สาธร ไม้มงคลนาม ปลูกง่ายคลายร้อนได้ดี

ชื่อภาษาอังกฤษ

Millettia leucantha

ชื่อวิทยาศาสตร์

Millettia leucantha Kurz

ความหมาย

ต้นสาธร เป็นไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง มักพบขึ้นในป่าเบญจพรรณใกล้แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไป

ความเชื่อ

คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นสาธรไว้ที่หน้าบ้านจะช่วยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี

สาธรเป็นต้นไม้ที่พบขึ้นในป่าเบญจพรรณใกล้แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไป  เป็นไม้ยืนต้นในวงศ์ถั่ว พบในประเทศลาว พม่า และไทยในพื้นที่ที่สูงจากระดับน้ำทะเลไม่เกิน 600 เมตร เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ไม่ใหญ่มาก สูง 18-20 เมตร มีใบที่ใหญ่และดก  นิยมปลูกตามบ้านพักอาศัยไว้ให้ร่มเงา บังแดด ดอกออกเป็นช่อกระจายแยกแขนงสีขาว สวยงาม  เป็นหนึ่งในไม้มงคลที่มีเนื้อไม้และแก่นลักษณะสวยงามจึงนิยมนำมาใช้ในการก่อสร้าง ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์เครื่องเรือนและด้ามจับเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ เช่น เสาเรือน ขื่อ รอด เพลา เกวียน เครื่องนอน ครก สาก เป็นต้น

ต้นสาธร

ข้อมูลทั่วไป

วงศ์  : LEGUMINOSAE

ชื่อเรียกอื่นๆ : กระเจาะ ขะเจาะ ขะแมบ คำแมบ (ภาคเหนือ), กระพีเขาควาย (ประจวบคีรีขันธ์), กะเชาะ (ภาคกลาง)

ความเชื่อเกี่ยวกับต้นสาธร 

คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นสาธรไว้ที่หน้าบ้านจะช่วยให้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี และยังมีความเชื่ออีกว่าใบของต้นสาธรเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช้ในพิธีทางโหราศาสตร์ ใช้ทำน้ำพุทธมนต์สะเดาะเคราะห์ได้ผลดีดังนั้นจึงถือว่าต้นสาธีเป็นไม้มงคลนาม ที่ควรค่าแก่การปลูกเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นสาธรไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หรือบริเวณหน้าบ้าน

ส่วนประกอบของต้นสาธร

ลักษณะของลำต้น

มีเรือนยอดกลมหรือทรงกระบอก เปลือกต้นสีเทาเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ตื้น ๆ เนื้อไม้สีขาวอมน้ำตาล แก่นสีน้ำตาลอมดำ เรือนยอดเป็นพุ่มทึบ

ใบ

มีใบอ่อนและยอดอ่อนมีขนยาวอ่อนนิ่มคล้ายเส้นไหมปกคลุมอยู่ ใบเป็นใบประกอบรูปขนนกเรียงสลับ ใบย่อยติดเป็นคู่ตรงกันข้าม 3-5 คู่ ปลายสุดเป็นใบเดี่ยวแผ่นใบย่อย รูปรี กว้าง 3-5.5 เซนติเมตร ยาว 5-12 เซนติเมตร ปลายแหลม โคนมน ด้านล่างใบสีอ่อนกว่าด้านบน ใบแก่เกลี้ยง

ดอก

จะออกเป็นช่อกระจายแตกแขนงสีขาว ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ออกพร้อมใบอ่อน รูปดอกถั่ว กลีบดอก 5 กลีบ กลีบเลี้ยง 4 กลีบติดกันเป็นหลอดสั้น ออกรวมกันเป็นช่อตามง่ามใบและปลายกิ่ง ออกดอกช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม

ผล

มีลักษณะเป็นฝักแบน รูปขอบขนานคล้ายฝักมีด มีเปลือกแข็ง กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว 4-10 เซนติเมตร ฝักแก่แตกเป็น 2 ซีก ฝักหนึ่ง ๆ มี 1-3 เมล็ด เมล็ดสีน้ำตาล รูปร่างแบนคล้ายโล่ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.3 เซนติเมตร

