ต้นชาด ไม้เศรษฐกิจสร้างรายได้ มีลักษณะและวิธีดูแลอย่างไร

ต้นชาด หรือ ยางเหียง (Hairy Keruing) เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ที่ในปัจจุบันถูกจัดว่าเป็นไม้เศรษฐกิจมีราคา ที่เริ่มนิยมนำมาปลูกกันบ้างแล้ว นั้นก็อาจจะมาจากสีและลวดลายของเนื้อไม้ ที่มีความสวยงาม และเราแน่ใจว่าหากใครเป็นลูกอีสานจะต้องรู้จักพันธุ์ไม้ชนิดนี้แน่นอน เพราะต้นชาดยังมีชื่อเรียกน่ารัก ๆ อีกชื่อ คือ “ดอกชาด

ต้นชาด
credit : phargarden
ต้นชาด มีลักษณะที่โดดเด่นอยู่เกือบทุกส่วน เช่น สีของดอก ลักษณะของผล สีของเนื้อไม้ แล้วมีใครบ้างในช่วงตอนเป็นเด็กที่ไม่รู้จะเล่นอะไรดี แต่ข้างๆ บ้านมีต้นชาดอยู่ ซึ่งใต้ต้นก็มีลูกยางหล่นอยู่เต็มไปหมด มีสีแดงอมชมพูสดใส ใช้เป็นของเล่นตามธรรมชาติที่พวกคุณสามารถหาได้ 

และในด้านสัญลักษณ์นั้น รูปร่างของดอกชาด หรือดอกเหียง ถ้ามองๆ ดูก็จะเหมือนกังหัน มองให้ดีก็จะเหมือนเครื่องหมาย "สวัสดิกะ" ของชาวพุทธฝ่ายมหายาน 

และต้นชาดยังเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ทนต่อสภาพอากาศ เป็นไม้ที่ติดรากไว ปลูกได้ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดได้ นั้นจึงเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่คนทำธุรกิจค้าเนื้อไม้ นิยมนำมาปลูก ซึ่งในวันนี้ Kaset today จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ "ต้นชาด" กันไม่ว่าจะเป็น ลักษณะ การปลูก และการดูแล และยังมีข้อมูลที่น่าสนใจอีกมากมายที่เราจะมานำเสนอคุณ ถ้าสนใจก็ตามมาเลย

ข้อมูลทั่วไปต้นชาด

ชื่อภาษาไทย : ชาด, เหียง

ชื่ออื่น ๆ :

  • ยางเหียง (ราชบุรี, จันทบุรี)
  • ตาด (พิษณุโลก)
  • ซาด (ชัยภูมิ)
  • เห่ง (เลย, น่าน)
  • คร้าด (นครพนม)
  • เหียงพลวง เหียงโยน (ประจวบคีรีขันธ์)
  • สะแบง (อุตรดิตถ์, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ)
  • ตะแบง (ภาคตะวันออก)
  • เกาะสะเตียง (ละว้า-เชียงใหม่)
  • ตะลาอ่ออาหมือ (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่)
  • สาละอองโว (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี)
  • กุง (มลายู, ภาคใต้) ไม้ยาง (เมี่ยน) และชาด

ชื่อภาษาอังกฤษ : Hairy Keruing

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dipterocarpus obtusifolius Teijsm. ex Miq.

ชื่อวงศ์ : ยางนา (DIPTEROCARPACEAE)

ชื่อสกุล : Dipterocarpus

credit : th.wikipedia

แหล่งที่พบ

ต้นชาด ว่าเป็นพรรณไม้ที่กระจายพันธุ์อยู่ในประเทศพม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียตนาม และอินเดีย โดยในประเทศไทยเราสามารถพบได้ทั่วทุกภาคตามป่าเต็งรัง ป่าแดง ป่าสนเขา และป่าเบญจพรรณ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม


ลักษณะทั่วไปของต้นชาด

  • ลำต้น

จัดอยู่ในประเภทไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดปานกลาง มีความสูงโดยเฉลี่ย 10-20 เมตร ลำต้นเป็นเปลาตรงและแตกกิ่งก้านเล็กน้อย เรือนยอดมีลักษณะพุ่มกลมๆ หนาๆ เปลือกของลำต้นมีสีน้ำตาลหรือสีเทาและมีความหนาแถมแตกเป็นสะเก็ดบื้นหนา แล้วก็เป็นร่องลึก ตัวเนื้อไม้มีสีแดงอ่อนหรือสีน้ำตาลอมแดง

