ไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง ที่ให้ดอกเหลืองอร่ามสว่างสดใสบานสะพรั่งรับฤดูร้อน อย่างต้นเหลืองปรีดียาธร นับว่าเป็นไม้ประดับสวนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน ซึ่งแม้ว่าจะเป็นไม้เมืองนอก แต่ก็สามารถเติบโตและออกดอกอันสวยงามได้ในเมืองไทย ยิ่งสรรพนามที่เรียกขานยิ่งทำให้ไม้ประดับชนิดนี้กลายเป็นที่นิยมนำมาปลูกกันทั่วบริเวณ ทั้งบริเวณบ้าน สวนสาธารณะชุมชน หรือแม้กระทั้งงามสะพรั่งบนสองข้างถนนสายสระกระโจม-ด่านข้าง หรือทางไปอุทยานแห่งชาติพุเตย จ.สุพรรณบุรี จนกลายเป็นแลนด์มาร์คและจุดแชะภาพสวย ๆ สำหรับนักเดินทางบนถนน อีกด้วย
ความเชื่อเกี่ยวกับไม้มงคล
โดยความเป็นมาแล้ว ต้นเหลืองปรีดียาธร เป็นพันธุ์ไม้นำเข้า สายพันธุ์เดียวกับต้นชมพูพันธ์ทิพย์ ชื่อของเขาก่อนเข้ากรุงสยามคือ ตะเบบูญ่า ซึ่งมีหลายสายพันธุ์ ที่นำเข้าปลุกในประเทศไทยและให้ดอกต่างสีกันต้นกำเนิดของ ต้นตะเบบูญ่า นี้อยู่ที่สเปน ทั้งนี้ยังเป็นไม้มงคลประจำชาติของประเทศแอลซัลวาดอร์ อีกด้วย ทำให้ความงามสะพรั่งของตะเบบูญ่า สวยสง่าสามฐานะดอกไม้ที่โด่งดังของต่างชาติ การนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยจึงถูกเปลี่ยนนามเรียกขานทั้ง 9 สายพันธุ์ตามนามของหม่อมราชวงศ์ต่าง ๆ จึงนับว่าเป็นอีกไม้ประดับที่มีทั้งความงามและคุณค่าทางจิตใจอีกด้วย
ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูกภายในบริเวณบ้าน
โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะเห็น ต้นเหลืองปรีดียาธร หรือ ตาเบบูญ่าเหลือง บานสะพรั่งสองข้างทางถนนเสียมากกว่า แต่ก็ยังมีคนนิยมนำไม้ประดับชนิดนี้มาปลูกในบริเวณบ้านเช่นกัน โดยพื้นที่ที่เหมาะสำหรับปลูกไม้ดอกชนิดนี้ควรเป็นในบริเวณสวนกว้าง และควรต้องมีพื้นที่สำหรับเขาสักหน่อย เพราะเป็นต้นไม้ที่ชอบแดดจัด จึงควรปลูกในที่โล่งแจ้ง เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตได้อย่างสวยสง่างาม โดยเฉพาะฤดูออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ของทุกปี
ส่วนประกอบของต้น
ต้นเหลืองปรีดียาธรเป็นต้นไม้ชนิดยืนต้นผลัดใบที่มีความสูงไม่เกิน 8 เมตร เหมาะสำหรับการปลูกเป็นไม้ดอกประดับ ที่ให้ดอกสวยสะพรั่งเหลืองสว่างสดใส
ลักษณะของลำต้น
ไม้ดอกชนิดนี้มีเรือนยอกเป็นรูปไข่ ลำต้นสีน้ำตาลมีเปลือกหุ้มแตกเป็นร่องขรุขระ เป็นไม้เนื้ออ่อน กิ่งก้านเปราะหักง่าย แตกกิ่งเป็นชั้น ๆ ดูคล้ายทรงพุ่ม
ใบ
ลักษณะของใบหนาแข็ง สีเขียวอมขาว ใบทรงรีเรียวยาว ขอบใบเรียบ ประกอบด้วยใบย่อยแตกออกจากกิ่งใบมีลักษณะคล้ายนิ้วมือ 5 นิ้ว เรียงตัวสลับกัน
ดอก
สีเหลืองสว่าง และออกเป็นช่อ ๆ ละ 3-10 ดอก ลักษณะดอกจะเป็นรูปคล้ายระฆัง มีกลีบติดกัน 5 กลีบ ปลายกลีบแยกเป็นแฉก ๆ มีก้านดอกเป็นหลอด ขั้วดอกมีความเหนียวและร่วงยากกว่าดอกเหลืองอินเดีย เมื่อดอกร่วงจะติดฝักและมีเมล็ดด้านใน
