การเวก ไม้เลื้อยกลิ่นหอมของไทยที่มากมายด้วยสรรพคุณ

การเวก (Artabotrys siamensis) จัดประเภทว่าเป็นพันธุ์ไม้เถาเนื้อแข็ง มีอายุยืนนานหลายปี รูปร่างของดอกการเวกนั้นคล้ายกับดอกกระดังงา ส่งกลิ่นหอมเมื่อยามถึงฤดูผลิบานของดอก ซึ่งการเวกนั้นเรียกได้ว่าแทบจะออกดอกทั้งปี แต่จะออกดอกดกเป็นพิเศษในช่วงเดือนมีนาคม ดอกการเวกนั้นเป็นดอกเดี่ยว บ้างก็ออกดอกเป็นกระจุกราว 1-3 ดอก นอกจากตัวดอกนั้นจะส่งกลิ่นหอมแล้ว การเวกยังมีสรรพคุณอื่น ๆ ที่สามารถช่วยรักษาโรคได้และยังถูกจัดว่าเป็นอีกหนึ่งไม้มงคลที่คนไทยนั้นนิยมปลูกไว้ภายในบ้าน ดังนั้น บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับการเวกให้มากขึ้น

การเวก
www.the-than.com

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับการเวก

ชื่อภาษาไทย: การเวก

ชื่อพื้นถิ่น: (ภาคกลาง และทั่วไป) การเวก, กระดังงาจีน (ภาคเหนือ), สะบันงาจีน, สะบันงาเครือ (ภาคใต้) กระดังงาเถา (ภาคตะวันตก), กระดังงาป่า, หนามควายนอน

ชื่อภาษาอังกฤษ: Artabotrys siamensis, Climbingllang-llang , Gara-Wek

ชื่อวิทยาศาสตร์: Artabotrys siamensis Mig.

ตระกูลพืช: Annonaceae

ความเป็นมาของต้นการเวก

การเวกนั้นถูกสันนิษฐานว่าเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาผ่านพ่อค้าชาวอินเดียที่เข้ามาติดต่อทำการค้าในช่วงนั้น ซึ่งแต่เดิมนั้นการเวกมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียทางตอนใต้และประเทศศรีลังกา ต่อมาก็พบได้มากในแถบป่าดิบชื้นของภาคกลางและภาคใต้จนเหมือนเป็นพืชพื้นถิ่น คนในพื้นที่จึงตั้งชื่ออย่างเป็นทางการให้ว่า Siamensis ซึ่งมีที่มาจากคำว่าสยามของประเทศไทยนั่นเอง

ความเชื่อของการเวกกับคนไทย

สำหรับการปลูกการเวกไว้ภายในบ้านนั้นมีความเชื่อว่า จะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยภายในบ้านหลังนั้นจะมีชื่อเสียง ได้รับความเคารพนับถือหรือมีคนนับหน้าถือตา อาจมาจากชื่อพื้นบ้านที่คนมักเข้าใจผิดและเรียกว่าเป็นไม้กระดังงา ซึ่งจริง ๆ แล้วดอกของกระดังงาจะมีลักษณะบิดงอไปมาต่างจากดอกการเวกที่กลีบดอกเรียบ รวมถึงชื่อการเวกก็มีความเชื่อว่า มาจากชื่อของนกการะเวกในสมัยพุทธกาลที่มีเสียงดังไพเราะมาก ก้องไกลทั่วสวรรค์ หากปลูกไว้ทางทิศตะวันออกของตัวบ้านจะช่วยเพิ่มความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวบ้านและครอบครัวผู้อยู่อาศัย

การเวก
www.the-than.com

ลักษณะโดยทั่วไปของการเวก

ลำต้น: การเวกนั้นเป็นไม้ประเภทไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง มีขนาดใหญ่ ตามลำต้นนั้นจะมีมือเกาะรูปร่างตะขอยื่นออกมาจากลำต้น กิ่งก้านของการเวกนั้นมีขนทอดเลื้อยออกไปไกลได้มากประมาณ 5-10 เมตร ยอดอ่อนของการเวกนั้นจะมีสีเขียวอ่อน ในขณะเดียวกันหากเถาแก่จะมีสีน้ำตาล

ใบ: ต้นการเวกนั้นจะมีพุ่มใบที่หนาแน่นมาก ใบการเวกเป็นใบเดี่ยว ออกสลับกันตามข้อของต้น ลักษณะของใบการเวกนั้นจะมีรูปไข่กลับ กว้างเพียง 4-5 เซนติเมตร ยาว 13-15 เซนติเมตร ขอบใบขนาน ส่วนโคนของใบมนรีและส่วนปลายของใบจะแหลม แผ่นใบการเวกนั้นจะค่อนข้างบางและมีความเหนียว ผิวของใบมีสีเขียวเข้ม เส้นกลางใบนั้นจะมีขนทั้งด้านบนและด้านล่าง