ต้นชาด
credit : แผ่นดินเกษตร
ต้นชาด
credit : แผ่นดินเกษตร
  • ใบ

เป็นประเภทใบเดี่ยวที่ออกแบบเรียงสลับกัน ใบเป็นรูปทรงรีหรือรูปไข่ขนาดใหญ่ ส่วนปลายและโคนใบจะออกมนๆ ฐานจะเป็นรูปหัวใจ ใบมีความกว้าง 10-18 เซนติเมตร ความยาว 15-30 เซนติเมตร ใบอ่อนจะมีขนยาวๆ แหลมๆ ใบแก่ด้านหลังจะเกลี้ยง ผิวใบด้านหลังกับท้องใบมีขนประปราย ตัวใบหนาเหมือนแผ่นหนังและมีขนเล็กๆ ด้านพื้นของใบเป็นจีบร่อง หูใบมีลักษณะเป็นกาบ

ต้นชาด
credit : phargarden (ยอดอ่อน)
ต้นชาด
credit : phargarden (ยอดอ่อนและใบ)
  • ดอก

จะออกเป็นช่อตามซอกใบ ช่อหนึ่งมี 3-7 ดอก หนึ่งดอกจะมี 5 กลีบ และมีสีชมพูเข้ม ขนาดของดอกประมาณ 3.5-5 เซนติเมตร ก้านของช่อดอกมีความยาว 2-5 เซนติเมตร เมื่อยังอ่อนช่อดอกจะมีกาบหุ้ม โคนกลีบมีลักษณะซ้อนและทับกัน ปลายกลีบจะเป็นแบบบิดเวียน การออกดอกจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปถึงเดือนมกราคม ดอกเมื่อบานเต็มที่ก็จะเริ่มร่วงจนเกลื่อนพื้น

ต้นชาด
credit : phargarden
  • ผล

มีลักษณะเป็นผลแห้ง รูปทรงกลมแข็งๆ เมื่อผลอ่อนจะมีขน แต่เมื่อแก่ผลจะเรียบเกลี้ยงและมีสีน้ำตาล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของผลประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร และมีปีกที่มาจากกลีบเลี้ยงจำนวน 5 ปีก แล้วข้างในผลมีเมล็ดอยู่ 1 เมล็ด ช่วงเวลาการติดผลจะตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงเดือนมิถุนายน

ต้นชาด
credit : phargarden

การขยายพันธุ์

การขยายพันธุ์ของ ต้นชาด ทำได้ด้วย การเพาะเมล็ด เป็นวิธีที่ง่ายและให้ผลดี ต้นไม้นี้สามารถเจริญเติบโตได้ในดินทุกชนิด โดยขอให้มีการระบายน้ำที่ดีและมีความชื้นระดับปานกลางไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป ความต้องการแสงอยู่ในระดับสูงจึงควรจะปลูกไว้กลางแจ้งสามารถรับแสงแดดได้ทั้งวัน


การปลูกและการดูแล

การปลูก

  • แสงแดด

ต้นชาดเป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด หรือแสงแดดตลอดทั้งวัน สามารถทนอยู่ในสภาพ หรือ อุณหภูมิสูงได้ ทนแล้งดี

  • น้ำ

ควรให้น้ำเช้าเย็นในช่วงที่ยังเป็นต้นกล้าหรือ ช่วงที่พึ่งงอกจากเมล็ด แต่ถ้าโตเต็มที่แล้ว ก็สามารถรดน้ำแบบวันเว้นวันได้ โดยปกติต้นชาด เป็นไม่ที่ต้องการน้ำปานกลาง เพราะสามารถทนแล้งได้ดี

  • ดิน

สามารถเจริญเติบโตได้ทุกสภาพดิน ซึ่งในธรรมชาติสามารถพบต้นชาดได้จากทางภาคอีสาน ดังนั้นดินที่เหมาะสมจึงเป็นดินแข็ง ดินทราย หรือถ้าคุณปลูกทั่วไปก็ใช้ดินร่วนปนทรายก็ได้

  • ปุ๋ย

เป็นไม้ที่ไม่ต้องดูแลมากนัก สามารถเจริญเติบโตเองได้ อาจจะมีการใส่ปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงต้นและบำรุงใบ เพราะมีหลายคนที่ปลูกเพื่อที่จะใช้เนื้อไม้ในการขายเข้าสู่ตลาด

การดูแล

ให้ขุดหลุมในขนาดที่พอเหมาะ คือ กว้าง 30 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร และ ลึก 40 เซนติเมตร บริเวณก้นหลุมควรใช้ฟางแห้ง หญ้าแห้ง และใบไม้แห้ง รองที่ก้นหลุม สำหรับกันความชื้น ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 4×4 เมตร แล้วควรจะถางและกำจัดวัชพืชทุกๆ 3 เดือน

