ม่วงมงคล ไม้ดอกที่มาพร้อมความงดงามและประโยชน์อีกมากมาย

ม่วงมงคล (Tibouchina – Glory Bush) หรือที่คนทั่วไปจะเรียก ‘ต้นโคลงเคลง’ ทางเว็บไซต์ขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองยาง อำเภอลันตา จังหวัดกระบี่ได้ให้ความรู้ที่น่าสนใจว่าชื่อวิทยาศาสตร์ว่า ‘Melastoma malabathricum L.’ ชื่อสามัญ ได้แก่ ‘Malabar Gooseberry, Malabar Melastome, Melastoma, Indian Rhododendron’ และชื่ออื่น ๆ จะเรียก ‘โคลงเคลงขี้นก, โคลงเคลงขี้หมา (ตราด), อ้า, อ้าหลวง (ภาคเหนือ), ตะลาเด๊าะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ซิซะโพ๊ะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), กะดูดุ (มลายู-ปัตตานี), กาดูโด๊ะ (มลายู-สตูลและปัตตานี), เบร์, มะเหร, มังเคร่, มังเร้, สาเร, สำเร (ภาคใต้), มายะ (ชอง-ตราด) และเป็นพันธุ์ไม้ที่อยู่ในวงศ์ ‘Melastomataceae

ม่วงมงคล
www.tonmaipailay.blogspot.com

ความเชื่อเกี่ยวกับต้นม่วงมงคล

ด้วยความเป็นพันธุ์ไม้ดอกที่ชื่อมงคล จึงมีความเชื่อว่าผู้ใดที่ได้ปลูกต้นนี้ไว้ก็จะนำมาซึ่งโชคลาภความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้ที่ปลูก หลายคนจึงนิยมปลูกเพื่อประดับตกแต่งสวน เป็นไม้ประดับหรือเป็นไม้คลุมดิน เพื่อเสริมความมิ่งมงคลให้กับบ้านของตัวเอง

ลักษณะทั่วไปของต้นม่วงมงคล

ม่วงมงคล
www.naibann.com

ม่วงมงคล เป็นต้นไม้ประเภทไม้พุ่มมีทั้งไม้ยืนต้นใหญ่หรือเป็นไม้พุ่มเตี้ยขนาดเล็กซึ่งมีถิ่นกำเนิดของอยู่ในประเทศไทย มาเลเซียและออสเตรเลียโดยทางเว็บไซต์ gardeninginsouthafrica ได้อธิบายลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของม่วงมงคลไว้ ดังต่อไปนี้

ลำต้น มีความสูงประมาณ 1-3 เมตร กิ่งจะมีสีน้ำตาลแดง รูปทรงเหลี่ยมและจะมีขนอ่อน ๆ สีน้ำตาลอ่อนรอบกิ่ง

ใบ จะเป็นใบเดี่ยว ในรูปลักษณะเรียงตรงกันข้ามเป็นคู่สลับตั้งฉากกัน ใบจะเป็นรูปใบหอก ส่วนปลายและโคนแหลมๆ แผ่นใบจะแข็ง ผิวใบมีเกล็ดแหลมเล็ก ๆ เส้นใบออกจากโคนราว 3-5 เส้น ยาวจรดไปจนถึงส่วนปลายและเส้นใบย่อยจะเป็นแบบขั้นบันได

ดอก จะมีสีม่วงอมชมพู เป็นประเภทดอกสมบูรณ์เพศ ซึ่งจะออกเป็นช่อตรงส่วนปลายของยอด โดยแต่ละช่อจะมี 3-5 ดอก กลีบดอกมีประมาณ 5 กลีบ ปลายกลีบจะออกมน ๆ โคนกลีบมีสีขาว ถ้วยรองดอกจะปกคลุมด้วยเกล็ดลักษณะแบนกับเรียบ กลีบเลี้ยงมีสีม่วงอมแดงอยู่จำนวน 5 กลีบ ส่วนของเกสรเพศผู้จะมีสีเหลืองและมีจำนวนประมาณ 10 เกสร เรียงในลักษณะเป็นวงอยู่จำนวน 2 วง และมีส่วนที่ยื่นออกมาเป็นเส้นโค้งงอสีม่วงอ่อนหรือขาว ในส่วนของรังไข่จะอยู่ใต้วงกลีบ การออกดอกสามารถออกได้ตลอดทั้งปีแต่ในฤดูฝนจะเป็นช่วงที่ออกดอกมากที่สุด

ผล จะคล้ายกับลูกข่าง มีความกว้างประมาณ 0.6 เซนติเมตร ยาว 0.8-1 เซนติเมตร ลักษณะของผลจะมีขนปกคลุม เนื้อในเป็นสีแดงอมม่วง ผลแก่จะมีเปลือกแห้งและแตก ข้างในผลมีเมล็ดเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งจะเป็นเนื้อนุ่ม ๆ  

