ผักหวาน พืชพื้นบ้าน คุณประโยชน์ที่มาพร้อมภูมิปัญญาพื้นถิ่น

ด้วยความที่เป็นพืชป่าและอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ผักหวาน ถือว่าเป็นผักพื้นบ้านที่คนพื้นถิ่นนับแต่โบราณนิยมนำมาบริโภคเพราะมีประโยชน์และให้คุณค่าอาหารสูงตลอดจนยังมีสรรพคุณทางยาที่ออกฤทธิ์รักษาและบรรเทาอาการต่าง ๆ ตามตำรับยาพื้นบ้านล้านนา จนทำให้ปัจจุบันผักหวานได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ทั้งทางด้านการค้าเชิงพาณิชย์และการนำมาเพาะปลูกในบริเวณบ้านเพื่อใช้ในการบริโภค

ประโยชน์ผักหวาน

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาอังกฤษ : Star gooseberry

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Sauropus androgynus (L.) Merr.

ความเชื่อเกี่ยวกับไม้มงคล

ไม้มงคลประจำบ้านตามความเชื่อที่สืบทอดกันมาแต่โบราณนั้น นอกจากจะนิยมปลูกไม้ที่ให้คุณค่าทางจิตใจแล้ว ไม้มงคลอีกประเภทที่คนเฒ่าคนแก่นิยมนำมาปลูกกันในบ้าน ก็คือ ไม้ประเภทสมุนไพร นั่นเป็นเพราะว่าเป็นไม้ให้คุณทางด้านการรักษาโรคต่าง ๆ ให้แก่คนในชานเรือนได้นั่นเอง ผักหวาน จึงเป็นอีกหนึ่งไม้ให้คุณด้านสรรพคุณรักษาโรคตามตำรายาพื้นบ้านล้านนา นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาพื้นถิ่นเกี่ยวกับพืชรักษาโรคที่ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูกภายในบริเวณบ้าน

ผักหวาน เป็นพืชที่เกิดและเจริญเติบโตได้ดีในทุกภูมิภาคของประเทศไทย เราจะพบมากในป่าเต็งรัง ป่าทุ่ง ป่าแดง ริมทุ่งนา เป็นต้น และที่เห็นกันตามบ้านเรือน มีลักษณะทรงพุ่ม จะเรียกกันว่า ผักหวานบ้าน ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ปลูกและเจริญเติบโตได้ง่ายกว่า ผักหวานป่า และสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี  คนไทยนิยมปลูกผักหวานบ้านไว้ตามริมรั้ว ริมขอบสระน้ำ เพื่อทำเป็นรั้วกั้นและเก็บกินยอดได้ง่าย หรือจะปลูกลงกระถางก็สามารถทำได้เช่นกัน

ส่วนประกอบของต้น

ผักหวาน เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 2-3 เมตร ซึ่งมีลักษณะทางพฤษศาสตร์ดังนี้

ลักษณะของลำต้น

ลักษณะของลำต้นเป็นทรงกลม ตั้งตรง เปลือกต้นสีน้ำตาล ผิวเปลือกขรุขระ มีกิ่งก้านสาขาแตกแยกแขนงออกจากลำต้นเป็นทรงพุ่ม  ก้านกิ่งเล็กสีเขียวปนเทา

ใบ

ลักษณะคล้ายกับใบมะยม ใบเดี่ยวทรงกลมรีปลายแหลม ขึ้นเรียงสลับตามกิ่ง มีก้านใบสั้น ใบอ่อนให้สีเขียวอ่อนและเมื่อแก่จะมีสีเขียวเข้ม

ดอก

ช่อดอกผักหวานจะแทงออกตามซอกใบ เรียงตัวตามก้านใบ เป็นดอกเดี่ยวแยกเพศ ดอกขนาดเล็ก มี 2 ชนิด ดอกเพศผู้จะอยู่ด้านล่างของกิ่ง สีน้ำตาลแดง รูปคล้ายจานกลมแบน ส่วนดอกเพศเมียจะอยู่ด้านบน มีรังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ดอกสีเขียวอมเหลือง

ผล

ให้ผลคล้ายผลมะยม สีเขียวอ่อน ฉ่ำน้ำห้อยเรียงรายใต้กิ่งตามซอกใบ ผลแก่มีสีขาวนวลออกชมพูประกอบด้วยพู บรรจุเมล็ดสามเหลี่ยมขนาดเล็ก เมื่อแก่จัดเปลือกเมล็ดจะหนา แข็ง และมีสีน้ำตาลเข้ม

