เกาลัด ไม้มงคล เสริมสร้างความสำเร็จให้มีลูกหลานเต็มบ้าน

ชื่อภาษาอังกฤษ

Chinese chestnut/ Seven sisters’ fruit

ชื่อวิทยาศาสตร์

Sterculia monosperma Vent.

ความหมาย

เกาลัด คือ ไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง มีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศจีนทางตอนใต้

ความเชื่อ

เกาลัดเป็นสัญลักษณ์ของการขอให้มีบุตรเร็ววัน

เกาลัด พืชเศรษฐกิจที่มีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศจีนทางตอนใต้ บริเวณ มณฑล กวางตุ้ง กวางสี ยูนนาน ไต้หวัน และได้แพร่กระจายผ่านมาทางอินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ญี่ปุ่น รวมทั้งไทย ผลเป็นผลแห้ง แตกเปลือกแข็ง เปลือกสีแดง หุ้มเมล็ดสีดำข้างใน เนื้อในเมล็ดสีเหลือง ต้มสุกแล้วเป็นสีเหลืองสด ผลเมื่อนำไปต้มหรือคั่วก่อนจะรับประทานได้ ไม้นำไปทำเฟอร์นิเจอร์ได้ดี เนื้อไม้มีเรซินมาก นำไปใช้ประโยชน์ทางอุตสาหกรรมได้  และคนไทยยังถือว่าเกาลัดนั้นเป็นไม้มงคล ที่บ้านใดได้ปลูก ก็จะนำบุตรหลานที่ดีมาให้ และครอบครัวอยู่กันอย่างร่มเย็นผาสุก

ต้นเกาลัดจีน ราคา

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อวงศ์ : STERCULIACEAE

ชื่ออื่น เกาลัด (กรุงเทพฯ); เท็งท้อ (ภาษาจีน); หงอนไก่ใบใหญ่ (ภาคใต้)

ความเชื่อเกี่ยวกับเกาลัด

คติความเชื่อเกี่ยวกับต้นเกาลัด ได้รับการถ่ายทอดมาจากชาวไทยเชื่อสายจีน โดยมักเชื่อกันว่า เกาลัดเป็นสัญลักษณ์ของการขอให้มีบุตรเร็ววัน เพราะต้นเกาลัดนี้จะมีดอกให้เห็นอยู่เป็นประจำราวปีละ 2 หน และมีดอกมาก เปรียบได้ดั่งความเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์ จึงนิยมใช้ผลของเกาลัดในพิธีแต่งงาน รวมถึง ความเชื่อที่ว่า เกาลัดเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ จึงถือเป็นหนึ่งในไม้มลคง ที่คนไทยต่างนิยมปลูกไว้ในบ้าน

ควรปลูกต้นเกาลัดบริเวณใดของบ้าน

เนื่องจากเกาลัดคือต้นไม้ หรือไม้ยืนต้นที่มีขนาดใหญ่โตเต็มที่ได้ถึงกว่า 30 เมตร จึงควรปลูกให้เว้นระยะห่างจากตัวบ้าน ไม่น้อยกว่า 10 เมตร เพื่อป้องกันการบดบังจากตัวอาคาร เนื่องจากเป็นไม้ที่ต้องการแสงแดดจัดตลอดวัน จึงควรปลูกในทิศตะวันตก เพื่อช่วยให้ร่มเงากับตัวบ้าน และยังเพื่อประโยชน์ในการรับแสงได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน

ต้นเกาลัด ปลูกในบ้าน

ส่วนประกอบของต้นเกาลัด

ลักษณะของลำต้น

เป็นไม้ยืนต้นที่ลำต้นเหนือดิน ตั้งตรงเองได้ เปลือกเป็นสีน้ำตาล เรียบ และไม่มียาง

ใบ

เป็นใบเดี่ยว เรียงตัวแบบสลับ เป็นใบหอกกลับ ปลายใบม้วน โคนใบเบี้ยว และมีขอบใบเป็นคลื่น

ดอก

ดอกเป็นดอกช่อ อยู่ปลายยอด มีกลิ่นอ่อนๆ กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมติดกัน ปลายใบแยกเป็น 5 แฉกสีชมพูอ่อน ไม่มีกลีบดอก ลักษณะผล เป็นผลกลุ่ม เมื่อผลแก่จะมีสีแดง ผลแตกเดี่ยวเป็นกลุ่ม 1-5 ผล และส่วนสุดท้ายของเมล็ดมี 1-4 เมล็ด เป็นสีน้ำตาล และเป็นทรงรี    เกาลัดไทยจะออกดอกติดผลปีละ 2 รุ่น