การปลูกและขยายพันธุ์ม่วงมงคล

การขยายพันธุ์ม่วงมงคลสามารถทำได้ 3 วิธี คือ การเพาะเมล็ด การแยกกอและการปักชำกิ่งแต่วิธีขยายพันธุ์ที่ง่ายและได้ผลดีที่สุด คือ การปักชำกิ่ง ทำได้โดยการตัดกิ่งอ่อนที่สมบูรณ์เป็นท่อนสั้น ๆ ขนาดพอดี ๆ ปักชำลงในกาบมะพร้าวแล้ววางไว้ในพื้นที่ร่มมีแสงรำไร จากนั้นก็ใช้ขวดสเปรย์ฉีดน้ำบ่อย ๆ หรือทั้งวัน เมื่อกิ่งมีรากงอกเต็มที่ (ใช้เวลาประมาณ 1 เดือน) จึงสามารถแยกลงไปปลูกในกระถาง

สำหรับการปลูกเลี้ยงก็ให้ปลูกในดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดีและมีอินทรีย์วัตถุ เพื่อให้ต้นไม้ใช้เป็นอาหารบำรุงต้น สำหรับการรดน้ำ เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่ชอบน้ำในระดับปานกลางก็ให้รดน้ำตามปกติเช้าและเย็น การใส่ปุ๋ยบำรุงแนะนำให้ใช้ปุ๋ยคอก โดยให้ใส่ปุ๋ยเดือนละหนึ่งครั้งก็เพียงพอต่อความต้องการของต้นไม้แล้ว ส่วนพื้นที่ตั้งวางให้เอาไว้ในที่ที่มีแสงแดดหรือกลางแจ้งจะทำให้ต้นไม้เจริญงอกงามเป็นอย่างดี

ประโยชน์ในส่วนต่าง ๆ ของต้นม่วงมงคล

ม่วงมงคล
www.myhomemygardening.com
  • ใบอ่อน สามารถนำไปรับประทานได้เหมือนผักสดทั่วไป ใบปกติสามารถใช้รูดขัดเมือกของปลาไหลได้
  • ผลสุก สามารถใช้รับประทานได้ซึ่งจะมีรสหวานปนฝาด  
  • ราก ช่วยบำรุงร่างกายและบำรุงธาตุต่างๆ ในร่างกาย ใช้ในการปรุงเพื่อเป็นยาแก้โรคมะเร็ง ใช้เป็นยาดับพิษไข้ ช่วยในเรื่องแก้อาการร้อนในและกระหายน้ำ ช่วยในการบำรุงตับบำรุงไตและบำรุงดี ใช้เป็นยาแก้ปวด ใช้เป็นยาบำรุงสตรีหลังการคลอดบุตร
  • ใบ ใช้แก้เชื้อราในช่องปากและลำคอ ใช้รักษาโรคบิดและท้องร่วง ช่วยแก้อาการริดสีดวงทวาร ช่วยรักษาโรคระดูขาวในสตรี ช่วยรักษาและสมานแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ใช้ล้างแผลเพื่อไม่ให้เป็นแผลเป็น ช่วยรักษาโรคโกโนเรีย ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือที่เรียกว่าโรคหนองในแท้
  • ดอก ใช้เป็นยาห้ามเลือด ในกรณีที่คนเป็นโรคริดสีดวงทวาร และ ใช้เป็นยาระงับประสาท

เรียกได้ว่าเป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์มาก เพราะทุกส่วนของม่วงมงคลมีสรรพคุณทางยาสมุนไพรที่ดี ถือเป็นต้นไม้ที่นอกจากจะมีชื่อที่มงคล มีดอกสีสันสวยสดงดงามแล้วยังมีคุณประโยชน์สารพัดจริง ๆ เหมาะแก่การนำไปตกแต่งบ้านและสวน ปัจจุบันต้นนี้ได้วางจำหน่ายกันแพร่หลาย ราคา มีตั้งแต่ 20 – 200 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของต้น สถานที่ที่สามารถหาซื้อได้ อาทิ ตลาดนัดต้นไม้ สวนจตุจักร (กรุงเทพฯ) ตลาดต้นไม้คำเที่ยง (เชียงใหม่) และตามเว็บชอปปิ้งออนไลน์ต่าง ๆ ได้

แหล่งอ้างอิง

Glory Bush

Tibouchina spp.
Tibouchina urvilleana
Tibouchina, Glory Tree, Glory Bush, Princess Flower – Tibouchina species

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้