มะฮอกกานี ไม้ทำเฟอร์นิเจอร์ ขายส่งกล้าไม้ในราคาพิเศษ พร้อมวิธีการดูแล

ชื่อภาษาอังกฤษ

Dominican mahogany

ชื่อวิทยาศาสตร์

Swietenia mahogany (L.) Jacq.

ความหมาย

ความเชื่อ

มะฮอกกานี   

หากพูดถึงต้นไม้ที่มีชื่อว่า “มะฮอกกานี” เชื่อว่าหลายคนก็คงสงสัยเพราะไม่เคยได้ยินหรือไม่เคยรู้จักต้นไม้ชนิดนี้มาก่อน แต่หากทุกคนได้ทราบถึงข้อมูล รวมถึงเข้าใจลักษณะโดยทั่วไปของต้นมะฮอกกานี หลายคนก็คงร้องอ๋อ ขึ้นมาทันทีเพราะอาจจะเคยเห็นต้นไม้ชนิดนี้มาบ้างแล้ว ตามสองข้างทาง ริมฝั่งถนน หรือปลูกไว้ตามบ้านเรือน โดยในวันนี้เราจะมาให้ข้อมูลหรือสาระที่สำคัญเกี่ยวกับต้นมะฮอกกานี จะได้สนใจแค่ไหนตามไปชมกันเลย

ไม้มะฮอกกานี ราคา

ข้อมูลทั่วไปของต้นมะฮอกกานี

  • มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า “Swietenia mahogany (L.) Jacq.”
  • มะฮอกกานี ภาษาอังกฤษหรือชื่อสามัญคือ “Dominican mahogany”
  • จัดอยู่ในวงศ์ของ “MELIACEAE”

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของมะฮอกกานี

ต้น

ลักษณะของต้นมะฮอกกานี จะมีลำต้นสูงประมาณ 15-20 เมตร โดยมีขนาดเป็นทรงพุ่ม กว้างประมาณ 4-6 เมตร เปลือกของลำต้นมีความหยาบ หนา และขรุขระ แตกออกเป็นร่องตามทางยาวของลำต้น และบางครั้งอาจหลุดลอกออกเป็นสะเก็ดเล็กๆ โดยเปลือกจะมีมีสีน้ำตาลปนสีดำ หรือมีสีน้ำตาลอมเทา

มะฮอกกานีต้นใหญ่

ใบ

ลักษณะของใบมะฮอกกานีเป็นใบประกอบแบบขนนก ซึ่งออกเวียนเรียงสลับกัน โดยมีใบย่อยประมาณ 3-4 คู่ ใบจะออกตรงข้ามกันหรือเยื้องกันเล็กน้อย ใบของมะฮอกกานีจะมีลักษณะเป็นรูปทรงรี มีความกว้างประมาณ 5-6 เซนติเมตรและยาว 10-15 เซนติเมตร โคนใบมนเบี้ยว ส่วนปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ แผ่นใบจะมีสีเขียวคล้ายแผ่นหนัง โดยมีก้านใบยาวประมาณ 0.3 – 0.5 เซนติเมตร

การเจริญเติบโต ของมะฮอกกานี

ดอก

ดอกของมะฮอกกานี จะมีสีเหลืองหรือเหลืองแกมสีเขียว ดอกมีขนาดเล็กและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งจะออกดอกตามซอกใบหรือบริเวณปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงดอกมีสีเขียวอ่อนประมาณ 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ เมื่อดอกบานเต็มที่ดอกจะมีความกว้างประมาณ 0.5-1.0 เซนติเมตร เกสรตัวผู้มี 10 อัน ก้านเกสรเชื่อมติดกันคล้ายรูปแจกัน มีสีแดง ส่วนก้านเกสรตัวเมียสั้นและยอดเกสรตัวเมียจะแผ่แบนคล้ายกับร่ม

ดอกมะฮอกกานี

ผล

มะฮอกกานีจะออกผลเป็นลักษณะผลเดี่ยว ที่มีขนาดใหญ่ รูปทรงกลมหรือรูปทรงรี ผลมีสีน้ำตาล เปลือกหนาและแข็ง โดยมีความกว้างประมาณ 7-12 เซนติเมตรและยาว 10-15 เซนติเมตร เมื่อผลแก่จะแตกออกเป็น 5 พู ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมากเมล็ด เมล็ดมีสีน้ำตาลแบนและบาง โดยมีปีกบางๆ กว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร และยาว 5-6 เซนติเมตร

