ก้ามปูหลุด ภาษาอังกฤษ : Inch plant, Wandering jew
ก้ามปูหลุด ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tradescantia zebrina hort. ex Bosse หรือชื่อเดิมคือ Zebrina pendula
วงศ์ : Commelinaceae Mirb. (คำระบุชนิด zebrina เป็นภาษาละติน ซึ่งหมายถึง “with stripes like a zebra” (มีลายเหมือนม้าลาย))
ชื่อเรียกอื่น ๆ : พระยาลิดตีนปู, ก้ามปู, ปีกแมลงสาบ ฯลฯ
ก้ามปูหลุด เป็นพืชล้มลุก แตกแขนงมาก โดยเป็นพืชพื้นเมืองในบริเวณชายฝั่งของเม็กซิโกตะวันออก ถือเป็นพืชที่มีใบเป็นลักษณะเด่น ซึ่งใบของก้ามปูหลุดนั้นมีลักษณะเป็นลายแบบทางม้าลายและมีสีสันสวยงาม ในปัจจุบันสามารถพบได้ทั่วไป รวมทั้งประเทศไทย นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ก้ามปูหลุดไม่ได้มีดีเพียงแค่ในด้านความสวยงามเท่านั้น แต่ถือเป็นอีกหนึ่งไม้ประดับที่เต็มไปด้วยประโยชน์และสรรพคุณมากมาย ซึ่งคนส่วนใหญ่นิยมปลูกต้นก้ามปูหลุดในกระถางแขวนเป็นไม้ประดับในร่ม
![ก้ามปูหลุด ภาษาอังกฤษ](https://kaset.today/wp-content/uploads/2022/01/74-ก้ามปูหลุด.jpg)
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นก้ามปูหลุด
ที่มาของชื่อ “ก้ามปูหลุด” นั้นมาจาก เมื่อหักก้านหรือใบของพืชชนิดนี้แล้ว ไม่ช้าก็จะมียอดงอกออกมาแทน เหมือนปูที่ขาหลุดแล้วงอกได้ใหม่ บางคนจึงมีความเชื่อว่าต้นก้ามปูหลุดเป็นไม้มงคล ซึ่งมีความหมายที่สื่อถึงความไม่ยอมแพ้ และสามารถเจริญรุ่งเรืองได้อย่างรวดเร็ว
ควรปลูกบริเวณใดของบ้าน
ก้ามปูหลุดเป็นพืชล้มลุก แตกแขนงออกมาก ลวดลายของใบมีสีสันสวยงาม หากจะนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้านควรปลูกไว้ในพื้นที่ที่แสงแดดสามารถส่องถึง ซึ่งควรเป็นแสงแดดรำไร หรือแสงแดดครึ่งวันเช้า ทั้งนี้สามารถปลูกในบริเวณกลางแจ้งได้ แต่บริเวณนั้นควรมีความชื้นด้วย หากปลูกไว้ในกลางแจ้งควรหมั่นรดน้ำเป็นประจำเพื่อไม่ให้ใบซีดโทรม
ลักษณะของต้นก้ามปูหลุด
- ลักษณะของลำต้น ลำต้นของก้ามปูหลุดมีลักษณะอวบน้ำและทอดเลื้อยไปตามผิวดิน ยอดชูตั้ง มีความสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร ลำต้นเป็นสีเขียวหรือเขียวประม่วงจนถึงม่วงลายเขียว โดยมีข้อและปล้องที่ชัด
- ใบ ใบของก้ามปูหลุดเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับระนาบเดียว ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปรีขอบขนาน มีความกว้าง 1.5-3 เซนติเมตร และยาว 3-8 เซนติเมตร ใบมีสีเขียวเข้มหรือสีเขียวปนม่วงแดง มีแถบสีเทาเงิน 2-3 แถบพาดตามความยาวของใบ ปลายใบแหลมเรียว โคนใบมนเบี้ยว ขอบใบเรียบ หลังใบเป็นสีเขียวอ่อนสลับสีเทาควันบุหรี่ลายทาง ท้องใบเป็นสีม่วงอมแดง ไม่มีก้านใบ กาบใบสั้นเป็นปลอกหุ้มรอบข้อสูงประมาณ 1 เซนติเมตร บริเวณกาบใบมีลายเส้นสีม่วงเป็นแนวตามความยาวและมีขนขึ้นเล็กน้อย
- ดอก ก้ามปูหลุดออกดอกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอดสั้น ๆ มีใบประดับใหญ่ 2 ใบ ซึ่งจะมีขนาดไม่เท่ากันประกบหุ้มช่อดอกอ่อนเอาไว้ ดอกมีสีขาวอมชมพูเล็กน้อย กลีบรองดอกเป็นสีขาว บาง โคนเชื่อมติดกันเป็นท่อ มีความยาวประมาณ 7-10 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นกลีบรูปไข่ 3 กลีบ โดยมีความกว้างประมาณ 4-5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 6-8 มิลลิเมตร กลีบด้านบนเป็นสีม่วง ส่วนด้านล่างเป็นสีขาว กลางดอกมีเกสรเพศผู้ 6 อัน ก้านชูอับเรณูเป็นสีขาว มีขนยาวสีม่วง อับเรณูสีนวล รังไข่มีขนาดเล็ก ในส่วนของก้านเกสรเพศเมียนั้นมีลักษณะเรียว ยอดเกสรเพศเมียมี 3 แฉก ซึ่งดอกจะทยอยบานโผล่เหนือใบประดับ และเมื่อดอกบานเต็มที่ก็จะมีขนาดกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร โดยก้านดอกนั้นจะสั้นมาก
- ผล ผลของก้ามปูหลุดมีลักษณะยาวรี ขนาดเล็ก เมื่อผลแก่จะแตกอ้าออกไปตามความยาวของผลระหว่างช่อง ซึ่งภายในผลนั้นมีเมล็ดอยู่ประมาณ 2-3 เมล็ด
![ลักษณะของก้ามปูหลุด](https://kaset.today/wp-content/uploads/2022/01/Tradescantia-zebrina-flowers.jpg)
สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม
ก้ามปูหลุดด่าง (Tradescantia zebrina Bosse)
เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก โดยก้ามปูหลุดด่างนั้นเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองของประเทศเม็กซิโก และได้มีการขยายพันธุ์ไปในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ลำต้นมีลักษณะเป็นข้อปล้องอวบสีเขียวแซมม่วง ซึ่งจะเลื้อยทอดตัวไปตามพื้นดิน เมื่อโตเต็มที่จะชูยอดตั้งขึ้น มีความสูงได้ประมาณ 10-30 เซนติเมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ ช่วงปลายใบเรียวแหลม ขอบใบเรียบ ออกเรียงสลับกัน ใบด้านบนมีสีเขียวสลับกับสีเทา ท้องใบมีสีม่วงอมแดง ไม่มีก้านใบ ส่วนดอกมักจะออกเป็นช่อกระจุกอยู่บริเวณปลายยอด มีใบประดับสองใบคอยประกบหุ้มอยู่ข้างช่อดอก ดอกมีสีขาวอมชมพูอ่อน ๆ มีก้านดอกสั้น ผลมีลักษณะเรียวยาว ด้านในประกอบด้วยเมล็ดขนาดเล็ก 2-3 เมล็ด
![ก้ามปูหลุดด่าง](https://kaset.today/wp-content/uploads/2022/01/4621c085862ca7e8fe1e0526b02f443c.jpg)
ก้ามปูหลุดด่างชมพู (Tradescantia Nanouk)
เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็กที่หายาก ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ลำต้นหนา มีข้อและปล้องชัด ใบเป็นใบเดี่ยว ใบอวบน้ำ มีลวดลายด่างเป็นแถบสีเขียวและสีชมพูอ่อน บางครั้งมีสีขาวปนอยู่ด้วย ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปรีขอบขนาน กาบใบสั้น มีลายเส้นและสีอย่างละเอียด หลังใบมักจะเป็นสีเขียวอ่อนอมเทา ท้องใบมีสีม่วงอมแดง ดอกอาจเป็นสีชมพูและสีขาว ถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่สวยงามและเลี้ยงได้ง่าย ชอบแสงแดดรำไรไปจนถึงแสงแดดจัด และต้องการน้ำในระดับปานกลาง
