่เหี่ยวก่อนวัย ลดอัตราการเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดสมองอุดตัน การเป็นอัมพาตอีกด้วย และยังมีประโยชน์มากมายดังนี้

  1. ไขมันและแคลลอรี่ต่ำ อุดมไปด้วยกากใยอาหารช่วยในการขับถ่าย
  2. ต่อต้านมะเร็ง ซึ่งจะมีกรดเอลลาจิก ช่วยในการป้องกันมะเร็งลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็ง
  3. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ไม่แก่เร็วเสริมสร้างคลอลาเจน เพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  4. ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
  5. มากไปด้วยวิตามินสูง โดยจะมีวิตามินซีหลัก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และยังมีวิตามินเอ วิตตามินอี ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอบ บำรุงผิว สมานแผล วิตามินบีรวม วิตามินเค และวิตามินอื่นๆที่ช่วยในการเผลาผลาน
  6. แร่ธาตุ อย่าง แมงกานีส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ทองแดง ธาตุเหล็ก ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจและควบคุมความดัน ช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง
  7. ช่วยในการรักษาความสมดุลของฮอร์โมนเพศ ลดอาการแท้งบุตรีในเพศหญิง

และยังสามารถนำมาทำเป็นน้ำผลไม้หรือนำไปประกอบอาหารได้ทั้งคาวและหวาน หือทำไวน์ ได้อีกด้วย

ราคา

ของต้นแบล็คเบอร์รี่นั้นจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และขนาดของต้น ซึ่งราคาต่อต้นจะอยู่ที่ 160 บาท –  600 บาท

แหล่งอ้างอิง

: https://www.phtnet.org/research/perishable-fruit.asp?id_name=h032

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้