สายพันธุ์ของต้นสาธร            

สาธร เป็นพืชในวงศ์ Leguminosa ซึ่ง มีอีกหลายสายพันธุ์ที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายคลึงกับต้นสาธรจนคนทั่วไปดูแทบไม่ออก แต่ก็จะเรียกสาธรรวมกันหมด สายพันธุ์ที่นิยมปลูกแพร่หลายจะมี พันธุ์ดอกสีขาวนวล พันธุ์ดอกสีม่วงอ่อน และ พันธุ์ดอกสีเหลืองทอง เป็นต้น           

วิธีการปลูกและสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูก  ต้นสาธร

สาธร เป็นพันธุ์ไม้ที่ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด  และเพื่อให้เมล็ดสามารถงอกได้ดี ก่อนเพาะจึงควรแช่เมล็ดเอาไว้ในน้ำก่อนประมาณ 1 คืน หลังจากเพาะเมล็ดไปได้ประมาณ 10-15 วัน ก็จะเริ่มงอกออกมาให้เห็น และควรย้ายไปปลูกในถุงชำหรือกระถางเล็กๆ เพื่อบำรุงดูแลให้รากและลำต้นมีความแข็งแรง โดยเฉลี่ยราวๆ 3-4 เดือน ก่อนที่จะ นำไปปลูกยังบริเวณที่ต้องการต่อไป โดยขุดหลุมปลูกประมาณ 30 x 30 ซม. ปลูกให้ห่างจากบริเวณโดยรอบไม่น้อยกว่า 3-4 เมตร

ลักษณะต้นสาธร

หลักและวิธีการดูแลต้นสาธรโดยทั่วไป

แสง

ต้องการแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน

น้ำ

ต้องการน้ำและความชื้นสูง  ควรให้น้ำ 2-3 วัน / ครั้ง

ดิน

เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย มีสารอาหารเพียงพอ ระบายน้ำและอากาศได้ดี

ปุ๋ย

สามารถดูแลและบำรุงด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1 – 2 กิโลกรัม/ต้น ใส่ปีละ 4 – 6 ครั้ง

ประโยชน์หรือสรรพคุณอื่นๆ ที่ได้จากต้นสาธร

สาธร เป็นไม้ที่นิยมปลูกในที่พักอาศัย เพราะเป็นไม้มงคลความหมายดีที่มีใบที่หนาคลื้มช่วยสร้างความร่มรื่นและบังแดดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ที่มีดอกสวยงาม รูปทรงเป็นช่อ สำหรับประโยชน์ในทางอุตสาหกรรม เช่น การใช้เนื้อไม้มาแปรรูปทำเป็น เครื่องจักสานและเครื่องใช้สอยต่างๆ เช่น เสาเรือน ขื่อ รอด เพลา เกวียน เครื่องนอน ครก สาก เป็นต้น และ ใบของต้นสาธรยังสามารถใช้ในการหมักซีอิ๊วพื้นบ้านอีกด้วย โดยการนำใบสาธรอ่อนมาตำให้ละเอียด จากนั้นนำไปแช่ด้วยน้ำสะอาดในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท 2 คืน จากนั้นคั้นเอาแต่น้ำ และนำน้ำหมักที่ได้มาต้มจนแห้ง จะได้น้ำปรุงรสที่เรียกว่า “น้ำผักสะทอน” ใช้ระยะเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง รสชาติออกหวานธรรมชาติและเค็มเล็กน้อย นิยมนำมาใช้ปรุงอาหารใช้แทนน้ำปลา ซีอิ๊ว ได้เป็นอย่างดี

คุณสมบัติไม้สาธร

ราคาจำหน่ายของต้นสาธรต่อต้นโดยประมาณ

สาธรเป็นไม้ดอกไม้ประดับที่มีราคาจำหน่ายเฉลี่ยอยู่ที่ต้นละ 100-150 บาท ที่ขนาดความสูง30-45เซนติเมตร และสำหรับไม้ขุดที่มีลำต้นขนาด 3-6 นิ้ว ความสูง 1.5-2 เมตร ราคาจะอยู่ที่ประมาณต้นละ 1000-2000 บาท

แหล่งอ้างอิง

: http://nm.sut.ac.th/koratdata/?m=detail&data_id=2361

อยากให้มีเนื้อหาเรื่องอะไรเพิ่มเติม หรือมีความคิดเห็นอย่างไร เชิญคอมเม้นท์ไว้ได้เลยครับ