ซิลเวอร์โอ๊ค ต้นไม้ที่ให้ประโยชน์กับโลกได้มากกว่าที่คิด

ซิลเวอร์โอ๊ค (Silver Oak) ไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดใหญ่ มีลำต้นสูงประมาณ 18 – 35 เมตร ปัจจุบันซิลเวอร์โอ๊คเป็นต้นไม้ที่กำลังมาแรงในหมู่คนรักการปลูกไม้ล้อมหรือไม้ยืนต้นต่าง ๆ เพราะด้วยความพิเศษของต้นนี้ที่สามารถทนแดดจัด ๆ ได้ดีในขณะเดียวกันก็สามารถทนต่ออากาศหนาวจัดในอุณหภูมิ −8 องศา ได้ด้วยเพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในต่างประเทศ ทำให้เป็นไม้ที่ตายยาก เจริญเติบโตได้ค่อนข้างดีและต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับซิลเวอร์โอ๊คให้มากขึ้นกัน 

ซิลเวอร์โอ๊ค
www.farmchannelthailand.com

ความเป็นมาของซิลเวอร์โอ๊ค

ซิลเวอร์โอ๊คเป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศออสเตรเลีย เป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลนี้ แต่ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับต้นโอ๊ค (Oak) เดิมทีในต่างประเทศจะมีการปลูกต้นไม้ชนิดนี้เพื่อนำไม้ไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมากหรือนำไปทำเป็นกีต้าร์ เพราะคุณสมบัติของไม้ชนิดนี้เป็นไม้เนื้ออ่อน ใช้ดัดและตัดแต่งลายไม้ได้ง่าย ปัจจุบันเป้นไม้ที่ขายกันในราคาสูงมาก ๆ การปลูกจึงเป็นไปในเชิงพาณิชย์เพื่อการค้าขาย แต่ไทยนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับเพื่อสร้างร่มเงาเป็นส่วนใหญ่

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับซิลเวอร์โอ๊ค

ชื่อสามัญ: ซิลเวอร์โอ๊ค

ชื่อภาษาอังกฤษ: Silver Oak

ชื่อวิทยาศาสตร์: Grevillea robusta 

วงศ์ตระกูล: Proteaceae

ควรปลูกซิลเวอร์โอ๊คไว้ส่วนใดของบ้าน

อย่างที่ได้บอกไปว่าต้นซิลเวอร์โอ๊คเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถสูงได้ 8 – 35 เมตร นอกจากความสูงแล้วต้นไม้ชนิดนี้ยังสามารถแผ่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไปได้ข้างเป็นทรงพุ่มสูงโปร่งขนาดใหญ่ ดังนั้น คนที่อยากจะปลูกต้นนี้อาจต้องมีพื้นที่หน้าบ้านหรือหลังบ้านที่ค่อนข้างกว้างและไม่ควรปลูกติดกับตัวบ้านเพราะอาจทำให้ต้นแผ่กิ่งก้านสาขาได้ไม่เต็มที่และอาจทำให้ฟอร์มต้นไม่เป็นพุ่มสวยด้วย แต่หากใครที่มีพื้นที่ปลูกมาก ๆ ก็ควรกะเกณฑ์ระยะปลูกที่พอเหมาะ โดยจะอยู่ที่ 3×3 เมตร หรือ3.5×3.5 เมตร  6×6 เมตร หรือ 12×12 เมตร

ซิลเวอร์โอ๊ค
www.treeonlife.com

ลักษณะทั่วไปของซิลเวอร์โอ๊ค

ลำต้น: ขนาดของลำต้นซิลเวอร์โอ๊คจะมีขนาดกลางถึงใหญ่ ความสูงประมาณ 18-35 เมตร เนื้อไม้ค่อนข้างอ่อน มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว้างกว่า 1 เมตร 

ใบ: ใบมีลักษณะคล้ายใบเฟิร์นมีหลากหลายสี คือ ด้านบนของใบจะเป็นสีเขียวอมน้ำเงินส่วนใต้ใบเป็นสีเงินกำมะหยี่ เป็นพันธุ์ไม้ที่มีใบสวยงามแปลกตาและราคาสูง ขนาดความยาวของใบ 15 – 35 เซนติเมตร 

ดอก: ดอกมีสีส้ม-เหลือง ช่อดอกจะเป็นแบบ Indeterminate และมีความยาว 3 – 5 เซนติเมตร