![ก้ามปูหลุดด่างชมพู](https://kaset.today/wp-content/uploads/2022/01/c79e2cd6f74f2e325194865106bc0582.jpg_2200x2200q80.jpg_-edited.webp)
ก้ามปูหลุดด่างใบขาวเขียว (Tradescantia fluminensis variegata green and white)
เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก ข้อและปล้องอวบน้ำ ใบมีลวดลายด่างสีขาวแซมเขียวชัดเจน ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปรีขอบขนาน กาบใบสั้น มีลายเส้นและสีที่มองเห็นได้ชัด หลังใบมักเป็นสีเขียวหรือขาว ซึ่งพันธุ์นี้จะมีลำต้นและใบที่เล็กกว่าก้ามปูหลุดพันธุ์อื่นเล็กน้อย สำหรับพันธุ์นี้จะชอบแสงสว่างมาก แต่ไม่ใช่แสงแดดกลางแจ้งโดยตรง เพราะถ้าหากโดนแดดจัดจะทำให้ใบไหม้ได้
![ก้ามปูหลุดด่างขาวเขียว](https://kaset.today/wp-content/uploads/2022/01/cf1a10dc4b4db5e80aa4c09d7b6ad2b4.jpg)
วิธีการปลูกก้ามปูหลุด
การปลูกต้นก้ามปูหลุดสามารถปลูกด้วยวิธีการเพาะเมล็ดหรือแยกลำต้นจากไหลมาปลูก ซึ่งวิธีขยายพันธุ์นั้นสามารถทำได้ง่ายด้วยวิธีการปักชำกิ่ง โดยให้ตัดกิ่งปักชำในกระถางได้เลย ขั้นตอนการปลูกให้ใช้วัสดุเป็นดินร่วนปนทรายในการเพาะปลูก สามารถเพาะปลูกด้วยเมล็ด หรือแยกลำต้นจากไหลมาปลูกลงดินหรือปลูกในกระถาง หลังจากปลูกเสร็จให้รดน้ำ และนำไปตั้งไว้ในที่ร่มที่มีแสงรำไร
วิธีการดูแล
- แสงแดด แสงแดดที่เหมาะสมในการดูแลต้นก้ามปูหลุดให้เจริญเติบโตได้ดีนั้นเป็นแสงแดดรำไร หรือแสงแดดครึ่งวันเช้า สามารถปลูกบริเวณกลางแจ้งได้ แต่ลวดลายสีสันของใบจะซีดโทรมกว่าต้นที่ปลูกในที่รำไร
- น้ำ ก้ามปูหลุดเป็นพืชที่ชอบความชื้นมาก ต้องการน้ำในระดับปานกลาง หลังปลูกควรรดน้ำให้ชุ่ม แต่ไม่ควรปล่อยให้แฉะ
- ดิน ดินที่เหมาะกับต้นก้ามปูหลุดจะเป็นดินร่วนปนทราย และเป็นดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี ดังนั้นควรใช้ดินร่วนปนทรายในการปลูก และหมั่นดูแลไม่ให้ดินมีน้ำท่วมขัง หรืออยู่ในสภาพที่แฉะ
- ปุ๋ย หลังจากปลูกต้นก้ามปูหลุด ให้ดูแลโดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง หรือจะให้หลังจากการตัดแต่งทุกครั้งก็ได้เช่นกัน
![การปลูกก้ามปูหลุด](https://kaset.today/wp-content/uploads/2022/01/k8694f-1024x768.jpg)
ประโยชน์และสรรพคุณต่าง ๆ
- ก้ามปูหลุดเป็นพืชที่สามารถปลูกประดับไว้ในที่ร่มหรือเรือนกระจก เหมาะกับการปลูกคลุมดิน เป็นไม้กระถางแขวน หรือแซมกับพรรณไม้ขนาดใหญ่ใบเขียวในสวนแนวตั้ง
- ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเม็กซิโกในบริเวณตาบัสโกใช้เป็นยาในรูปของชาสมุนไพร ซึ่งเรียกว่า “มาตาลี”
- ตำรับยาแก้โรคหนองใน จะใช้ต้นสดประมาณ 60-120 กรัม นำมาใส่น้ำแล้วต้มให้เหลือ 1 ถ้วย ใช้ดื่มหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง
- ใช้ทั้งต้นเป็นยาแก้พิษงูกัด ใช้พอกฝี ดูดพิษฝี และแก้ฝีอักเสบ
- ทั้งต้นมีรสขมหวานเล็กน้อย ซึ่งเป็นยาเย็น มีพิษเล็กน้อย ออกฤทธิ์ต่อปอดและลำไส้ ใช้เป็นยาทำให้เลือดเย็น ช่วยขับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้เจ็บคอ คอบวม คออักเสบ ใช้เป็นยาขับฝีในท้อง แก้ไตอักเสบ และบวมน้ำ
- ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ รักษานิ่วในทางเดินปัสสาวะ หรือทางเดินปัสสาวะติดเชื้อ ตำรับยาแก้นิ่วหรือทางเดินปัสสาวะอักเสบ จะใช้ต้นสด 50-100 กรัม นำมาต้มกับน้ำ 3 ถ้วย จนเหลือ 1 ถ้วย ใช้รับประทานวันละ 2 ครั้ง
- ใช้เป็นยาแก้ตกขาวของสตรี ตำรับยาแก้สตรีตกขาวมาก จะใช้ต้นสดประมาณ 60-120 กรัม น้ำตาลกรวด 30 กรัม และต่าฉ่าย (Mytilum crassitesta Lischke) อีก 30 กรัม นำมาผสมน้ำต้มให้เหลือครึ่งชาม ใช้ดื่มหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง
- ช่วยแก้อาการไอเป็นเลือด ตำรับยาแก้ไอเป็นเลือดจะใช้ต้นสด 50-100 กรัม นำมาต้มกับปอดหมู รับประทานวันละ 2 ครั้ง ส่วนอีกข้อมูลระบุว่า ให้ใช้ต้นสด 60-90 กรัม นำมาต้มกับปอดหมูหนัก 120 กรัม โดยผสมน้ำต้มให้เหลือ 1 ชาม ใช้ดื่มหลังอาหารวันละ 2 ครั้ง
- ใช้เป็นยาแก้บิด แก้บิดเรื้อรัง อันเนื่องมาจากการติดเชื้อ ตำรับยาแก้บิดจะใช้ต้นสด 50-100 กรัม นำมาต้มกับน้ำข้าว ใช้รับประทาน 3 ครั้ง ส่วนตำรับยาแก้บิดเรื้อรังจะใช้กาบหุ้มดอกสดหนัก 150 กรัม และข้าวสารคั่วจนเกรียม (เริ่มไหม้) 30 กรัม นำมาต้มกับน้ำใช้แบ่งดื่มเป็น 3 ครั้ง
- ลำต้นก้ามปูหลุดเป็นยารักษาแผลไฟไหม้ โดยใช้ทั้งต้นสดนำมาล้างให้สะอาด แล้วตำให้ละเอียด ผสมกับเหล้าขาวเล็กน้อย ใช้ทั้งเนื้อและน้ำพอกบริเวณที่ถูกไฟไหม้วันละ 2 เวลา เช้าและเย็น จะช่วยไม่ให้ปวดแสบปวดร้อนและค่อย ๆ ทุเลาลงจนหายไป
- ลำต้นและใบก้ามปูหลุดใช้ต้มเอาน้ำดื่มเป็นยาแก้กระหายน้ำ
- ตำรายาแผนจีน ไต้หวัน จะใช้ใบก้ามปูหลุดนำมาตำให้พอละเอียด จากนั้นนำไปพอกแก้อาการบวมตามข้อได้ดีมาก
- ใบก้ามปูหลุดสามารถนำไปใช้ต้มน้ำดื่มจะช่วยลดอาการบวมได้
ข้อควรระวัง
ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอและสตรีมีครรภ์ ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้ และสำหรับคนทั่วไปที่จะใช้สมุนไพรชนิดนี้ก็ควรศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ให้รอบคอบ
ราคาต่อต้นโดยประมาณ
ต้นก้ามปูหลุดที่ปลูกในถุงเพาะชำขนาดเล็ก ราคา 15 บาท ส่วนต้นก้ามปูหลุดที่ปลูกในกระถางขนาด 6 นิ้ว ราคา 50 บาท, กระถางแขวนขนาด 8 นิ้ว ราคา 80 บาท และกระถางขนาด 11 นิ้ว ราคา 150 บาท ซึ่งราคาของแต่ละพันธุ์อาจไม่เท่ากัน
![ประโยชน์ก้ามปูหลุด](https://kaset.today/wp-content/uploads/2022/01/ใบก้ามปูหลุด.jpg)