ความมหัศจรรย์ของวัตถุดิบที่แสนเรียบง่ายอย่างไข่เป็ดหรือไข่ไก่ คือนอกจากจะเป็นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ค่อนข้างหลากหลาย อย่างเช่นการนำเปลือกไข่ที่เหลือจากการทำครัวมาบดเป็นผงเพื่อโรยไล่แมลงในสวนผัก การใช้เปลือกไข่บดหยาบผสมเพื่อเพิ่มรูพรุนในดิน เป็นต้น ปัจจุบันไข่สดก็มีบทบาทต่อวงการเกษตรมากขึ้นอีก เมื่อถูกนำไปใช้เป็นปุ๋ยสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์อย่างแพร่หลายภายใต้ชื่อเรียก “ฮอร์โมนไข่” มันคือการหมักไข่สดกับจุลินทรีย์จนเกิดการย่อยสลาย ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนสูตรให้สอดคล้องกับวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นได้ ศูนย์จัดการกองทุนชุมชนบ้านชากไทย จังหวัดจันทบุรี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์จากฮอร์โมนไข่ไว้ว่า ฮอร์โมนไข่เป็นสารเสริมที่ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรง กระตุ้นให้ติดดอกออกผลได้เร็ว พร้อมกับปรับสภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นในระยะยาว นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายของเกษตรกรและยังให้ผลการบำรุงพืชและดินที่น่าพึงพอใจด้วย
ประโยชน์ของฮอร์โมนไข่
- สามารถทำใช้เองได้ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ง่าย
องค์ประกอบหลักของฮอร์โมนไข่จะมีเพียงแค่ไข่สด จุลินทรีย์ น้ำตาล และน้ำสะอาดเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นการต่อยอดสูตรให้ตอบโจทย์ความต้องการมากขึ้น ส่วนวิธีการทำก็แค่ผสมให้เข้ากันแล้วหมักจนกว่าจะย่อยสลาย จึงจัดเป็นปุ๋ยบำรุงพืชและดินที่ทำได้ง่ายในทุกครัวเรือน
- ต้นทุนในการผลิตค่อนข้างต่ำ
เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ก็เป็นของพื้นฐานที่มักจะมีติดไว้ทุกบ้านอยู่แล้ว ยิ่งเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์หรือเกษตรผสมผสานยิ่งไม่ต้องพูดถึง หลายอย่างหาได้จากในพื้นที่เกษตรนั่นเอง อุปกรณ์ที่จำเป็นก็มีเพียงแค่ถังหมักเท่านั้น ค่าใช้จ่ายในการผลิตฮอร์โมนไข่จึงน้อยมาก
- ช่วยลดปริมาณสารพิษในการทำเกษตร
ฮอร์โมนไข่ประกอบด้วยส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติทั้งหมด จึงใช้งานได้บ่อยโดยไม่ทิ้งสารตกค้างในผลผลิต และไม่ส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อเกษตรกร
- ช่วยกระตุ้นตาดอกและเสริมความแข็งแรงให้เซลล์พืช
ในเปลือกไข่จะมีปริมาณของแคลเซียมคาร์บอเนตค่อนข้างสูง เมื่อผ่านกระบวนการย่อยสลายแล้วจะได้ธาตุคาร์บอนที่เป็นประโยชน์ต่อพืชมาก ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและทำให้พืชแตกตาออกดอกได้ดี ทั้งยังมีกรดฟูลวิคที่ช่วยส่งเสริมกระบวนการดูดซึมสารอาหารพร้อมกับเสริมโครงสร้างให้เซลล์พืชแข็งแรงด้วย
- ช่วยบำรุงให้สัตว์บางชนิดมีสุขภาพแข็งแรง
เราสามารถใช้ฮอร์โมนไข่ผสมกับน้ำหรืออาหารให้สัตว์ เป็นการบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและทนทานต่อโรค โดยสัตว์ที่พูดถึงนี้ก็จะเป็นกลุ่มสัตว์ปีก สัตว์ขนาดเล็ก และปลา ซึ่งนิยมเลี้ยงร่วมไปกับงานด้านเกษตรกรรมนั่นเอง
ประโยชน์ของฮอร์โมนไข่โดยตรงแก่พืชพรรณ