ดอก: การเวกจะออกดอกเป็นประเภทดอกเดี่ยว บ้างก็ออกเป็นกระจุก มี 1-3 ดอก ตัวดอกนั้นจะผลิบานตามซอกกลีบเลี้ยงของต้น กลีบดอกการเวกจะมีจำนวนทั้งหมด 6 กลีบ ไม่เชื่อมติดกัน ส่วนปลายของกลีบนั้นจะกระดกขึ้น กลีบมีรูปทรงรีปลายแหลม กลีบดอกจะเรียงสลับกันจำนวน 2 ชั้น โดยแต่ละชั้นจะประกอบไปด้วยกลีบดอกจำนวน 3 กลีบ ในส่วนกลีบดอกชั้นนอกนั้นจะมีขนาดเล็กกว่ากลีบดอกชั้นใน เมื่อยามที่ผลิบานเต็มที่ กลีบดอกการเวกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส่งกลิ่นหอมในช่วงเวลาเย็นถึงค่ำ กลิ่นและรูปร่างคล้ายกับดอกกระดังงา เพียงแค่ดอกการเวกนั้นมีขนาดเล็กกว่า ภายในของดอกการเวกจะประกอบไปด้วยเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจำนวนมาก

ผล: การเวกจะออกผลเป็นกลุ่มประมาณ 4-20 ผล รูปทรงของผมนั้นจะค่างรีและป้อม ผลอ่อนของการเวกจะมีสีเขียวสด แต่หากเป็นผลแก่ จะมีสีเหลือง สีแดง และสีดำ โดยภายในผลจะประกอบไปด้วยเมล็ดจำนวน 1-2 เมล็ด

วิธีการขยายพันธุ์การเวก

สำหรับการขยายพันธุ์ของการเวกนั้น จะนิยมใช้วิธีการตอนกิ่ง เพราะจะทำให้ต้นการเวกสามารถเติบโตได้รวดเร็ว ไม่กลายพันธุ์ ซึ่งข้อเสียของวิธีการตอนกิ่งนั้นจะทำให้จำนวนของต้นการเวกที่ทำการเพาะขึ้นมาไม่มากถ้าเทียบกับวิธีปลูกด้วยเมล็ดที่สามารถทำได้จำนวนต้นมากกว่า แต่สำหรับใครที่สนใจอยากจะศึกษาวิธีตอนกิ่งก็สามารถทำตามขั้นตอนที่เว็บไซต์ Thaigoodview แนะนำไว้ได้ ดังต่อไปนี้

1. ต้องเริ่มจากการเลือกกิ่งต้นพันธุ์ที่ดี (กิ่งกึ่งอ่อนกึ่งแก่) มีความสมบูรณ์ปราศจากการทำลายของโรคและแมลง กรณีที่ต้นพันธุ์ดีมีอายุมากกิ่งไม่สวย จำเป็นต้องตัดกิ่งเพื่อให้กิ่งชุดใหม่แตกออกมาเสียก่อนแล้วจึงทำการตอนบนกิ่งชุดใหม่

2. ให้ใช้มีดคม ๆ ควั่นกิ่ง วิธีนี้เหมาะสำหรับพืชที่ลอกเปลือกไม้ออกได้ง่าย โดยการใช้มีดควั่นกิ่งโดยรอบเป็นวงแหวน 2 วง ความห่างของวงแหวนประมาณความยาวของเส้นรอบวงของกิ่งที่ทำการตอน จากนั้นกรีดรอยแผลจากด้านบนถึงด้านล่าง แล้วลอกเอาเปลือกไม้ออก ใช้สันมีขูดส่วนที่เป็นเมือกลื่นที่ติดบนเนื้อไม้บริเวณรอยควั่นออกให้หมด โดยขูดจากด้านบนลงมาด้านล่างเบา ๆ เพราะด้านบนเป็นส่วนที่ให้กำเนิดราก ถ้าหากซ้ำการออกรากอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร

3. ต่อมาให้ใช้ตุ้มตอนซึ่งได้จากการนำขุยมะพร้าวไปแช่น้ำ บีบให้หมาด ๆ และอัดลงในถุงพลาสติกขนาดเล็ก ผูกปากถุงให้แน่น ผ่าตุ้มตอนตามยาวแล้วหุ้มไปบนรอยแผล มัดด้วยเชือกบริเวณหัวท้ายเหนือและใต้รอยแผลที่ควั่นหรือเฉือนเอาไว้ ต้องมัดให้แน่นโดยไม่ให้ตุ้มตอนหมุนได้ เพราะถ้ามักไม่แน่นอาจทำให้การออกรากไม่ดีเท่าที่ควร การหุ้มแบบนี้จะช่วยให้รอยแผลที่ควั่นไว้ออกราก

4. หมั่นดูแลตุ้มตอนให้มีความชื้นอยู่เสมอ ถ้าหากไม่มีฝ้าไอน้ำจับที่ตุ้มแล้วจำเป็นต้องให้น้ำตุ้มตอนเพิ่มเติมจนกว่ากิ่งตอนจะออกรากหรือถ้าหากพบแมลงทำลายควรฉีดพ่นด้วยสารเคมี