หรือถ้าปลูกต้นชาดตอนยังเป็นกล้าอยู่และไม่ค่อยมีเวลาถางหญ้าหรือวัชพืช ก็สามารถเอาถุงดำไปวางทับไว้ที่โคนกล้า เพื่อช่วยลดการเจริญเติบโตของหญ้าที่จะมาแย้งน้ำแย้งอาหารของกล้าชาดได้


ประโยชน์จากต้นชาด

ในเรื่องคุณประโยชน์นั้น ต้นชาด มีประโยชน์นานาจริงๆ เช่น

  • กลีบของดอก สามารถรับประทานได้
  • ใบ สามารถใช้มุงหลังคาหรือเถียงนา หรือจะใช้ทำเป็นฝากั้นได้เช่นเดียวกับใบพลวง แล้วทางภาคเหนือก็ยังใช้ใบในการห่อยาสูบ ห่ออาหารสด ห่ออาหาร อีกด้วย
  • ยางไม้ ใช้ในการยาเครื่องจักรสาร ยาแนวเรือ ยาไม้ ทำไต้ หรือทาไม้ แล้วก็ใช้ผสมกับเนื้อไม้ผุและอัดใส่กระบอกไม้ไผ่ ทำเป็นเชื้อเพลิงจุดไฟ
  • ตัวไม้และเนื้อไม้ สามารถใช้ในงานก่อสร้างทำที่อยู่อาศัย สิ่งปลูกสร้างต่างๆ หรือทำเครื่องใช้ไม้สอย เครื่องจักรสาน และใช้ทำฟืนได้
  • เปลือยไม้ บดให้ละเอียดผสมขี้เลื่อยและกาว ใช้ทำธูป และผสมกำมะัถัน ใช้ทำยากันยุงได้ดี ปกติจะใช้เปลือกได้เมื่ออายุ 6-7 ปี 

อีกประการ ต้นชาด มีสรรพคุณทางยาด้วย เป็นต้นว่า

  • ใบใช้อมแก้ปวดฟัน แก้ฟันโยกคลอน
  • เปลือกของต้น ใช้เป็นยาแก้ไข้ตาลขโมย แก้ท้องเสีย แก้บิด
  • น้ำมันยาง ช่วยขับเสมหะ ขับปัสสาวะ รักษาแผลในทางเดินปัสสาวะ แก้ตกขาวสำหรับสตรี เป็นยาสมานแผล แก้หนอง ใช้ทารักษาแผลภายนอก
  • ใบและยางใช้รับประทานเป็นยาตัดลูกหรือทำให้ไม่มีลูก

ทำไมต้นชาดถึงมีราคา แล้วจะปลูกขายได้ยังไง

ขขึ้นชื่อว่า “ชาด” เป็นไม้ลายสวดมีเนื้อไม้สีแดงอมน้ำตาล ซึ่งทราบกันดีว่าไม้ที่มีเนื้อไม้สีแดงจะขายได้ราคาดี นั้นก็เพราะว่ากลุ่มตลาดการซื้อขายไม้ ให้ความสำคัญกับไม้ชนิดนี้มาก เพราะกลุ่มชาวจีนสมัยก่อน ชอบไม้ที่มีความคงทน และมีสีแดง ดังนั้น ต้นชาดจึงเริ่มเป็นที่สนใจของคนทำธุรกิจปลูกไม้ขายมากขึ้น

เพราะต้นชาด อยู่ในวงศ์ไม้ยาง เป็นไม้ที่มีอายุการตัดตั้งแต่ กลาง ๆจนถึง อายุยาวนานกว่าจะสามารถตัดได้ และนั้นก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ตัดว่าอยากจะขายในราคาที่สูงกว่าที่อื่น โดยใช้เรื่องของขนาด สี และลวดลายของเนื้อไม้ในการเข้ามาเกร็งกำไรในการซื้อขาย

และที่สำคัญยังเป็นไม้ในวงศ์ยางนาที่หายาก ไม่ค่อยได้เห็นเนื้อไม้เอามาวางขายบ่อยจึงทำให้เป็นที่ต้องการมาก ราคาก็สูง น่าสนใจเอามาเพาะปลูกเพื่อเอามาขายในอนาคตมากเลย และแหล่งซื้อขายอย่างถูกกฎหมาย เช่น ตลาดกลาง ซื้อขาย ไม้พยุง ยางนา ไม้มงคลทุกชนิด ถูกกฎหมาย


แหล่งอ้างอิง

ศูนย์ปฎิบัติการพืชเศรษฐกิจ
แผ่นดินเกษตร
phargarden

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้