ต้นเฟิร์นสไบนาง หรือ‘เฟิร์นมะขามสไบนาง’ มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ ‘Nephrolepis sp. cultivar.’ และจัดอยู่ในวงศ์ ‘Lomariopsidaceae’ เป็นพันธุ์ไม้ที่หลายบ้านนิยมนำมาปลูกใส่กระถางแขวนให้ใบห้อยลงมาสวยงาม ด้วยลักษณะของไม้ประเภทนี้จัดเป็นไม้ที่มีรากฝอยอยู่ตามผิวดิน ซอกหิน เกิดเป็นพุ่มขนาดใหญ่ ลักษณะของก้านใบจะเรียวยาวเหมือนผ้าสไบจึงได้ชื่อว่าเฟิร์นสไบนาง สามารถปลูกได้ไม่ว่าจะเป็นในกระถางหรือปลูกใต้ร่มไม้ใหญ่ ถือว่าเป็นต้นที่เหมาะแก่การตกแต่งบ้าน เพราะปลูกง่ายตายยาก วันนี้เราจะอยากแนะนำต้นไม้ชนิดนี้ให้รู้จักกันมากขึ้น
ลักษณะต้นเฟิร์นสไบนาง
เฟิร์นสไบนาง เป็นกลุ่มอับสปอร์ที่สร้างสปอร์ชนิดเดียวแบบรูปกลม ซึ่งลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นจะมีดังนี้
ลำต้น: จะเป็นเหง้าสั้น ในลักษณะตั้งตรงหรือเอน แล้วจะมีเกล็ดหรือขนสีน้ำตาลปกคลุมลำต้น
ราก: ลักษณะเป็นเส้นยาวและจะเลื้อยไปตามผิวดิน
ใบ: เป็นแบบใบประกอบขนนก มีความยาวมาก โดยจะยาวได้ถึง 3 เมตร ใบย่อยจะเป็นรูปแถบและมีจำนวนมากอาจจะถึง 100 คู่ ส่วนปลายของใบมีลักษณะเรียวมนค่อนแหลม โคนใบจะป้าน ขอบใบเป็นแบบขอบจักฟันเลื่อยตื้น ก้านใบจะเรียวและเล็ก ลักษณะโดยรวมของใบจะดูอ่อนช้อยปนพลิ้ว
การขยายพันธุ์เฟิร์นสไบนาง
ตามที่ได้ศึกษาจากฐานข้อมูลพันธุ์ไม้ได้แบ่งการขยายพันธุ์ของเฟิร์นสไบนางเป็น 2 วิธี คือ การแยกกอหรือแยกต้นและการเพาะสปอร์ต้นเฟิร์นสไบนาง เป็นต้นไม้ที่มีอัตราการเจริญเติบโตแบบปานกลางถึงเร็วและมีอายุได้ยาวนานเป็น 10 ปี โดยวิธีที่ตามร้านต้นไม้นิยมใช้มากที่สุดคือการแยกกอหรือแยกต้น เพราะใช้วัสดุปลูกแค่ 3 ส่วน คือ ขุยมะพร้าว กาบมะพร้าวสับและดินปลูก โดยให้ผสมทั้งสามส่วนในอัตราส่วน 1:1 เท่า ๆ กัน ขุยมะพร้าวกับกาบมะพร้าวจะเป็นตัวช่วยในเรื่องการรักษาความชื้นพร้อมกับการระบายน้ำ ส่วนดินจะช่วยอุ้มความชื้นกับเพิ่มธาตุอาหาร เมื่อส่วนผสมพร้อมก็ให้ใช้มีดทำการตัดแยกแบ่งกอต้นเฟินออกจากต้นแม่พันธุ์ แล้วจึงเตรียมภาชนะจะแนะนำให้ใช้เป็นกระถางแบบแขวน จากนั้นก็ให้นำขุยมะพร้าวรองก้นกระถางก่อนจะใส่ดินที่ผสมแล้วและต้นเฟิน ขั้นตอนสุดท้ายให้โรยกาบมะพร้าวสับรอบต้นจนเต็มกระถาง
การปลูกและการดูแลเฟิร์นสไบนาง
การรดน้ำ ให้รดอย่างสม่ำเสมอวันละ 2 ครั้ง ในเวลาเช้าและเย็นโดยให้รดน้ำจนเปียกชุ่ม ระหว่างวันอาจจะเพิ่มการรดน้ำแบบละอองฝอยด้วยก็ได้เป็นการให้ความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นสำหรับ
การใส่ปุ๋ย สามารถใช้ปุ๋ยแบบละลายช้าหรือปุ๋ยมูลไส้เดือน ให้ใส่ปุ๋ย 2-3 เดือนต่อครั้ง