ผลมะฮอกกานี

รู้หรือไม่ว่า ต้นมะฮอกกานี เป็นต้นไม้ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดให้นำเข้ามาจากต่างประเทศคราวที่เสด็จประพาสยุโรปและมีการนำไปปลูกครั้งแรกเมื่อ รศ. 129 ที่บริเวณถนนราชดำเนิน ถนนราชดำริ ถนนดำรงรักษ์และถนนบริพัตร จังหวัดเพชรบุรี 

ประโยชน์ของต้นมะฮอกกานี

  • ใช้สร้างเป็นร่มเงา ทำให้เกิดความร่มรื่น นิยมปลูกไว้ที่บริเวณบ้านเรือน โรงจอดรถ หรือริมถนน ยิ่งปลูกเป็นต้นเดี่ยวเรียงกันเป็นแถวตามแนวรั้วหรือกำแพง ก็จะสามารถช่วยปิดบังสายตาจากคนภายนอก ทำให้ดูมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
  •  มะฮอกกานีเป็นไม้ยืนต้น ที่มีเนื้อไม้แข็งแรง ทนทาน สามารถนำมาแปรรูปเป็นสิ่งของเครื่องใช้ หรือใช้สร้างบ้านทำเครื่องดนตรี  ฯลฯ ได้มากมายตามความต้องการ
  • มะฮอกกานี จัดอยู่ในต้นไม้สมุนไพรไทยที่สามารถรักษาโรคได้หลายอาการอย่างเช่น เปลือกสามารถนำมาต้มเป็นยาเจริญอาหาร เนื่องจากมีสารเทนนินเป็นส่วนประกอบและมีรสฝาด นอกจากนั้นเปลือกยังสามารถนำมาใช้ต้มดื่มเป็นยาแก้ไข้ ส่วนเนื้อในฝักเป็นยาระบายอ่อนๆ เมล็ดมีรสขมฝาดใช้เป็นยาแก้ไข้พิษหรือบรรเทาอาการปวดศีรษะ เป็นต้น ในส่วนของใบอ่อนและดอกสามารถนำมารับประทานได้

เมื่อพูดถึงการใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ มะฮอกกานี ถือได้ว่าเป็นต้นไม้ที่มีมูลค่าสูง ด้วยลักษณะที่โดดเด่นของแก่นไม้ ซึ่งจะมีสีแดงหรือสีชมพู ยิ่งหากต้นมีอายุมากขึ้น แก่นไม้จะเป็นสีชมพูเข้มไปจนถึงสีน้ำตาล ส่วนกระพี้ไม้จะมีสีออกเหลืองๆสามารถนำมาใช้ทำเครื่องไม้เครื่องมือ คุณสมบัติมีความแข็งแรง ทนทาน อีกทั้งนำมาขัดแล้วไม่แตกหักหรืองอ ในขณะที่เสี้ยนจะมีความละเอียดและค่อนข้างหยาบ ผิวลื่น สามารถใช้ทำแผงควบคุม กรอบประตู หน้าต่างหรือโค้งเครื่องเรือนตลอดจนใช้ปูพื้นทำไม้อัด ไม่เพียงแต่คุณภาพที่แข็งแรงทนทาน แต่เนื้อไม้ยังมีความสวยงามและเป็นที่นิยมในตลาดอีกด้วย

ไม้มะฮอกกานีแปรรูป

การปลูก การขยายพันธ์ และการดูแลรักษามะฮอกกานี

การปลูก

อันดับแรกให้เตรียมดินที่เหมาะสม ควรปักหลักตามแนวปลูกและขุดหลุมที่มีขนาด 30 * 30 เซนติเมตร โดยหลุมควรมีความลึกไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร และแนะนำให้รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก สิ่งสำคัญต้องใช้กล้าไม้ที่มีอายุประมาณ 5-6 เดือน โดยมีขนาดความสูงประมาณ 30- 50 เซนติเตร ก่อนปลูกให้ทำการฉีกถุงออกก่อน เมื่อนำลงหลุมแล้วให้กลบดินให้แน่น ควรปลูกในช่วงฤดูฝนหรือช่วงกลางฤดูฝน เพื่อให้กล้าไม้มีช่วงเวลาสำหรับการตั้งตัวและมีความแข็งแรงหรือมีโอกาสรอดตายสูงไปจนถึงฤดูแล้ง ดินที่เหมาะสมในการปลูกควรเป็นดินร่วนหรือดินทรายปนดินเหนียวเล็กน้อยที่สามารถระบายน้ำได้ดี หรือน้ำไม่ท่วมขัง อุณหภูมิ มะฮอกกานีเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบอากาศร้อนอุณหภูมิโดยเฉลี่ยคือ 10-36 องศาเซลเซียส ส่วนปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ย 1,542 – 5,080 มิลลิเมตรต่อปี แม้ต้นมะฮอกกานีจะสามารถทนต่อสภาพอากาศได้ดี แต่ก็ไม่สามารถทนต่อพายุหรือทนต่อการถูกน้ำท่วมขังนานๆ ได้เพราะอาจทำให้เกิดการชะงักการเจริญเติบโต จนอาจทำให้เกิดการยืนต้นตายได้ในที่สุด ส่วนสภาพภูมิประเทศ มะฮอกกานีสามารถเจริญเติบโตได้ตั้งแต่พื้นที่ระดับต่ำจนถึง 1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล

การขยายพันธุ์

ต้นมะฮอกกานีนิยมการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด

วิธีการบำรุงดูแลรักษา

เริ่มต้นที่การใส่ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยครั้งแรก ควรใส่หลังจากปลูกลงหลุมแล้วประมาณ 1 สัปดาห์และควรใส่ปุ๋ยในปริมาณ 30 กรัมต่อ 1 ต้น ส่วนการใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2 ควรใส่เมื่อต้นตั้งตัวได้แล้วหรือมีอายุประมาณ 3 เดือนและใส่ปุ๋ยขณะช่วงที่ฝนตก จะช่วยให้ต้นไม้สามารถนำธาตุอาหารไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ต่อมา คือ การกำจัดวัชพืชควรทำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง โดยการกำจัดครั้งแรกมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการแก่งแย่ง และครั้งที่ 2 เมื่อเข้าฤดูฝนเป็นการกำจัดวัสดุเชื้อเพลิงที่อาจก่อให้เกิดไฟป่า อาจใช้กำลังคนในการถาง หรือใช้เครื่องจักรกล รถไถ เครื่องตัดหญ้า ไปจนถึงการใช้สารเคมี แต่ควรใช้สารเคมีในกรณีที่มีวัชพืชจำนวนมากในแปลง เช่น ยาฆ่าหญ้า

ปลูกมะฮอกกานี

ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลและสาระที่น่ารู้เกี่ยวกับต้นมะฮอกกานีไม้ยืนต้นที่สามารถนำเนื้อไม้มาแปรรูปหรือใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เนื่องจากเนื้อไม้มีความแข็งแรงทนทานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อีกทั้งยังมีลวดลายของแก่นไม้ที่สวยงาม สีสันเป็นที่ต้องการของตลาด เท่านั้นยังไม่พอ มะฮอกกานี ยังมีประโยชน์สามารถปลูกเพื่อสร้างร่มเงาบริเวณรอบบ้าน ปลูกในสวน หรือริมสองฝั่งของถนน จะทำให้เกิดความร่มรื่น อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่จัดอยู่ในสมุนไพรไทย เนื่องจากมีสรรพคุณในการรักษาโรคได้หลากหลายอาการ ซึ่งถูกใช้ประโยชน์มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ในส่วนวิธีการปลูก การขยายพันธุ์ และการดูแลรักษานั้น การปลูกต้นมะฮอกกานีมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ผู้ปลูกจะต้องศึกษาถึงวิธีการที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้ต้นไม้สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และบางครั้งอาจสามารถนำมาขายสร้างรายได้อย่างมากมายมหาศาล เนื่องจากมะฮอกกานีจัดได้ว่าเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูง และหากใครที่ต้องการซื้อต้นกล้าของมะฮอกกานีมาปลูกสามารถหาซื้อได้จากร้านขายพันธุ์ไม้ทั่วไป หรือจะสั่งซื้อได้จากช่องทางออนไลน์ก็สะดวกสบายไปอีกแบบ แต่ก็ต้องมองหาร้ายจำหน่ายพันธุ์ไม้ที่มีความน่าเชื่อถือด้วย ไปจนถึงกระบวนการขนส่งที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ โดยทั่วไปแล้วต้นมะฮอกกานีที่มีความสูงประมาณ 5 เมตรขึ้นไปจะขายในราคาหลักพันต้นๆ ส่วนเนื้อไม้ที่มีความสวยงามและไม่มีตำหนิ อาจมีราคาสูงถึงหลักหมื่นหลัก หรือหลักแสนเลยทีเดียว

มะฮอกกานี คือ

 

ที่มา

https://www.forest.go.th/

อยากให้มีเนื้อหาเรื่องอะไรเพิ่มเติม หรือมีความคิดเห็นอย่างไร เชิญคอมเม้นท์ไว้ได้เลยครับ