หลังจากได้เห็นประโยชน์ของฮอร์โมนไข่ในภาพรวมกันไปแล้ว คราวนี้ลองมาตีกรอบให้เฉพาะเจาะจงสำหรับการบำรุงพืชพรรณ และผลผลิตทางการเกษตรกันบ้าง เพื่อให้เป็นไอเดียในการนำฮอร์โมนไข่ไปใช้งาน รวมไปถึงการต่อยอดให้ได้สารบำรุงที่เหมาะกับสายพันธุ์พืชที่กำลังเพาะปลูกมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเสริมความสมบูรณ์แข็งแรงให้ต้นข้าวพร้อมเพิ่มน้ำหนักรวง
ใช้ฮอร์โมนไข่ปริมาณ 30 ซีซี ผสมกับน้ำสะอาดประมาณ 20 ลิตร จากนั้นนำไปฉีดพ่นต้นข้าวเป็นประจำทุกช่วง 14 วัน ซึ่งทางกรมส่งเสริมการเกษตรได้แนะนำการใช้ฮอร์โมนไข่ในข้าวไว้ว่า ควรเริ่มต้นฉีดพ่นข้าวที่อายุ 60 วัน และช่วงข้าวเริ่มตั้งท้องสามารถปรับช่วงการฉีดเป็นทุก 7 วันได้ นอกจากฮอร์โมนไข่จะทำให้รวงข้าวมีขนาดใหญ่ เมล็ดสวย และต้นข้าวทนทานต่อโรคแล้ว ยังช่วยให้ดินร่วนซุยอุ้มน้ำได้ดีขึ้น
- กระตุ้นการออกดอกในพืชผลและเพิ่มขนาดดอกเห็ด
ไม่ว่าจะต้องการเร่งดอกในพืชผลหรือเพิ่มขนาดดอกเห็ดก็จะใช้สูตรการผสมฮอร์โมนไข่แบบเดียวกัน คือ ใช้ฮอร์โมนไข่ 20 ซีซี ผสมกับน้ำสะอาด 20 ลิตร ฉีดพ่นที่ต้นพืชทุก 7 วัน เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้พืชออกดอกได้เร็วขึ้น กรณีของเห็ดก็จะมีขนาดดอกและน้ำหนักที่มากขึ้นด้วย
- เสริมให้ผลมีขนาดใหญ่และได้รสชาติหวานกรอบ
ผสมฮอร์โมนไข่ประมาณ 5-10 ซีซีกับน้ำสะอาด 20 ลิตร แล้วนำไปฉีดพ่นที่ต้นพืชทุกช่วง 7-14 วัน จะช่วยให้ผลที่ได้มีขนาดใหญ่และหวานกรอบได้ โดยมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิดเสริมข้อมูลส่วนนี้ไว้ว่า หากต้องการให้เห็นผลชัดเจนขึ้น ฮอร์โมนไข่ที่ใช้ควรเป็นสูตรที่เติมน้ำผึ้งลงไปตั้งแต่กระบวนการหมักประมาณ 1 ลิตร และช่วงการฉีดพ่นก็สามารถยืดระยะเวลาเป็น 21 วันและ 28 วันได้ในตอนท้าย
- ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืชผักพร้อมเพิ่มความหวานกรอบ
กรณีนี้จะใช้เป็นฮอร์โมนไข่ 20 ซีซีผสมกับน้ำสะอาดอีก 20 ลิตร แล้วฉีดพ่นลงบนต้นผักทุก 5-7 วัน โดยยืดหยุ่นตามช่วงอายุการเติบโตของผักชนิดนั้นๆ ถ้าผักมีอายุการเก็บเกี่ยวไม่มากก็เว้นช่วงการฉีดพ่นให้สั้นลง
สูตรฮอร์โมนไข่สูตรต่างๆ
ต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างของสูตรฮอร์โมนไข่ที่สามารถผลิตใช้เองได้ และค่อนข้างได้รับความนิยมในกลุ่มเกษตรกร แต่ละสูตรก็จะมีจุดเด่นและวิธีการนำไปใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกันไป นอกจากควรจะต้องเลือกใช้ให้สอดคล้องกับวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว ยังต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของฮอร์โมนไข่ที่ตรงตามความต้องการด้วย
1. ฮอร์โมนไข่สูตรพืช
สูตรนี้พัฒนามาโดยศูนย์เครือข่าวปราชญ์ชาวบ้านเกษตรยั่งยืนตำบลศรีเมืองชุม จังหวัดเชียงราย เพื่อใช้กับพันธุ์พืชที่ชาวบ้านนิยมเพาะปลูกกันในพื้นที่ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่าย ต้นทุนต่ำ แต่ได้ปุ๋ยบำรุงพืชที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับใช้บำรุงพืชผัก ไม้ดอก พืชไร่ พืชสวน และนาข้าว
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่สด 5 กิโลกรัม
- กากน้ำตาล 5 กิโลกรัม
