ชื่อภาษาอังกฤษ
Sandpaper Vine
ชื่อวิทยาศาสตร์
Petrea volubilis L.
วงศ์
VERBENACEAE
จุดเด่นและความนิยม
เป็นไม้เลื้อยที่ได้รับความนิยมในการนำมาประดับตกแต่งรั้วบ้าน ให้ดูมีความสวยงาม
วิธีการดูแลเบื้องต้น
พวงครามเป็นพืชที่ทนต่อทุกสิ่ง ทำให้การดูแลจึงเป็นเรื่องง่าย เพียงหมั่นลดน้ำทุกวันในช่วงแรก หลังจากนั้นให้ลดวันเว้นวัน เทคนิคการลดน้ำที่ดีคือช่วง เช้ามืดหรือเช้า และช่วงหัวค่ำ หลังจากนั้นให้ใส่ปุ๋ยเพียงเล็กน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพียงเท่านี้ ก็จะได้พวงครามที่แข็งแรงสมบูรณ์และสวยงาม
พวงคราม
ชื่อสามัญภาษาอังกฤษเรียกว่า Sandpaper Vine ชื่อทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า Petrea volubilis L. วงศ์ VERBENACEAE เป็นไม้เลื้อยที่ได้รับความนิยมในการนำมาประดับตกแต่งรั้วบ้าน ให้ดูมีความสวยงาม
ถิ่นกำเนิด พวงคราม และความนิยมที่ได้รับ
บนโลกนี้มีไม้ประดับมากมายที่ได้รับความสนใจ และยืนหนึ่งเป็นราชาหรือราชินีแห่งไม้ประดับ โดยพืชพันธุ์เหล่านั้นมักมีความสำคัญในการช่วยประดับตกแต่งให้สถานที่ดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ทว่า จะมีไม้ประดับกี่ชนิดกัน ที่นอกจากจะได้ความสวยงามแล้ว ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังในการปกป้องคนในบ้านให้ปลอดภัยได้ดังเช่น พวงคราม เนื่องจากพวงครามเป็นไม้เลื้อยที่มีความเข็งแรง เหนียว และทนทาน ทำให้ชาวโลกต่างนิยมนำไปปลูกเป็นรั้วบ้านเพื่อป้องกันสิ่งต่าง ๆ ด้วยเถาที่แน่นและแข็งแรงนี้ ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัยเสมอ อีกทั้งยังมีดอกที่สวยงามไว้ให้ได้ชื่นชมอีกด้วย
โดยถิ่นกำเนิดของพวงครามนั้น มีการค้นพบที่ชัดเจนแล้วว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากแถบ หมู่เกาะเวสต์อินดีส แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจุดเริ่มต้นที่แท้จริงนั้นมาจากจุดในกันแน่ บ้างก็ว่ามาจาก แม็คซิโก บ้างก็ว่าจาก บราซิล แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นล้วนมาจากอเมริกากลางแถบทะเลคาริบเบียน นอกจากนี้ ในอดีต ในแถบอเมริกากลาง มักนิยมนำพวงครามมาปลูกกับเสาบ้าน เพื่อให้พืชชนิดนี้เรื้อยไปตามแนว และออกดอกสวยงามปกคลุมทั่วทั้งหลัง แต่ปัจจุบันนี้ไม่นิยมที่จะปลูกเช่นนั้นแล้ว เนื่องจากห่วงเรื่อยโครงสร้างที่อาจเสียหายจะการชอนไชของพืช ทำให้คนรุ่นใหม่ นิยมนำมาปลูกประดับที่นอกตัวบ้าน เช่น รั้วพวงคราม รั้วบ้าน ประตูซุ้มทางเข้า หรือซุ้มม้านั่ง ด้วยความหนาของเถา จะเป็นดั่งหลังคากันแดดตามธรรมชาติชั้นดี