ผล: ลักษณะเป็นฝักที่มีเมล็ดมีสีขาว ตรงกลางจะมีสีดำ เมื่อฝักแก่จัดเมล็ดจะดีดตัวออกจากฝักปลิวไปตามกระแสลมได้ในระยะไกลและจะงอกเป็นต้นอ่อนขึ้นเองตามธรรมชาติ

วิธีการขยายพันธุ์ซิลเวอร์โอ๊ค

สำหรับการขยายพันธ์ต้นซิลเวอร์โอ๊ควิธีที่ดีที่สุดที่แนะนำให้ใช้ คือ การเพาะเมล็ด ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ได้ต้นกล้าที่แข็งแรง หากเริ่มเพาะเมล็ดแล้วเมื่อกล้าโตได้ 8 – 12 นิ้วก็จะทำการย้ายไปปลูกลงดินต่อ เพราะโดยปกติแล้วต้นซิลเวอร์โอ๊คก็ใช้การขยายพันธุ์ตามธรรมชาติจากเมล็ดที่ปลิวไปตามลมนั่นเอง

ซิลเวอร์โอ๊ค

การปลูกและดูแลซิลเวอร์โอ๊ค

แสง

สำหรับคนที่กำลังกังวลว่าการปลูกต้นซิลเวอร์โอ๊คจะมีปัญหาเรื่องของสภาพอากาศร้อน ๆ ของประเทศไทยหรือเปล่า ต้องบอกเลยว่าต้นไม้ชนิดนี้ทนแล้งได้ดีมาก อีกทั้งยังชอบแสงแดดจัด ๆ ตลอดทั้งวัน ดังนั้น ปลูกไว้กลางแจ้งให้ได้รับแสงแดดทั่วถึงเต็มวันจะช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของต้นได้ดีมาก ๆ 

น้ำ

การรดน้ำต้นซิลเวอร์โอ๊คในระยะแรกอาจต้องการน้ำค่อนข้างมาก รดเช้าหรือเย็นพอให้หน้าดินชุ่มน้ำแต่ไม่แฉะจนเกินไป เมื่อต้นอ่อนเริ่มมีรากที่แข็งแรงดีแล้ว การให้น้ำควรให้ในปริมาณกลาง ๆ วันละ 1 ครั้งหรือวันเว้นวัน

ดิน

การปลูกซิลเวอร์โอ๊คควรเลือกปลูกในดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายเป็นกรดอ่อน – ปานกลาง เพราะถือเป็นไม้ที่ไม่ชอบพื้นที่ที่มีน้ำขังในดินจนชื้นแฉะ ยิ่งโดยเฉพาะช่วงที่ต้นยังมีรากอ่อนไม่แข็งแรงมากนัก การเลือกดินหรือพื้นที่ในการปลูกจึงมีความสำคัญมาก ๆ

ปุ๋ย

ข้อแนะนำสำหรับการปลูกซิลเวอร์โอ๊ค คือ การใส่ปุ๋ย ด้วยความเป็นไม้ใหญ่และต้องใช้การเติบโตอย่างต่อเนื่อง การให้ปุ๋ยควรใช้สูตรเร่งโต 15-15-15 สูตรบำรุงราก 25-7-7 ซึ่งต้นไม้จะโตพร้อมใช้งานภายใน 5 ปีหรือโตเต็มที่พอที่จะให้ร่มเงากับเราได้ดีกว่าการใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทั่ว ๆ ไป

ประโยชน์จากต้นซิลเวอร์โอ๊ค

ในเว็บไซต์ของแองโกล-ดัชได้กล่าวถึงประโยชน์ของต้นซิลเวอร์โอ๊คในแง่ของการช่วยโลกไว้ว่า นอกเหนือไปจากความสวยงามและการให้ร่มเงาของต้นไม้ชนิดนี้ ซิลเวอร์โอ๊คยังเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถฟอกอากาศและช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้อย่างดี ซึ่งเป็นประโยชน์มากในแง่ของการรักษาสภาพแวดล้อม ดังนั้น ต้นซิลเวอร์โอ๊คจึงมีมูลค่ามากในปัจจุบัน โดยเฉพาะในต่างประเทศที่ถ้าหากเจ้าของที่ดินปลูกต้นไม้นี้ไว้ก็จะเหมือนเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่นั้นไปด้วย ซึ่งนักวิจัยทางสิ่งแวดล้อมก็ได้คาดการณ์ไว้ว่าในอนาคตต้นซิลเวอร์โอ๊คจะมีความต้องการที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

ซิลเวอร์โอ๊ค, โครงการฟื้นฟูป่าและพัฒนาเศรษญกิจชุมชน

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้