ต้นทุเรียนเทศจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กมีความสูงโดยประมาณ 5-8 เมตร เป็นไม้ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มมีลักษณะคล้ายเจดีย์ ผลมีลักษณะคล้ายทุเรียน รับประทานได้มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ในบ้านเรามักนิยมนำส่วนใบหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำไปตากแห้งสามารถนำมาชงดื่มเช่นเดียวกันกับการชงชาเพื่อช่วยยับยั้งการสร้างเซลล์มะเร็งในร่างกาย ซึ่งราคาที่จำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาดมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละประมาณ 80-100 บาท ชาวเกษตรกรในปัจจุบันจึงได้เริ่มหันมาปลูกต้นทุเรียนเทศกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทั้งนี้เพราะสามารถทำได้ทั้งการเพาะต้นพันธุ์เพื่อจำหน่าย รวมถึงการจำหน่ายผลสุก เมล็ดพันธุ์ และใบแห้งก็สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่ดีเยี่ยม ที่สำคัญไม่เพียงสามารถจำหน่ายได้ราคาดีภายในประเทศไทยเท่านั้น ยังสามารถส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้อีกด้วยจึงสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาอังกฤษ : Sour sop , Durian belanda
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Annona muricata Linn.
ส่วนประกอบของต้นทุเรียนเทศ
ลักษณะของลำต้น
ส่วนเปลือกของลำต้นจะมีลักษณะผิวเรียบ มีสีน้ำตาลอ่อน เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กความสูงโดยประมาณอยู่ที่ 5-6 เมตร ลำต้นตั้งตรงแผ่กิ่งก้านสาขาค่อนข้างกว้าง
ใบ
มีลักษณะผิวเรียบเป็นมันเงา มีสีเขียวเข้ม บริเวณโคนใบจะมีรูปทรงโค้งมนส่วนด้านปลายของใบจะมีลักษณะเรียวแหลมเป็นวงรี มีใบค่อนข้างหนา และเนื่องจากเป็นไม้ไม่ผลัดใบจึงทำให้มีสีเขียวชอุ่มตลอดปี
ดอก
ดอกมีสีเหลืองปนเขียวอ่อน ลักษณะดอกอวบและหนา มีกลิ่นหอม ออกดอกเป็นช่อช่อละประมาณ 3-4 ดอก
ผล
ทุเรียนเทศ ผลไม้ชนิดหนึ่ง ผิวของผลมีลักษณะขรุขระเป็นหนามแหลมทั่วทั้งผล ผิวเปลือกด้านนอกมีสีเขียว ส่วนเนื้อด้านในมีสีขาว มีกลิ่นหอม รับประทานได้มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ด้านในผลจะมีเมล็ดสีดำ
สายพันธุ์ของทุเรียนเทศที่นิยมปลูก
ในประเทศไทยนิยมปลูกทุเรียนเทศสายพันธุ์ Subonica ซึ่งสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง ในทวีปเอเชียมักพบได้ในประเทศไทย ( ทางภาคใต้ ) , มาเลเซีย , สิงคโปร์ เป็นต้น
วิธีการปลูกและพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกทุเรียนเทศ
วิธีการปลูกต้นทุเรียนเทศสามารถทำได้ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ดและการทาบกิ่ง
การเพาะเมล็ด
สามารถทำได้โดยการนำเมล็ดแก่แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1-2 วัน จากนั้นนำลงปลูกในดินผสมที่เตรียมไว้ โดยต้นทุเรียนเทศจะค่อยๆงอกออกมาภายใน 1 สัปดาห์ แต่การปลูกโดยวิธีเพาะเมล็ดนี้ต้นพันธุ์จะมีการเจริญเติบโตช้า ทำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ช้าลงไปด้วย โดยสามารถออกดอกได้ในปีที่3 และติดผลได้ในปีที่ 4
