ผลไม้เมืองร้อนอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมปลูกกันมาก โดยเฉพาะทางภาคใต้ของประเทศไทยจนกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศเลยก็ว่าได้ นอกจากจะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นกอบเป็นกำจนเกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกกันมากในเขตทางใต้และภาคตะวันออกแล้ว รสชาติและคุณประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพรวมถึงสรรพคุณทางยา ทำให้ ลองกอง ไม้ผลสกุลเดียวกับลางสาดกลายเป็นพืชที่นิยมปลูกแพร่หลายมากยิ่งขึ้น จนสังเกตเห็นได้ว่าในหลาย ๆ บ้านมักจะมีต้นลองกองปลูกไว้นั่นเอง
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาอังกฤษ : Longkong
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Aglaia Dookkoo Griff.
ส่วนประกอบของต้นลองกอง
ไม้ผลเมืองร้อนอย่าง ต้นลองกอง ปลูกและเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น โดยตัวของไม้ผลชนิดนี้จะชอบร่มเงา รับแสงแดดบ้างแต่ไม่ชอบแสงแดดจัด และไม่ชอบลมแรงที่จะพัดเอาความชื้นออกไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น โดยพื้นฐานแล้วเขาจึงเจริญเติบโตได้ดีภายใต้ร่มเงาที่มีต้นไม้ใหญ่บังลมไว้รอบ ๆ
ลักษณะของลำต้น
ลองกองมีลักษณะของลำต้นเหยียดตรง สูงประมาณ 10-15 เมตร เปลือกลำต้นสีน้ำตาลอมเขียวทรงกลม สังเกตุได้ว่าหากต้นที่มีอายุมากจะมีเปลือกแตกเป็นสะเก็ด ลำต้นของลองหากโตจากเมล็ดจะมีลำต้นที่ค่อนข้างสูง แต่หากเจริญเติบโตจากต้นกล้ากิ่งตอนหรือเสียบยอดจะแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มและเตี้ย
ใบ
ลองกองเป็นไม้ผลใบเลี้ยงคู่ ประกอบด้วยก้านใบหลักที่แตกจากส่วนปลายกิ่ง แต่ละก้านใบจะแตกใบย่อยประมาณ 6-8 ใบ เรียงสลับข้างกัน ลักษณะใบเรียวรูปไข่ปลายใบแหลมเป็นติ่ง คล้าย ๆ ใบลางสาด แต่จะมีใบที่ใหญ่กว่า และกว้างกว่า มีรสขม แผ่นใบมีเส้นเข็มเป็นร่อง ขอบเรียบ เนื้อใบหนาและเหนียว
ดอก
ลักษณะของดอกลองกองนั้นจะออกเป็นช่อตาดอกจะแทงออกตามลำต้นและกิ่ง ระยะแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มแข็ง ๆ สีน้ำตาลอมเขียว ก่อนที่จะแทงออกเป็นก้านช่อยาวขึ้น และแต่ละก้านช่อจะให้ดอกลองกองเป็นกลุ่ม ๆ เรียงสลับกัน ดอกย่อยจะไม่มีก้านดอกมีกลีบดอกเหมือนพูไม่แยกจากกัน ดอกอ่อนให้สีเขียวอ่อนและพอพานจะให้สีเขียวอมเหลือง มีระยะเวลาบาน 10 วัน
ผล
ด้วยลักษณะของรังไข่จากดอกลองก่องที่แบ่งเป็นห้อง ๆ ประมาณ 4-5 ห้อง ทำให้เนื้อในถูกแบ่งเป็นพู ๆ ในหนึ่งผลลองกองกลม ๆ บนช่อผล เมื่อเล็กผลลองกองจะมีสีเขียวเข้ม พอแก่จะมีสีเหลืออ่อนหรือสีครีม เปลือกหนาเมื่อเทียบกับผลลางสาด และมียางน้อยกว่า หรือไม่มียางเลยเมื่อแก่เต็มที่
เมล็ด
ภายในผลลองกองจะประกอบด้วยเนื้อผลลองกองที่ห่อหุ้มเมล็ดในแต่ละกลีบ เมล็ดลองกองจะมีลักษณะเป็นรูปรี สีเหลืองอมน้ำตาล มีรสขม เมื่อแก่จัดสามรถนำไปเพาะพันธุ์ให้เจริญเติบโตเป็นใหม่ได้
ราก