ทำไมพวงครามออสเตรเลีย จึงได้รับความนิยม
พวงครามก็เหมือนดั่งพืชทั่วไป ที่มีการถ่ายโอนทางพันธุกรรม ทำให้มีพืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกันแต่มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ทว่า หากนักตกแต่งสวนต้องการจะเลือกพวงครามสักสายพันธุ์หนึ่ง พันธุ์ที่มักจะได้รับความนิยมมากที่สุดือ พวงคราม ออสเตรเลีย แม้ว่าประเทศไทยจะมีพวงครามเช่นกัน แต่ความนิยมก็ยังลดน้อยลงมาอยู่ดี
พวงครามออสเตรเลีย แตกต่างจาก พวงครามไทยอย่างไร
พวงครามออสเตรเลีย มีความหนาของลำต้นมากกว่าของไทย และใบที่น้อยกว่า ทำให้ผู้ปลูกไม่ต้องกังวลเรื่องใบที่ร่วงหล่นตลอดเวลา และด้วยความหนาและใหญ่ในการเลื่อย จึงทำให้สายพันธุ์ออสเตรเลีย ด้วยมีความสวยงามกว่านั่นเอง เนื่องจากเป็นสายพันธุ์นอก จึงทำให้โครงสร้างมีขนาดใหญ่กว่า รวมถึงดอกด้วยเช่นกัน ดอกของพันธุ์ออสเตรเลียจะมีความหนา ดอกใหญ่ และเป็นพวงใหญ่สวยงามกว่านั่นเอง แต่ทว่า ก็ไม่ได้ความว่าพวงความไทยจะไม่มีความงามเลย ทั้งหมดทั้งมวลนั้นย่อมขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แม้ว่าพันธุ์ไทยจะบางกว่า ดอกเล็กกว่าก็จริง แต่กลับทดแทนได้ด้วยสีสันที่หลากหลายในสายพันธุ์ เพราะนอกจากดอกสีม่วงแล้ว ยังมีมีดอกสีขาวสวยงามสะอาดตาให้ได้ชมกัน ปัจจุบัน จึงให้ความนิยมที่จะปลูกทั้งสองสายพันธุ์ร่วมกัน เพื่อความหลากหลายนั่นเอง
พวงครามชมพู
เป็นสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่จากสายพันธุ์ออสเตรเลีย มีถิ่นการกระขายอยู่ทางใต้ของไทยเนื้อคราบสมุทรมาเลเซีย ลักษณะเป็นไม้เลื้อยทรงพุ่มปกคลุมด้วยขนสีเทา มีลักษณะไม่แตกต่างจากพวกครามออสเตรเลียมากนัก แต่ดอกจะมีสีชมพู เป็นพืชที่ชอบการปีนป่าย จึงต้องการฐานที่แข็งแรง จะออกดอกก็ต่อเมื่อมีการเลื้อยและเติบโตที่เพียงพอเท่านั้น
วิธีปลูกพวงครามให้ออกดอก โตไวและสวยงาม
ขยายพันธุ์
การขยายพันธุ์สามารถทำได้ 2 วิธี ทั้งเพาะจากเมล็ด และ ตอนกิ่ง ในขั้นแรก ควรเริ่มเพาะเมล็ดจากถาดเพาะ เพื่อให้เมล็ดนั้นงอกออกมาเสียก่อน โดยดินที่ใช้ ควรเป็นดินสำหรับเพาะปลูก เนื่องจากพืชในขั้นต้องยังไม่สามารถหาอาหารเองได้ จึงต้องการดินที่ดีเพื่อสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อการเจริญเติบโตที่ดี หลังจากนั้นหมั่นลดน้ำทิ้งไว้ 2 สัปดาห์ พืชจะเริ่มออกแตกใบที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่พร้อมจะลงดินแล้ว