สายพันธุ์ยอดนิยม
ต้นเหลืองปรีดียาธร เป็นหนึ่งใน 5 สายพันธุ์นำเข้าของ ต้นตะเบบูญ่า ไม้ดอกเมืองสเปน และได้รับการนำเข้ามาปลูกในเมืองไทยโดยท่านหม่อมพันธ์ทิพย์ บริพัตร โดยนำมาจากอินโดนีเซีย ซึ่งแต่ละสายพันธ์จะถูกเรียบเรียงและตั้งชื่อตามหม่อมราชวงศ์เพื่อให้เป็นเกียรติแก่ท่านผู้นำเข้ามา ที่นิยมปลูกและเรามักจะเห็นได้บ่อยนั่นก็คือ ต้นชมพูพันธ์ทิพย์ หรือ ชมพูอินเดีย ให้ดอกสีชมพู ที่ตั้งชื่อตามนามของท่านหม่อมหลวงพันธ์ทิพย์ บริพัตร ส่วนต้นเหลืองปรีดียาธร ให้ดอกสีเหลืองสว่าง ตั้งชื่อตามนามของหม่อมราชวงศ์ปรีดียาธร เทวกุล และอีก 3 สายพันธุ์ก็ได้รับชื่อตามนามของหม่อมราชวงศ์ท่านอื่น ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ต้นเหลืองคึกฤทธิ์ จากนามของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ต้นเหลืองถนัดศรี จากนามของ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ และ ต้นเหลืองถวัลภากร จากนาม ม.ร.ว.ถวัลภากร วรวรรณ
วิธีการปลูกต้นเหลืองปรีดียาธรให้เจริญงอกงาม
ต้นตะเบบูญ่าเหลือง หรือ เหลืองปรีดียาธร ปลูกง่าย ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการตอน ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นไม้ประดับเชิงการค้าโดยนิยมขยายพันธุ์แบบการตอนมากกว่าเพราะจะโตเร็วกว่านั่นเอง ต้นเจริญเติบโตเร็วแม้ในสภาวะแห้งแล้ง
วิธีการดูแลรักษา
แสง
เป็นพืชชอบแสง ควรปลูกในที่โล่งแจ้งรับแสงแดดได้ตลอด
น้ำ
ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศทนแล้งได้ดี ต้องการน้ำปานกลางเมื่อยังเล็ก
ดิน
ควรเป็นดินร่วนระบายน้ำได้ดี
ปุ๋ย
เป็นพืชที่โตง่าย ไม่จำเป็นต้องดูแลใส่ปุ๋ยมากมายนัก อาจจะนาน ๆ ครั้งก็เพียงพอแล้ว
คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นเหลืองปรีดียาธร
ด้วยความสวยสดใสของดอกสีเหลืองที่บานสะพรั่ง ของต้นเหลืองปรีดียาธร นับว่าให้คุณประโยชน์ทางใจเป็นอย่างมาก ดังจะเห็นได้จากถนนสายดอกไม้ของจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ซึ่งยามที่ดอกไม้ชนิดนี้เบ่งบานช่างสร้างความประทับใจให้กับนักเดินทางยิ่งนัก นอกจากนั้นด้วยความเป็นไม้ประดับที่ปลูกง่าย ให้ดอกสวยงามและออกดอกมาก จึงกลายเป็นไม้การค้าสำหรับนักตกแต่งสวน สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้อีกด้วย
ราคาต่อต้นโดยประมาณ
ราคาโดยประมาณจะขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นและความสูงของลำต้น โดยต้นกล้าจะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 150 บาทและอาจกระโดยไปถึง 3,000 บาทขึ้นไปได้เลยสำหรับต้นที่โตเต็มที่