ต้นลองกองเติบโตด้วยระบบรากแก้วและรากแขนง ซึ่งมีรากแขนงและรากฝอยอยู่บริเวณผิวลำต้นซึ่งหนาแน่นมากและแผ่กระจายไปประมาณ 3-5 เมตรรอบโคนต้น
สายพันธุ์ยอดนิยม
แม้ว่าการค้นพบสายพันธุ์ลองกองในประเทศไทยมีมากถึง 7 สายพันธุ์ซึ่งแต่ละสายพันธ์ให้ผลที่มีความแตกต่างกัน สำหรับสายพันธ์ที่ได้รับความนิยมปลูกกันมากที่สุดเพื่อการค้าคือ ลองกองแห้ง เนื่องด้วย เนื้อผลมีคุณภาพดี รสหวาน และหอม มีเมล็ดน้อยหรือไม่มีเลย และไม่มีรสขม ถัดมาจะเป็นลองกองน้ำ ซึ่งจะให้ผลคลายผลดูกู แต่ดูกูจะมีเมล็ดมากกว่า เปลือกหนากว่า ลองกองน้ำจะมีน้ำมากสีของเปลือกผลจะมีสีเหลือกว่าลองกองแห้ง เนื้อสีขาวขุ่นให้รสหวาน และมีเมล็ดสมบูรณ์ 1 เมล็ดต่อผล และสุดท้ายจะเป็นกลุ่มลองกองกะละแม หรือปาลาเม เมื่อแก่จะให้ผลคล้ายกับลองกองแห้ง เนื้อแห้งใสให้รสหวานหรือหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย ให้กลิ่นหอมและเมล็ดไม่มีรสขม
วิธีการปลูกต้นโกโก้ให้เจริญงอกงาม
ลองกองเจริญเติบโตได้ดีและให้ผลผลิตงดงามในพื้นที่เขตร้อน ซึ่งปัจจุบันนอกจากการเพาะเมล็ดแล้ว ลองกองยังขยายพันธ์ได้ด้วยวิธีการ ติดตา เสียบยอด ทาบกิ่ง เป็นต้นกล้าลองกอง ซึ่งจะให้ลำต้นที่เจริญเติบโตที่แตกต่างกัน คือ ต้นกล้าจากการเพาะเมล็ดจะสูง กว่าต้นกล้าที่เกิดจากการขยายพันธุ์แบบอื่นนั่นเอง แต่ทั้งนั้นทั้งนี้การดูแลรักษาต้นกล้าให้เจริญงอกงามยังต้องอาศัยปัจจัยจากการดูแลรักษาประกอบด้วยเช่นกัน
วิธีการดูแลรักษา
แสง
ลองกองชอบแสงแดดร่ำไร ไม่จัดมาก ดังนั้นสภาพอากาศที่ทำให้เจริญเติบโตได้ดีควรมีอากาศร้อนและชุ่มชื้น ดังนั้นเขาจะเติบโตได้ดีภายใต้ร่มเงาและบังลมได้
น้ำ
ความชื้นที่ลองกองต้องการอยู่ที่ 70-80 % ดังนั้นการให้น้ำควรมีอย่างสม่ำเสมอในช่วงฤดูแล้งและไม่ให้มีน้ำขังในช่วงฤดูฝน
ดิน
ควรเป็นดินร่วนปนทรายที่ค่อนข้างอุดมด้วยอินทรียวัตถุ และระบายน้ำได้ดี
ปุ๋ย
สามารถใช้ได้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี โดยหว่านปุ่ยบริเวณใต้ทรงพุ่มโดยรอบห่างจากโคนต้นประมาณ 20-30 ซม.
คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นลองกอง
ลองกอง นอกจากจะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรนอกจากพืชประธานแล้ว ยังสามารถสร้างร่มเงาให้กับบริเวณบ้านได้อย่างดีอีกด้วย ลองกองยังให้คุณค่าทางอาหารและวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ตลอดจนสรรพคุณทางยาที่ได้จากส่วนต่าง ๆ ของต้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำจากผลที่นำไปหยอดตาได้เพื่อรักษาตาอักเสบ เปลือกและผลมีสารประกอบที่สำคัญทางการแพทย์ในการรักษาบรรเทาอาการในผู้ป่วยวัณโรค กลิ่นควันจากเปลือกแห้งสามารถไล่ยุงได้ เปลือกลำต้นและใบนำไปเป็นยาต้มสำหรับรักษาโรคบิด ตลอดจนกิ่งก้านสามารถรักษาโรคกระเพาะได้อีกด้วย
ราคาต่อต้นโดยประมาณ
ราคาโดยประมาณสำหรับต้นกล้าลองกองเริ่มต้นที่ 100 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ความสูงและความแข็งแรงของต้นกล้าเช่นกัน