สายพันธุ์ยอดนิยม

สำหรับผักพื้นบ้านชนิดนี้ พบได้ทั่วไปตามป่าเขา ที่รกร้าง ริมทุ่งนา ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ที่นิยมนำมาปลูกและขยายพันธุ์จะมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ ผักหวานบ้าน และ ผักหวานป่า ซึ่งคุณค่าทางโภชนาการแล้วดูจะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่นัก แต่ด้านลักษณะทางพฤษศาสตร์แล้วแตกต่างกันอย่างชัดเจน ผักหวานป่า จะเป็นพืชยืนต้นขนาดกลาง ที่ให้ใบยาวรีเล็กรูปไข่ สีเขียวเข้มให้ผลกลมรี ส่วนผักหวานบ้าน จะเป็นไม้พุ่มทรงเล็กกว่า ใบเรียวแหลมและใหญ่กว่าเล็กน้อย และให้ผลที่กลมกว่า โดยผักหวานบ้านจะปลูกง่ายกว่าเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี ส่วนผักหวานป่าจะปลูกได้ยากกว่าส่วนมากมักพบได้ตามป่าเต็งรังหลังการเกิดไฟป่าและเก็บผลผลิตได้แค่ช่วงปลายฤดูหนาวถึงต้นฤดูฝนเท่านั้น

วิธีปลูกผักหวาน

วิธีการปลูกต้นผักหวานให้เจริญงอกงาม

การขยายพันธ์ผักหวาน นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการชำกิ่ง เพื่อให้ได้ต้นกล้าที่สมบูรณ์พร้อมนำไปปลูกในพื้นที่ที่เตรียมไว้ โดยทั่วไปแล้วผักหวานเป็นพืชชอบน้ำ แม้จะเจริญเติบโตได้ที่ในทุกภูมิภาคของประเทศไทยแต่ในระยะเริ่มต้นจำเป็นที่จะต้องให้การดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน เพื่อให้ผักหวานสามารถเติบโดตและให้ผลผลิตได้ในระยะยาว

วิธีการดูแลรักษา

แสง

ต้นกล้าเจริญเติบโตได้ดีเมื่อได้รับแสงแดดร่ำไร และไม่จัดมาก แต่เมื่อโตเต็มที่สามารถทนแดดได้ดี

น้ำ

ในระยะต้นกล้า ผักหวานจะค่อนข้างต้องการน้ำในปริมาณมาก ดินควรมีความชื้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ

ดิน

การเตรียมดินปลูกควรเป็นดินร่วนที่มีอินทรียวัตถุสมบุรณ์ และระบายน้ำได้ดี

ปุ๋ย

สามารถให้ได้ทั้งปุ๋ยคอกที่แห้งหรือปุ๋ยหมักที่ย่อยสลายตัวได้ดี โดยทิ้งระยะห่างในการบำรุงปุ๋ย 3 ครั้งต่อปี

ผักหวาน ภาษาอังกฤษ

คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นผักหวาน

คุณประโยชน์ของผักหวานนอกจากคุณค่าทางโภชนาการที่ได้จากการนำมาปรุงอาหารต่าง ๆ แล้ว ยังมีคุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาในการต่อต้านอนุมูลอิสระที่ส่งผลเสียต่อร่างกายอีกด้วย และที่สำคัญและหาไม่ค่อยได้จากพืชชนิดอื่น คือ อุดมไปด้วยวิตามินเคสูง ที่ช่วยในการบำรุงตับ และทำงานได้ดีควบกับวิตามินดี ในการควบคุมปริมาณแคลเซียมในร่างกายให้เป็นปกติ อีกทั้งยังมีฤทธิ์ในการช่วยต่อต้านมะเร็งผิวหนังจากแสงแดดได้อีกด้วย

ราคาต่อต้นโดยประมาณ

ราคาโดยประมาณของต้นกล้าผักหวานจะขึ้นอยู่กับพันธุ์โดยผักหวานบ้านจะมีราคาถูกกว่า เริ่มต้นที่ต้นกล้าละ 7 บาทขึ้นไป ส่วนต้นกล้าผักหวานป่าจะมีราคาที่สูงกว่า เริ่มที่ 20 บาทเป็นต้นไป

แหล่งอ้างอิง

: http://natres.psu.ac.th/radio/radio_article/radio48-49/48-490034.htm

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้