น้ำเต้า พรรณไม้มงคลที่มาพร้อมคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

ในสมัยก่อน น้ำเต้าได้ถูกนำมาเป็นเครื่องรางของขลังเพื่อให้ผู้คนเช่านำไปบูชาเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลกับชีวิต ซึ่งความเชื่อนี้ถูกส่งต่อมาถึงยุคปัจจุบัน

หากใครที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการฮวงจุ้ยหรือความเชื่อต่าง ๆ คุณอาจเห็นว่าน้ำเต้าได้ถูกนำมาปลุกเสก ลงคาถา ลงอักขระ เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล โดยเชื่อกันว่าน้ำเต้าจะช่วยดูดทรัพย์ รับโชค ช่วยขับไล่สิ่งอัปมงคลต่าง ๆ ให้ออกไปจากชีวิต อีกทั้งยังช่วยเสริมฮวงจุ้ยบ้าน เสริมดวงชะตาชีวิต และยังถูกนำมาแก้อาถรรพ์ต่าง ๆ ด้วย น้ำเต้ายังถูกนำมาแก้ฮวงจุ้ยให้บ้านที่ไม่ถูกหลักตามศาสตร์นี้ เช่น นำไปวางทางสามแพร่ง ทางพุ่งชน ที่ดินรกร้าง ศาลเจ้า และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ 

น้ำเต้าควรปลูกที่บริเวณไหน ถึงจะออกผลดี

น้ำเต้าเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตที่ใดก็ได้ และสามารถพบเห็นได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย เป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยที่ดินนั้นต้องไม่ชื้นมากจนน้ำขังหรือแห้งมากจนเกินไป แต่ก็ยังเป็นพืชที่ไม่ต้องการการดูแลมากนัก หากต้องการปลูกน้ำเต้าให้ออกผลดี แนะนำให้ปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน แต่ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าน้ำเต้าจะเป็นพืชที่ชอบความชื้น แต่ก็ยังสามารถทนความแห้งแล้ง และทนแดดทนน้ำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว

ส่วนประกอบของน้ำเต้า มีอะไรบ้าง

ลักษณะลำต้น

น้ำเต้าเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นขนาดกลาง แต่มีระดับความสูงที่หลากหลาย โดยความสูงของต้นน้ำเต้าจะมีตั้งแต่ 2 เมตรไปจนถึง 10 เมตร กิ่งก้านจะแผ่ไปตามแนวราบ และอ่อนช้อยสวยงาม แต่จะมีรูปร่างเป็นทรงที่ไม่แน่นอน 

ลักษณะใบ

น้ำเต้าเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มีใบเรียงตัวสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปห้าเหลี่ยมและขอบใบหยักเล็กน้อย เส้นกลางใบด้านล่างมีความนูนที่เด่นชัด มีขนขึ้นตลอดทั้งใบและบริเวณก้านใบ

ลักษณะดอก

น้ำเต้ามักออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ ดอกเพศผู้และเพศเมียจะอยู่บนต้นเดียวกัน กลีบดอกเป็นสีขาวมี 5 กลีบไม่ติดกัน โดยที่กลีบดอกมีขนซึ่งมีลักษณะบางและย่น 

น้ำเต้ามีสายพันธ์ุใดบ้างที่พบได้ในเมืองไทย

น้ำเต้า เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกาใต้ เป็นไม้เถาล้มลุกอายุสั้น โดยมีอายุอยู่ได้เพียงแค่ประมาณปีเดียวเท่านั้น สายพันธุ์ของน้ำเต้า มีดังนี้

น้ำเต้าทรงเซียน

หรือที่เรียกกันว่าน้ำเต้าพื้นบ้าน นิยมใช้มาทำเป็นเครื่องประดับ 

น้ำเต้าขม

เป็นสายพันธุ์ที่ไม่นิยมปลูกมากนัก เพราะเป็นสายพันธุ์ที่หาได้ยาก ส่วนใหญ่จึงปลูกเพื่อทำเป็นยาเท่านั้น

น้ำเต้างาช้าง

มีลักษณะเป็นผลรี ๆ ยาว ๆ เหมือนงาช้าง ใช้น้ำมาต้มดื่ม หรือนำมาประกอบอาหาร

น้ำเต้าคอหงส์

เป็นน้ำเต้าที่มีความสวยงาม นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ แต่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ด้วยเช่นเดียวกัน

วิธีปลูกน้ำเต้า ปลูกอย่างไรให้โตไว

ก่อนปลูกน้ำเต้าลงดิน ควรเตรียมดินด้วยการไถพรวนเสียก่อน ร่องแปลงปลูกควรมีความกว้างประมาณ 4 เมตร และหลุมปลูกอาจมีความกว้างประมาณ 20 เซนติเมตร ลึกประมาณ 3 เซนติเมตร จากนั้นนำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักมาใส่ที่ก้นหลุม 

หลังจากที่หย่อนเมล็ดพันธุ์ลงไปในหลุมปลูกแล้ว ให้คลุมดินด้วยฟางข้าวแห้งหรือหญ้าคาเพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดินให้ได้มากที่สุด และควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นประมาณ 7-10 วันจนกว่าต้นกล้าจะงอก 