สายพันธุ์ต้นเกาลัด

“เกาลัดไทย” ไม่ได้เป็นไม้ไทย แต่ที่ได้ชื่อว่าเกาลัดไทยทั้งที่มาจากจีน ก็เป็นเพราะคำว่า เกาลัด หรือ เกาลัดจีน ที่คั่วขายที่เยาวราช ก็เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว บางแห่งก็เลยเรียกเกาลัดไทยว่า “เกาลัดเทียม” ประกอบไปด้วยพันธุ์พื้นเมืองที่เกิดขึ้นในไทยซึ่งจะปลูกง่าย โตเร็วและให้ผลผลิตเร็วและอีกสายพันธุ์คือ วาวี-2  หรือเกาลัดจีน    ปลูกกันมากที่ดอยวาวี

เกาลัดไทย อยู่คนละวงศ์กับเกาลัดที่คั่วขายกันในราคาแพง ซึ่งเกาลัดกลุ่มนั้นจะเป็นพืชพันธุ์เดียวกันโอ๊กและบีช ซึ่งจะมีสายพันธุ์หลัก 4 สายพันธุ์ คือ เกาลัดหวาน, เกาลัดจีน, เกาลัดญี่ปุ่น และ เกาลัดอเมริกา นั่นเอง

ขายต้นเกาลัด

วิธีการปลูกต้นเกาลัด

การปลูกเกาลัด สามารถปลูกจากกิ่งที่ตอนมาจากต้น หรือใช้วิธีการเพาะเม็ด จากลูกเกาลัดหรือเมล็ดเกาลัด ที่แก่จัดร่วงจากต้นใหม่ๆแล้วนำลงเพาะทันทีแต่ มักจะเกิดการกลายพันธุ์ได้โดยง่าย จึงนิยมปลูกด้วยกิ่งตอนเสียเป็นส่วนใหญ่  ซึ่งโดยทั่วไปจะต้องใช้เวลาประมาณ 6-7 ปี กว่าลำต้นจะมีขนาดที่เหมาะสมในการออกผล

วิธีการปลูก เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลาง ถึงใหญ่ ซึ่งมีขนาดได้ตั้งแต่ 4 ถึง 30 เมตรเลยทีเดียว ฉะนั้นจึงควรปลูกในที่โล่งไม่มีชายคาหรือสายไฟฟ้าค้ำ โดยหลุมที่ขุดไว้ กว้าง 20x 20 ซม. ควรเลือกสภาพพื้นดินที่เป็นดินลึก และหลีกเลี่ยงบริเวณที่เป็นดินเหนียวหรือมีน้ำขังอยู่ตลอดเวลา โดยหากต้องการปลูกหลายๆ ต้น ควรเว้น ระยะห่างอย่างน้อย  4 X 4  ม.  หรือ  4 X 3 ม.

วิธีการดูแล

แสง

ต้องการแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน เพื่อให้ความเจริญเติบโตเต็มที่ หากได้แสงแดดน้อยหรือร่มรำไรจะเจริญเติบโตช้า

น้ำ

น้ำและอากาศถ่ายสะดวก  ชอบความชื้นสูง  ไม่ทนต่อสภาพ น้ำขังค้าง

ดิน

เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ดินร่วน  เนื้อดินลึก  อินทรียวัตถุมากๆ ไม่ควรปลูกในบริเวณที่ดินเหนียวจัด

ปุ๋ย

ควรใส่ปุ๋ยคอก ให้ยิปซัมธรรมชาติ ปีละ 2 ครั้ง  โดยมีการ คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆเต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม  ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม และมีการให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง

ต้นเกาลัดไทย

ประโยชน์หรือสรรพคุณอื่นๆ 

  1. ปลูกเป็นไม้ประดับตามสวนเพื่อความสวยงาม เพราะมักจะออกดอกให้เชยชมอยู่เป็นประจำ และเป็นไม้มงคล
  2. ต้นเกาลัดยังมีสรรพคุณเป็นพืชสมุนไพร ที่ใช้ในด้านรักษาโรค เช่น โรคบิด โรคตับ โรคไต ช่วยบรรเทาอาการท้องเสีย ปวดหลัง แก้เจ็บคอ ช่วยบรรเทาอาการเป็นไข้ เป็นต้น
  3. ผลของเกาลัดสามารถนำมาทำเป็นอาหารคาว นำมาต้มทานคล้ายเม็ดขนุนแต่มีความหวานน้อยกว่า สามารถปลูกเพื่อนำเม็ดไปจำหน่ายได้
  4. ถือเป็นหนึ่งในไม้ฟอกอากาศที่ช่วยดูดซับคาร์บอนคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี ช่วยลดโลกร้อนได้เป็นอย่างดี

ราคาต้นเกาลัดต่อต้นโดยประมาณ

ราคากิ่งตอนของต้นเกาลัดไทย จะอยู่ที่ราคาต้นละ 150-200 บาท  สำหรับต้นที่มีขนาดสูงราวๆ 1เมตร

แหล่งอ้างอิง

: http://www.rspg.or.th/plants_data/

อยากให้มีเนื้อหาเรื่องอะไรเพิ่มเติม หรือมีความคิดเห็นอย่างไร เชิญคอมเม้นท์ไว้ได้เลยครับ