เตรียมดินปลูก
เมื่อเมล็ดที่เพาะไว้แล้วงอกงาม ให้มาเตรียมดินที่จะนำมาปลูกในหลุมที่ความลึกไม่ต้องมาก ให้สังเกตต้นที่ท่านจะนำมาปลูกให้ขุดลึกลงเท่ากับ 1/3 ส่วนของลำต้นเท่านั้น โดยหลังจากขุดหลุมเอาไว้แล้ว ให้น้ำปุ๋ยคอกรองก้นหลุม หลังจากนั้นน้ำต้นอ่อนพวงครามลงหลุมและกลบดิน เทคนิคสำคัญที่ไม่ควรพลาด คือ หากท่านต้องการให้พวงครามมีความหนาแน่น ควรปลูกอย่างน้อย หลุมละ 3 ต้น เพื่อ 1.ป้องกันการสูญเสียต้นใดต้นหนึ่งระหว่างปลูก 2.เพื่อความสวยงามขณะเจริญเติบโต 3.เพื่อความหนาแน่นในขณะที่พวงครามเลื้อย
สาเหตุที่ทำให้พวงครามไม่ออกดอก
พวงครามเป็นไม้ที่ชอบอยู่ในที่กลางแจ้ง ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน มีความต้องการน้ำปานกลาง แต่จะไม่ชอบให้น้ำขังแฉะ เจริญงอกงามได้ดี ในสภาพดินที่มีความชุ่มชื้นและดินที่มีความร่วนซุยสามารถเก็บความชื้นได้ดี พวงครามเป็นไม้ที่ไม่มีโรคและแมลงรบกวนจนถึงขั้นเสียหาย หากพวงครามไม่ออกดอก อาจะเกิดจากการที่มีแสงแดดไม่เพียงพอ หรือดินไม่เหมาะสม ดังนั้น ควรปลูกในที่กลางแจ้ง และหมั่นพรวนดิน ให้น้ำเป็นประจำ เพื่อให้ออกดอกได้ดี และข้อสำคัญคือ พวงครามจะไม่ออกดอก หรือออกดอกได้น้อยในช่วงฤดูฝนเพราะดินที่แชะกินไป และดอกที่หลุดร่วงได้ง่ายเมื่อโดนน้ำ
การดูแล
เนื่องจากพวงครามเป็นพืชที่ทนต่อทุกสิ่ง ทำให้การดูแลจึงเป็นเรื่องง่าย เพียงหมั่นลดน้ำทุกวันในช่วงแรก หลังจากนั้นให้ลดวันเว้นวัน เทคนิคการลดน้ำที่ดีคือช่วง เช้ามืดหรือเช้า และช่วงหัวค่ำ หลังจากนั้นให้ใส่ปุ๋ยเพียงเล็กน้อยเดือนละ 1 ครั้ง พียงเท่านี้ ก็จะได้พวงครามที่แข็งแรงสมบูรณ์และสวยงาม
วิธีการปลูกประดับพวงครามในบ้าน
การปลูกประดับพวงครามนิยมปลูกกันในบ้าน เป็นซุ้ม รั้ว เพื่อให้ร่มเงา เพราะข้อดีที่ไม่มีแมลงรบกวน และบำรุงรักษาง่าย สามารถอยู่ได้ในพื้นที่กลางแจ้ง และไม่ต้องการนำปริมาณมาก เก็บความชื้นได้ดี และยังเป็นต้นไม้ที่มีความสวยงาม น่าชม ทำให้นิยมปลูกเป็นไม้ประดับต่างๆ การปลูกพวงครามนิยมใช้กิ่งที่ได้จากการปักชำมาปลูกลงดิน ไม่นิยมปลูกลงกระถาง เนื่องจากพวงครามเป็นไม้ที่มีลำต้นค่อนข้างใหญ่ หรือมีเถาที่ค่อนข้างจะเลื้อยไปได้ไกล และจะทำให้โตไวมากกว่า
วิธีการปลูกพวงคราม
- เตรียมดินในบริเวณที่กลางแจ้ง และกว้าง ด้วยการผสมดินกลับเปลือกถั่วที่แช่น้ำไว้แล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน และขุดดินลึกลงไป 1 ใน 3 ของกิ่งชำ