วิธีดูแลน้ำเต้าให้ต้นสวย พร้อมออกผลงอกงาม

น้ำเต้าต้องการแสงแบบไหน

น้ำเต้าเป็นพืชที่ชอบแสงแดด และสามารถโดนแดดได้ตลอดทั้งวัน ดังนั้น การปลูกน้ำเต้าจึงนิยมปลูกในที่กลางแจ้งที่แสงแดดส่องถึงได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเป็นพืชที่สามารถทนความแล้งได้ดี จึงสามารถมีชีวิตรอดได้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีได้อย่างไม่มีปัญหา

ให้น้ำอย่างไรให้น้ำเต้าสุขภาพดี

ต้นน้ำเต้าเป็นพืชที่ชื่นชอบความชุ่มชื้นในระดับปานกลาง ควรรดน้ำประมาณ 3-5 วัน/ครั้ง แต่หากอากาศร้อนมาก ๆ ควรปรับความถี่ในการรดน้ำให้บ่อยขึ้น แต่ไม่ควรให้ดินแฉะมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดโรครากเน่าได้ 

ดินที่ปลูกน้ำเต้าควรเป็นอย่างไร

ข้อมูลบางแห่งกล่าวว่าต้นน้ำเต้าชอบความชุ่มชื้นในดินที่เหมาะสม แต่ก็ยังสามารถรอดชีวิตได้ในดินที่แห้งแล้ง แต่อาจส่งผลต่อผลผลิตด้วยเช่นเดียวกัน

ดินที่ปลูกน้ำเต้าควรมีความชื้นพอสมควร แต่ไม่แฉะจนทำให้รากเน่า อีกทั้งเวลาปลูกหรือใส่ปุ๋ย ไม่ควรพรวนดินให้ลึกเกินไป เพราะอาจเกิดความเสียหายต่อระบบรากไปจนถึงลำต้นได้

วิธีให้ปุ๋ย ให้น้ำเต้าเติบโตเร็ว

หลักจากปลูกต้นน้ำเต้าได้ประมาณ 7-10 วัน แนะนำให้ใส่ปุ๋ยสูตร 25-7-7 ในอัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ แต่เมื่อปลูกไปแล้วได้ประมาณ 1 เดือน แนะนำให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ในอัตรา 20 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใส่ที่บริเวณโคนต้น 

ประโยชน์ของการปลูกน้ำเต้า ต้นไม้นี้ดีอย่างไร

นอกจากประโยชน์ในเรื่องของเครื่องลางของขลัง และความโชคดีตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว น้ำเต้ายังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายที่ปรากฎในรูปแบบของข้อมูลจากงานวิจัย รวมถึงภูมิปัญญาชาวบ้านด้วย โดยประโยชน์ของน้ำเต้าสามารถจำแนกได้ ดังนี้

• ส่วนของเปลือก เนื้อ และเมล็ดของผลอ่อน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู
• สำหรับผลแก่ จะถูกนำมาขูดเอาเนื้อด้านในและเมล็ดออก แล้วนำผลน้ำเต้าแห้งนั้นมาใช้ใส่น้ำดื่มหรือของเหลวอื่น ๆ
• ใช้เป็นทุ่นจับปลา ใช้เป็นขวดบรรจุสิ่งของหรือเมล็ดพันธุ์พืช หรือใช้เป็นช้อน ทัพพี ขันน้ำ รวมใช้เป็นเครื่องประดับบ้านเรือนเพื่อความสวยงาม
• ประโยชน์ด้านสุขภาพ เช่น ช่วยขับน้ำดี ช่วยเจริญอาหาร ใบสดใช้แก้โรคผิวหนัง แก้เริม งูสวัด แผลพุพองและรอบฟกช้ำ ใบแห้งมีคุณสมบัติในการดับพิษ แก้ไข้ เนื้อหุ้มเมล็ดเป็นยาระบาย ส่วนเมล็ดใช้ถ่ายพยาธิ แก้ปวดศีรษะ เนื้อผล ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แก้ไอ ขับปัสสาวะ ขับน้ำนม เป็นต้น

ราคาน้ำเต้า งบแค่ไหนถึงได้น้ำเต้าไปครอบครอง

ถึงแม้ว่าน้ำเต้าจะเป็นพันธุ์ไม้ที่มีรูปร่างเป็นเอกลักษณ์และมีความแปลกตา แต่ราคาสำหรับเมล็ดน้ำเต้านั้นไม่ได้แพงอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ ราคาของเมล็ดที่จะนำไปเพาะนั้น หากคุณมีงบเพียงแค่ 50 บาท คุณก็สามารถซื้อเมล็ดไปเพาะได้ แต่หากต้องการต้นน้ำเต้าที่โตเป็นต้นแล้ว ราคาอาจเริ่มต้นที่ 300-500 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความสูงของต้น

น้ำเต้า เป็นพืชที่มีประโยชน์รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ทางด้านโภชนาการอาหาร ประโยชน์ทางยา หรือประโยชน์ใช้สอยด้านเครื่องประดับหรือข้าวของเครื่องใช้ อีกทั้งยังเป็นไม้มงคลที่คนไทยเชื่อว่าปลูกแล้วจะช่วยในเรื่องของโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมาอีกด้วย

แหล่งอ้างอิง

: https://www.disthai.com/