- ยาคูลท์ใหม่ 1 ขวด
- แป้งข้าวหมาก 1 ก้อน
วิธีทำ
- ตอกไข่ทั้งหมดลงในถังหมักโดยแยกเปลือกไข่พักไว้ก่อน
- เติมกากน้ำตาลใส่ถังหมัก คนให้ไข่แดงแตกและส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- หันมาโขลกแป้งข้าวหมากกับเปลือกไข่ให้ละเอียด ก่อนใส่ลงไปรวมกับไข่และกากน้ำตาลในถังหมัก
- ใส่ยาคูลท์เป็นอันดับสุดท้าย แล้วคนไปทางเดียวตลอดจนทุกอย่างดูเข้ากันดี ได้ที่แล้วก็ปิดฝาถังหมักไว้ประมาณ 7-14 วัน อย่าลืมเปิดถังเพื่อคนส่วนผสมทุกวันด้วย
การนำไปใช้
ถ้าต้องการใช้เพื่อเสริมสร้างการเติบโตและเร่งดอกในพืชผักและไม้ดอก ให้ใช้ฮอร์โมนไข่ 5-10 ซีซี ผสมกับน้ำสะอาด 20 ลิตรเพื่อฉีดพ่นทางใบ แต่ถ้าเป็นพืชส่วนหรือพืชไร่ ให้ปรับอัตราส่วนเป็นฮอร์โมนไข่ 10-15 ซีซี ผสมน้ำ 20 ลิตร ส่วนกรณีที่นำไปใช้ในนาข้าวจะต้องเพิ่มความเข้มข้นให้เป็นฮอร์โมนไข่ 15-20 ซีซีกับน้ำ 20 ลิตร
2. ฮอร์โมนไข่สูตรทางเลือกใหม่ของชาวนา
อย่างที่เรารู้กันดีว่าการทำนาในปัจจุบันต้องประสบปัญหาค่อนข้างหลากหลาย ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นในขณะที่ผลกำไรไม่ได้โตตามเท่าไรนัก สำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจึงได้ร่วมกันพัฒนาสูตรฮอร์โมนไข่ที่เหมาะกับต้นข้าว เพื่อช่วยเพิ่มผลผลิต ลดค่าใช้จ่าย และลดสารพิษที่จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย ให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยเกษตรกรได้ในระยะยาว
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่สด 10 กิโลกรัม
- นมสด 10 ลิตร
- กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม
- ยาคูลท์ 2 ขวด
- ลูกแป้งข้าวหมาก 2 ก้อน
วิธีทำ
- ตอกไข่ใส่ถังหมักแล้วตีไข่ขาวกับไข่แดงให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว ส่วนเปลือกไข่ให้นำมาบดละเอียดก่อนค่อยผสมลงไป
- เติมกากน้ำตาล ผงแป้งข้าวหมากบดละเอียด และยาคูลท์ซึ่งใช้เป็นหัวเชื้อจุลินทรีย์ลงไป ถ้าไม่มียาคูลท์ก็สามารถหานมเปรี้ยวชนิดอื่นทดแทนได้
- คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จากนั้นปิดถังหมักให้มิดชิดเก็บไว้ในที่ร่ม อายุการเก็บรักษาจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 เดือน
การนำไปใช้
เมื่อต้องการใช้ในนาข้าว ให้ผสมฮอร์โมนไข่ปริมาณ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำสะอาด 20 ลิตร ฉีดพ่นต้นข้าวทุกช่วง 7 วัน จะช่วยให้ข้าวสมบูรณ์ มีรวงขนาดใหญ่ ได้เมล็ดข้าวอวบสวย และแม้ว่าจะเป็นสูตรที่ผลิตมาเพื่อต้นข้าวแต่ก็ใช้กับไม้ผลได้ด้วย โดยผสมฮอร์โมนไข่ 10 ช้อนแกงต่อน้ำสะอาด 20 ลิตร ฉีดพ่นต้นพืชหรือรดลงดินสัปดาห์ละครั้งในช่วงเร่งดอกและผล
3. ฮอร์โมนไข่สูตรเร่งตาดอก
หากต้องการเน้นบำรุงต้นพืชเพื่อเร่งการออกดอก สูตรนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะคิดค้นมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ นี่คือผลงานของศูนย์เรียนรู้ปราชญ์ชาวบ้าน กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านเหล่ามะละกอ จังหวัดราชบุรี ที่นอกจากจะใช้ผลไม้ที่มีมากในพื้นที่แล้ว ยังมีการเสริมกลูโคสให้ปฏิกิริยาการย่อยสลายเกิดได้เร็วขึ้นด้วย