การทาบกิ่ง
สามารถทำได้โดยการเลือกกิ่งที่เหมาะสมไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป วิธีนี้จะทำให้ต้นทุเรียนเทศเจริญเติบโตเร็วกว่าการปลูกด้วยวิธีเพาะเมล็ด ส่วนมากจึงนิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการทาบกิ่งมากกว่าการเพาะเมล็ด
ในการปลูกต้นทุเรียนเทศนั้นควรปลูกในพื้นที่ที่เป็นดินร่วนซุยหรือเป็นดินที่มีคุณสมบัติสามารถระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดส่องถึงรำไรหรือส่องถึงเพียงครึ่งวัน ควรเว้นระยะห่างระหว่างต้นที่จะปลูกประมาณ 4×4 เมตร และควรรดน้ำให้ชุ่ม
วิธีการดูแลรักษาเพื่อให้เจริญงอกงามและให้ผลผลิตที่ดี
แสง
ต้นทุเรียนเทศเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไรควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง แต่แดดไม่แรงจนเกินไปหรืออาจเลือกปลูกในพื้นที่ที่แดดส่องถึงได้เพียงครึ่งวัน
น้ำ
เป็นพืชที่ชอบความชุ่มชื้นสูงจึงควรปลูกในที่ที่ใกล้แหล่งน้ำหรือมีแหล่งน้ำหล่อเลี้ยงได้อย่างเพียงพอ ซึ่งในระยะแรกควรรดน้ำเช้า-เย็น ทุกวัน เมื่อต้นพันธุ์เริ่มแข็งแรงให้รดน้ำวันละ 1 ครั้งในช่วงเช้า และเมื่อมีอายุครบ 2 ปีขึ้นไป ให้รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ตามสภาพอากาศในขณะนั้น
ดิน
ควรเป็นดินร่วนซุยสามารถระบายน้ำได้ดีและมีความชุ่มชื้นที่เพียงพอ
ปุ๋ย
สามารถใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อเร่งโตได้ในช่วง 1-2 ปีแรก จากนั้นงดการให้สารเคมีใดๆทั้งสิ้น สามารถให้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักได้เดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1-2 กำมือต่อต้น
สรรพคุณดีๆของทุเรียนเทศที่อยากบอกต่อ
นอกจากทุเรียนเทศจะสามารถรับประทานเพิ่มความอร่อยให้แก่เราแล้วยังมีสรรพคุณทางยาอีกมากมายที่หลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบ เช่น
ผลสุก
สามารถรับประทานได้มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว สามารถนำมาทำเป็นเครื่องดื่มแสนอร่อยหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อย่างอื่นได้ด้วย
ผลดิบ
มีสรรพคุณช่วยแก้โรคบิด
เมล็ด
สามารถนำมาบดให้ละเอียดเพื่อใช้ห้ามเลือดได้
ใบสดหรือใบตากแห้ง
สามารถนำมาชงดื่มแทนชา ลักษณะการรับประทานเช่นเดียวกันกับการดื่มชา เนื่องจากมีฤทธิ์สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในร่างกายได้ เป็นยาระงับประสาท ใช้บำรุงหัวใจ แก้โรคเบาหวาน แก้โรคท้องอืด เป็นต้น
ราคาต่อต้นของทุเรียนเทศโดยประมาณ
ผลสด
ราคาประมาณ 150 บาทถึง 350 บาท/กิโลกรัม
เนื้อทุเรียนเทศแช่แข็ง
ราคาประมาณ 300-450 บาท/กิโลกรัม
ใบสด
ราคาประมาณ 300-400 บาท/กิโลกรัม
ใบตากแห้ง
ราคาประมาณ 80 ถึง 200 บาท/กิโลกรัม
ต้นพันธุ์
ราคาจะขึ้นอยู่กับความสูงของต้น เช่น ความสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ราคาจะอยู่ที่ 100-150 บาท เป็นต้น
แหล่งอ้างอิง
: http://natres.psu.ac.th/projectsite/webpage/5durian-detail.htm