แสงแดด ควรจะจัดวางหรือแขวน ต้นเฟินสไบนาง ในพื้นที่ที่มีแสงแดดรำไร ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะจัดวางหรือแขวนในพื้นที่โล่งแจ้งมีแสงแดดจัด หากจะเอาไว้กลางแจ้งควรจะมีการคลุมพื้นที่ เพื่อลดปริมาณการรับแสงแดด สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะแสงแดดจัดจะทำให้เกิดความเสียหายหรือการไหม้ของใบเฟิน
ด้านการดูแล ควรหมั่นสังเกตเมื่อพบว่ามีส่วนที่ตายก็ให้ทำการตัดเล็มทิ้ง ซึ่งส่วนที่ตายนั้นอาจจะเกิดจากโรคก็ได้จึงจำเป็นต้องตัดทิ้ง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ การดูแลอีกประการ เมื่อระยะเวลาปลูกต้นเฟินเกิน 1 ปี ให้ทำการย้ายกระถาง เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ให้รากจะได้เติบโตไปได้อีก โดยปกติการย้ายกระถางสามารถดูได้จากอัตราการเจริญเติบโตของต้นเฟิน ถ้ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วก็อาจจะย้ายในระยะเวลา 6 เดือน นับจากวันที่ปลูกก็ได้
เคล็ดลับในการทำให้ใบของต้นเฟิร์นสไบนางมีความเขียวสดเสมอ ๆ นอกเหนือจากการรดน้ำ ให้ปุ๋ยและเพิ่มความชุ่มชื้นก็คือ การใช้ผงโพลิเมอร์ หรือตามที่ทางเกษตรเรียกกันว่า เจลอุ้มน้ำ ซึ่งผงโพลิเมอร์นี้มีลักษณะเป็นผงแห้งๆ ให้ใส่ลงไปในกระถางต้นเฟินแค่เพียงเล็กน้อยหรือประมาณหนึ่งหยิบมือโรยรอบต้น จากนั้นก็รดน้ำจนชุ่มแล้วผงนี้จะทำการขยายตัว ซึ่งจะขยายตัวได้ถึง 400 เท่าจึงทำให้มีคุณสมบัติในการช่วยอุ้มน้ำ สำหรับการใช้ผงโพลิเมอร์จะมีระยะเวลาที่สามารถอยู่ได้นาน 2-3 ปีต่อการใส่หนึ่งครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเป็นการบำรุงเพิ่มเตมก็สามารถใส่ปุ๋ยโปแตสเซียมให้ต้นเฟินได้อีกด้วย ทำแบบนี้จะช่วยให้ใบเฟินมีความเขียวสดสวยไปได้นาน ข้อควรระวัง ไม่ควรปล่อยให้ดินในกระถางแห้งโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ต้นเฟินช็อคตายได้
ตกแต่งบ้านและสวนด้วยเฟิร์นสไบนาง
เนื่องด้วย ต้นเฟิร์นสไบนาง จัดอยู่ในกลุ่มไม้ประดับที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสำหรับนำไปจัดตกแต่งที่บ้าน ดังนั้นเรามีข้อมูลดี ๆ พอสังเขปมาบอก ดังต่อไปนี้
(1) สำหรับบ้านที่ไม่ค่อยจะมีพื้นที่ สามารถนำต้นเฟินแบบกระถางแขวนตามระเบียงได้ แบบนี้ก็จะทำให้บ้านดูเขียวชอุ่มชุ่มชื่นขึ้น
(2) สำหรับบ้านที่มีพื้นที่เป็นสวนหย่อม ก็สามารถจัดทำแนวไม้ระแนงแล้วแขวนต้นเฟินตามแนวไม้นั้น เมื่อต้นเฟินเติบโตเต็มที่และยาวพลิ้วหรือปลูกไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ให้เป็นไม้เลื้อยอิงอาศัยต้นไม้ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูร่มรื่น เย็นสบาย เกิดความผ่อนคลายและน่าอยู่
3) ปลูกเป็นไม้กระถางตกแต่งเป็นไม้ประดับในบ้านหรือห้องพัก เป็นได้ทั้งพันธุุ์ไม้ประดับและช่วยในเรื่องการฟอกอากาศ ช่วยให้อากาศรอบตัวสดชื่นและปรอดโปร่งขึ้น