5. เมื่อตอนกิ่งไปได้ประมาณ 30-45 วัน กิ่งตอนก็จะเริ่มออกรากและแทงผ่านวัสดุที่หุ้มภายในออกมาจนมองเห็นด้วยตาเปล่า ระยะนี้ยังตัดกิ่งตอนไม่ได้ต้องรอจนรากที่งอกออกมาเป็นสีเหลืองแก่หรือสีน้ำตาล

6. กิ่งตอนที่ตัดมาแล้วให้ตัดแต่งใบและกิ่งออกทิ้งบ้างเพื่อลดการคายน้ำของใบให้มีปริมาณน้อยลง จากนั้นให้ตัดเชือกและแกะถุงพลาสติกออก นำไปชำลงในถุงพลาสติกหรือกระถางดินเผาที่ผสมดินและวัสดุปลูกไว้แล้ว พร้อมปักหลักยึดไว้ให้แน่น นำเข้าพักไว้ในโรงเรียนที่ร่มและชื้น

การเวก

การปลูกและดูแลต้นการเวก

แสง

การเวกนั้นเป็นไม้ที่ชอบแสงแดด จึงทำให้มีความต้องการแสงแดดต่อเนื่องอยู่เสมอ ดังนั้นการปลูกการเวกนั้นจึงนิยมปลูกบริเวณริมรั้วของบ้าน

น้ำ

เมื่อเริ่มปลูกการเวกควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้า และเย็น แต่เมื่อต้นการเวกโตเต็มที่แล้วนั้น รดน้ำเพียงแค่วันละ 1 ครั้ง โดยรดแค่ช่วงเช้า และรดให้ดินมีความชุ่มน้ำ

ดิน

การเวกสามารถเจริญเติบโตได้ดีกับดินทุกประเภท แต่หากเป็นดินร่วนปนดินทรายที่มีความสามารถในการระบายน้ำได้ดี จะช่วยส่งเสริมให้ต้นการเวกนั้นเจริญงอกงามได้เป็นอย่างดี

ปุ๋ย

สำหรับการเวกนั้นแทบจะไม่ต้องใส่ปุ๋ยเพื่อให้เจริญเติบโต เพราะการเวกนั้นสามารถเจริญเติบโตได้ดีและง่ายในทุกสภาพแวดล้อม แต่หากต้องการใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารให้ก็สามารถทำได้ โดยใช้ปุ๋ยหมักกับดินที่ปลูก

เคล็ดลับการดมกลิ่นหอมจากดอกการเวกให้ได้กลิ่นหอมมากที่สุด
สำหรับวิธีการทำให้สามารถได้กลิ่นดอกการเวกได้หอมมากที่สุดนั้น ต้องเลือกเก็บดอกการเวกที่บานอย่างเต็มที่ แต่ยังไม่เป็นสีเหลืองและเก็บในช่วงเวลายามเย็นของวัน โดยเมื่อเก็บดอกการเวกมาแล้วนั้น นำใบการเวกมาห่อให้เป็นรูปกรวยก้นปิดแล้วนำดอกการเวกมาวางภายในกรวย เปิดเป็นรูเล็ก ๆ ไว้แล้วก้มลงไปเอาจมูกไปสูดกลิ่น จะทำให้ได้กลิ่นที่หอมชัดเจนมากที่สุด
การเวก

ประโยชน์และสรรพคุณของการเวก

  1. เป็นไม้ดอกไม้ประดับให้ร่มเงาให้ดอกตลอดปี มีกลิ่นหอมใช้ทำเครื่องหอม
  2. ดอกใช้สกัดน้ำมันหอมระเหยที่นิยมใช้ทำน้ำหอม และยาหอม ใช้ทานวด และใช้ในด้านความสวยความงาม
  3. ดอกนำมาห่อรวมกันในใบ และสูดดม ช่วยในการผ่อนคลาย
  4. ปลูกเพื่อเป็นไม้เลื้อยให้ร่มเงาได้อย่างดี
  5. ปลูกเพื่อใช้เป็นแนวรั้วหรือเขตแดนได้
  6. นิยมใช้ปลูกเพื่อช่วยฟอกอากาศหรือบำบัดมลพิษทางอากาศ ยิ่งคนที่ต้องอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ

สรรพคุณทางยาของการเวก

ดอก: เนื่องจากดอการเวกนั้นมีกลิ่นหอมมาก จึงนิยมนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย เพื่อใช้สูดดม แก้อาการวิงเวียนศีรษะ นอกจากนี้หากนำดอกมาต้มแล้วดื่มจะช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและบำรุงโลหิต ขับปัสสาวะ

ลำต้น: สามารถนำลำต้นมาตากแห้งและบดให้ละเอียด สามารถช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี

ราก: ใช้รักษาโรคมาลาเรียและช่วยฟื้นฟูร่างกายแก่หญิงสาวที่พึ่งให้กำเนิดบุตร

ใบ: สามารถใช้รักษาโรคอหิวาตกโรค หรือ ใช้สำหรับการถ่ายพยาธิที่อยู่ภายในร่างกาย

ผล: ใช้รักษาวัณโรค

แหล่งข้อมูลอ้างอิง

การเวก มงคลนามแห่งความหอมและความไพเราะ, นิตยสารหมอชาวบ้าน ภาควิชาชีววิทยาป่าไม้ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้