วัตถุดิบ
- ไข่ไก่ 10 กิโลกรัม
- กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม
- ลูกข้าวหมาก 1 ลูก
- กลูโคส 2 กิโลกรัม
- ยาคูลท์ 5 ขวด
- กระทิงแดง 5 ขวด
- น้ำมะพร้าว 5 ลิตร
วิธีทำ
- จุดสำคัญคือต้องตอกไข่แยกไว้แล้วทำเปลือกไข่ให้ละเอียด จะใช้มือบดหรือใส่ลงเครื่องปั่นก็ได้ ยิ่งเปลือกไข่มีขนาดเล็กมากเท่าไร กระบวนการหมักก็ดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น
- หลังจากเตรียมในส่วนของไข่ไก่เรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำมาผสมกับวัตถุดิบที่เหลือทั้งหมด แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันในถังหมัก ปิดฝาให้สนิทแต่ไม่ต้องแน่นมากนัก ตั้งไว้ในที่ร่มประมาณ 7 วันก็นำไปใช้งานได้
การนำไปใช้
ให้ผสมฮอร์โมนไข่ในปริมาณ 100 ซีซี ต่อน้ำสะอาดประมาณ 200 ลิตร แล้วฉีดพ่นทางใบอย่างต่อเนื่อง
4. ฮอร์โมนไข่สำหรับเร่งดอกและผล
สูตรนี้เป็นผลงานของกลุ่มเกษตรสร้างสรรค์ที่ทำแล้วได้ทั้งฮอร์โมนไข่และปุ๋ยหมัก แต่จะต้องมีการเตรียมทำหัวเชื้อจุลินทรีย์เอาไว้ล่วงหน้า เพราะเขาจะใช้ประโยชน์จากพืชที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นแทนการใช้นมเปรี้ยว จุดเด่นของสูตรนี้อยู่ที่เร่งการออกดอกและช่วยบำรุงผลได้ดีมาก แถมยังเพิ่มธาตุแคลเซียมให้ต้นพืชในปริมาณสูงด้วย
วัตถุดิบ
- หัวเชื้อจุลินทรีย์เหง้ากล้วย 1 ลิตร
- ไข่ไก่ 1 กิโลกรัม
- กากน้ำตาล 1 ลิตร
- น้ำมะพร้าวอ่อน 2 ลูก
- ลูกแป้ง 1 ลูก
วิธีทำ
- ตอกเอาเฉพาะเนื้อไข่ใส่ลงในถังหมัก แยกเปลือกเอาไว้ต่างหาก
- เติมส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้ลงไป คนให้เข้ากันแล้วปิดถังหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน
- ก่อนใช้งานให้นำฮอร์โมนไข่มาปั่นละเอียดก่อน เพื่อป้องกันหัวเชื้ออุดตัน
- เปลือกไข่ที่แยกไว้ก็ให้นำไปตากแห้งแล้วบดละเอียดทำปุ๋ยหมักต่อไป
การทำหัวเชื้อเหง้ากล้วย
หัวเชื้อจากเหง้ากล้วยก็มีหลายสูตรเช่นเดียวกัน แต่ถ้าเป็นแบบพื้นฐานก็จะใช้ส่วนประกอบแค่ 2 อย่าง คือเหง้ากล้วยและกากน้ำตาล อัตราส่วนของเหง้ากล้วยต่อกากน้ำตาลคือ 3:1 โดยเริ่มจากหั่นเหง้ากล้วยเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อให้ย่อยสลายได้ง่าย คลุกเค้ากับกากน้ำตาลแล้วหมักใส่ถังไว้ 7 วัน ครบกำหนดแล้วก็คั้นเอาแค่ส่วนน้ำมาใช้
การใช้งาน
ผสมฮอร์โมนไข่ 2 ช้อนโต๊ะกับน้ำสะอาด 5 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืช แต่เมื่อเห็นว่าเริ่มออกดอกแล้วให้ปรับลดอัตราส่วนการผสมลง เป็นฮอร์โมนไข่ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 5 ลิตร สามารถใช้ร่วมกับเปลือกไข่ที่เราทำเป็นปุ๋ยหมักได้
แหล่งอ้างอิง
- ฮอร์โมนไข่, ศูนย์ประสารงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ศูนย์ประเมินผล สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร.
- ฮอร์โมนไข่ หนังสือเกษตรอินทรีย์ภาคปฏิบัติ 3, อาจารย์อธิศพัฒน์ วรรณสุทธิ์
- รวมสูตรฮอร์โมนไข่ ใช้แล้วได้ผลดีเกินคาด, มูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิด.
- ฮอร์โมนไข่ ทางเลือกใหม่ของชาวนา, สำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา.