ชมพูพันธุ์ทิพย์ หรือบางคนเรียกว่าเป็นดอกซากุระเมืองไทย เป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่นิยมปลูกเพื่อให้ร่มเงาและประดับตามอาคารบ้านเรือน หรือสองข้างทาง ในใจกลางเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร เพราะปลูกง่าย โตไว แถมยังทนทานต่อสภาวะอากาศ โดยส่วนมากมักจะพบเห็นได้ทั่วไปในบริเวณลานกว้างตามสวนสาธารณะที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์จะพร้อมใจกันดอกที่บานสะพรั่งเต็มต้น ไม่หลงเหลือใบเวลาดอกบานเต็มที่ก่อนที่จะร่วงหล่นลงมาพร้อมๆ กันทำให้บรรยากาศสองข้างทางเต็มไปด้วยอุโมงค์ของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์สีชมพู ที่เวลาร่วงหล่นลงมาให้บรรยากาศคล้ายพรมดอกไม้สีชมพูปูลาดอยู่ตลอดเส้นทาง ช่างเป็นบรรยากาศอันสุดแสนโรแมนติก จนบางคนแอบเอาไปเปรียบเปรยกับการบานของดอกซากุระในประเทศญี่ปุ่น
ข้อมูลทั่วไป
วงศ์ : BIGNONIACEAE
ชื่อเรียกอื่นๆ : ชมพูอินเดีย ธรรมบูชา (กรุงเทพฯ), ตาเบบูย่า
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นชมพูพันธุ์ทิพย์
ดอกไม้และต้นไม้ ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อความรู้สึกของมนุษย์มาช้านาน เพราะดอกไม้แต่ละชนิดต่างก็มีมนต์เสน่ห์ที่จะหาธรรมชาติอื่นใดมาเปรียบได้ นั่นก็คือสีสันของดอกไม้ ที่ล้วนเสริมแต่งแต้มเนรมิตให้บรรยากาศโดยรอบสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลางเมืองกรุง ซึ่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย แต่เพียงแค่เติมแต่งสีสันของพันธุ์ไม้เข้าไปก็สามารถช่วยเติมความมีชีวิตชีวา ให้กับผู้คนในเมืองได้อย่างน่าฉงน ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ก็เช่นกัน ซึ่งมีความเชื่อว่า เป็นต้นไม่ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก สื่อถึงความปรารถนาดี ระหว่างผู้คนในสังคม และช่วยเชื่อมโยงให้มนุษย์เข้าถึงธรรมชาติได้อย่างลงตัว
ส่วนประกอบของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่น่าสนใจ
ลักษณะของลำต้น
ชมพูพันธุ์ทิพย์ เป็นต้นไม้ขนาดกลาง ผลัดใบ ความสูงประมาณ 8-25 เมตร แตกกิ่งแผ่กว้างเป็นชั้น เรือนยอดรูปไข่หรือทรงกลม ลำต้นขนาดใหญ่ เปลือกลำต้นเรียบสีน้ำตาลหรือสีเทา แต่เมื่อมีอายุมากเปลือกลำต้นจะแตกเป็นร่อง กิ่งเปราะหักง่าย
ใบ
เป็นใบประกอบรูปนิ้วมือ ใบเรียงตรงกันข้าม มีใบย่อย 5 ใบ แผ่นใบหนาขอบเรียบ สีเขียวเข้ม ปลายใบเรียว โคนใบสอบ ใบคล้ายรูปไข่แกมรูปรี ความกว้าง 3-7 เซนติเมตร ยาว 7.5-16 เซนติเมตร
ดอก
ออกดอกเป็นช่อ กระจุกตามกิ่ง ช่อละ 5-8 ดอก กลีบดอกมีทั้งสีชมพูอ่อน ชมพูสด และสีขาว ตรงกลางดอกสีเหลือง ดอกบานเต็มที่จะมีความกว้างประมาณ 5-8 เซนติเมตร โดยทิ้งใบในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม และออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน นอกจากนี้ยังมีฝักกลม ยาว 15-30 เซนติเมตร เมล็ดแบน สีน้ำตาล
ผล
เป็นผลแห้ง แตกเป็นฝักกลม ยาว 15-30 เซนติเมตร เมื่อแก่แตกเป็น 2 ซีก เมล็ดแบนสีน้ำตาล มีปีก ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง
สายพันธุ์ของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่นำเข้ามาปลูกในเมืองไทย
ชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ เป็นต้นไม้ประจำชาติเอลซัลวาดอร์ โดยผู้นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยคือ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ชายาในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต นำมาปลูกในประเทศไทย เมื่อปี 2500 จึงได้ตั้งชื่อต้นไม่ชนิดนี้ต่อมาว่า ชมพูพันธุ์ทิพย์ เพื่อเป็นเกียรติแก่บุคคลที่นำเข้ามาครั้งแรกในประเทศไทย
วิธีการปลูก และการเลือกพื้นที่ให้เหมาะสมในการปลูก
ชมพูพันธุ์ทิพย์ เป็นพันธุ์ไม้ที่นิยมปลูกด้วยการเพาะเมล็ด เพราะปลูกง่ายโตเร็ว แถมยังมีรากแก้วที่แข็งแรงไว้ช่วยในการป้องกันการโค่นล้ม ขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ส่วนใหญ่จะชอบดินที่ระบายน้ำและระบายอากาศได้ดีเป็นพิเศษ สิ่งสำคัญที่ควรทราบประการแรกคือ หากต้องการปลูกในบริเวณรั้วบ้านควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้านอย่างน้อย 4-6 เมตรขึ้นไป เพื่อป้องกันรากชอนไชและกิ่งก้านหักทำให้โครงสร้างบ้านเสียหายหรือคนในบ้านเกิดอันตราย เนื่องจากกิ่งของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เปราะหักง่าย นอกจากนี้ ควรทราบว่า ดอกของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์จะร่วงหล่นลงพื้นเป็นจำนวนมาก ไม่เหมาะสมกันคนที่ไม่มีเวลาทำความสะอาดบริเวณบ้านบ่อย ๆ ในช่วงที่ดอกร่วง และประการสุดท้าย เนื่องจากเป็นไม้ที่โตไว ขึ้นได้ง่าย ทำให้เมล็ดของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่ร่วงหล่นบนพื้นสามารถงอกและเจริญเติบโตเป็นต้นกล้าเล็กๆ ได้อีกมากมายโดยที่เจ้าของอาจจะไม่ได้ตั้งใจ จนเป็นสาเหตุให้ต้องมีการถอนออกหรือตัดแต่งกิ่งอยู่เป็นประจำ
ขั้นตอนการเพาะเมล็ด อันดับแรกให้นำเมล็ดโรยในกระถางที่ใส่ทรายหรือขุยมะพร้าวโรยน้ำให้ชุ่ม ใช้เวลาไม่นานก็จะมีต้นอ่อนงอกออกมา และเมื่อลำต้นสูงได้ประมาณ 1 ฟุต ค่อยย้ายไปปลูกในบริเวณที่ต้องการ
วิธีการดูแลต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ให้ใบเขียวให้ร่มเงาและดอกดกสวยงาม
แสง
ควรปลูกบริเวณที่มีแสงแดดเต็มวัน เพราะเป็นไม้ยืนต้นที่ลำต้นสูงใหญ่และสามารถให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี
น้ำ
ต้องการน้ำปานกลาง ทนสภาพน้ำท่วมได้ดี ในฤดูฝนอาจสามารถงดให้น้ำได้
ดิน
ปลูกได้ในดินทั่วไป แต่โดยส่วนใหญ่จะชอบดินที่มีลักษณะโปร่งระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
ปุ๋ย
ชมพูพันธุ์ทิพย์เป็นต้นไม่ที่ขึ้นง่าย และโตวัยกว่าพันธ์ไม้ชนิดอื่นอยู่แล้ว ตามปกติจึงไม่ค่อยนิยมใส่ปุ๋ยเพิ่มแต่อย่างใด
ประโยชน์หรือสรรพคุณอื่นๆ ของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์
สำหรับประโยชน์หลักของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่นิยมปลูก ก็เพื่อเป็นต้นไม้ให้ร่มเงากำบังแดด และแถมยังมีสีดอกที่สวยงาม เวลาออกดอกจะบานสะพรั่ง เห็นแต่สีชมพูของดอก ส่วนใหญ่แล้วดอกจะไปออกตรงปลายกิ่ง สีดอกอาจจะชมพูเข้มจางไม่เท่ากัน อาจจะชมพูจางจนเกือบซีดขาวหรือเข้มจนเกือบจะเป็นสีม่วงอมแดง จึงนิยมปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตกแต่งสนาม หรือตามสวนสาธารณะเพื่อให้ร่มเงา แต่งเติมบรรยากาศความสดชื่น ให้ผู้ที่ผ่านมาพบเห็นมีจิตใจที่เบิกบาน ร่าเริง นอกจากนี้ส่วนอื่นๆ ของต้นเช่น ใบ ใช้ต้มแก้เจ็บท้องหรือท้องเสีย ตำให้ละเอียดใส่แผล ลำต้นใช้ทำฟืน และเยื่อไม้ใช้ทำกระดาษได้ด้วย
ราคาจำหน่ายต่อต้นโดยประมาณ
สำหรับราคาจำหน่ายต้นกล้า ชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่เพาะจากเมล็ด ที่ความสูงประมาณ 60-80 ซม. จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 100-150 บาท