- ทำคานเลื้อยที่มีความแข็งแรงมากพอที่จะรับน้ำหนักของต้นพวงครามได้ และมีขนาดใหญ่ และกว้างมากพอที่ต้นพวงครามจะสามารถเลื้อยต่อไปได้เรื่อยๆ เพราะขนาดของคานมีผลต่อการออกดอกของพวงคราม ยิ่งพวงครามเลื้อยและเติบโตได้เต็มที่ก็จะยิ่งออกดอกได้มากขึ้น
- หมั่นรดน้ำ พรวนดินบ่อยๆ เพราะพวงครามชอบดินร่วนซุย ส่วนการรดน้ำ ช่วงแรกๆให้รดเป็นประจำทุกเช้า จากนั้น ค่อยลดปริมาณลงเหลือ 2-3 วันครั้ง
ไอเดียการปลูกประดับ
- ปลูกเป็นซุ้มทางเข้า ควรปลูกสองต้น และทำคานเลื้อยเข้าหากัน และคอยหมั่นตัดแต่งเพื่อให้พวงครามหันเข้าทิศทางเดียวกัน และไม่รกจนเกินไป
- ปลูกประดับรั้ว ปลูกตามแนวรั้วและปล่อยให้เรื้อยไปตามผนังรั้ว หรือรั้วไม้ ควรปลูกมากกว่า 1 ต้น และเว้นระยะห่าง ประมาณ 1-2 เมตร เพื่อให้พวงครามปกคลุมรั้วได้เต็มที่
- ปลูกเป็นซุ้มม้านั่ง ปลูกจากตรงกลางบริเวณม้านั่ง และค่อยให้พวงครามเลื้อยระย้าออกทุกทิศทางก็จะเพิ่มความสวยงามให้ซุ้มม้านั่งได้เป็นอย่างดี
เคล็ดลับเล็ก ๆ
หากต้องการเพิ่มความสวยงามของพืชสายพันธุ์นี้ ในหนึ่งหลุมควรเป็นพวงครามที่ต่างสายพันธุ์กัน เมื่อเวลาออกดอก จะได้มีความแตกต่างกันในคุณลักษณะพิเศษของแต่ละสายพันธุ์
ประโยชน์ดอกพวงคราม
- สีของดอก นำมาคั้นเป็นสีทำขนม หรือทำผ้ามัดย้อม
ดอกพวงคราม กับ สรรพคุณ ที่คุณไม่เคยรู้
- ลดน้ำตาลในเลือด ในรายของผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน
- ป้องกันโรคหลอดเลือดในสมอง
- ลดไขมันในเลือด
- บำรุงหัวใจ
- ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยให้นอนหลับง่าย
- ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เป็นต้น
เนื่องจาก ดอก พวงคราม มีสรรพคุณที่ช่วยในการบำรุงและบรรเทาโรคที่สำคัญ เกี่ยวกับสมองและหัวใจ การบริโภคที่มากเกินไป อาจจะส่งผลเสียได้ เพราะฉะนั้น ควรขอรับคำปรึกษาจากแพทย์เกี่ยวกับวิธีการใช้ และปริมาน เพราะ สมุนไพร่ ไม่ได้มีฤทธิ์ในการยับยั้งอย่างเฉียบพลัน หากแต่เป็นการบำรุงสะสมที่ต้องใช้เวลาในการดูแลร่างกาย ในรายที่ต้องการเห็นผลในทันที จึงมักไม่ประสบผลสำเร็จ
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ จึงจะเห็นได้ว่า พวงคราม ที่นอกจากจะมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแล้ว ยังมากไปด้วยคุณประโยชน์นานัปการ.
ที่มา
https://www.rspg.or.th
https://osl101.ldd.go.th