ต้นจิกน้ำเป็นพันธุ์ไม้สวยงามขนาดย่อมที่เพาะปลูกได้ง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อมพอสมควร แล้วก็ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี บางบ้านนิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับ แต่บางบ้านก็ปลูกไว้เก็บยอดอ่อนทานคู่กับน้ำพริก แต่ก่อนเราจะเห็นต้นไม้ประเภทนี้ขึ้นตามริมน้ำทั่วไป และพบมากในพื้นที่ใกล้เคียงกับป่าชายเลน แต่ปัจจุบันมีการนำมาปลูกในพื้นที่บ้านมากขึ้น เพื่อเน้นให้ร่มเงาและเสริมสิริมงคลให้กับคนในบ้าน
ความเชื่อเกี่ยวกับไม้มงคล
มีเรื่องเล่าตั้งแต่สมัยโบราณว่า ต้นจิกน้ำนั้นเป็นไม้มงคลที่อยู่ในเหตุการณ์สำคัญมากมาย เช่น ช่วงหลังการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และต้นกำเนิดของการสร้างพระปางนาคปรก ทำให้หลายคนเชื่อว่าการปลูกต้นจิกน้ำไว้ในบริเวณบ้าน จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลในองค์รวมได้ดี พร้อมชักนำให้คนในบ้านประพฤติไปในทางที่ดีงาม นอกจากนี้ช่อดอกที่เป็นโทนสีแดง ยังเป็นสีมงคลที่จะนำมาซึ่งความมั่งคั่งของคนในบ้านด้วย แต่หากต้องการเสริมเรื่องเงินๆ ทองๆ จะต้องปลูกจิกน้ำไว้ริมสระในสวนหลังบ้านเท่านั้น
ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูกภายในบริเวณบ้าน
เนื่องจากต้นจิกน้ำเป็นไม้ที่ชอบทั้งน้ำและแสงแดด จึงต้องพิจารณาตำแหน่งปลูกอย่างรอบคอบ คือควรอยู่ในแนวขึ้นลงของพระอาทิตย์ ไม่มีสิ่งใดมาบังแสง และต้องเป็นจุดที่เข้าไปรดน้ำได้อย่างสะดวกด้วย ส่วนจะปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านหรือหลังบ้านก็แล้วแต่ความสะดวก เพราะต้นจิกน้ำมีพุ่มหนาก็จริง แต่ภาพรวมแล้วจะไม่รกแม้ว่าไม่ค่อยได้ตัดแต่งกิ่ง อาจจะมีแค่ช่วงของการผลัดใบที่ต้องคอยดูแลเก็บกวาดกันสักหน่อย และผลที่หล่นจากต้น หากหล่นลงพื้นดิน ไม่นานก็จะงอกเป็นต้นใหม่ได้ ดังนั้นถ้าไม่ต้องการต้นใหม่ก็ควรรีบถอนออกก่อนที่รากจะฝังลึก
ส่วนประกอบของต้นจิกน้ำ
ลักษณะของลำต้น
ต้นจิกน้ำเป็นไม้ผลัดใบที่มีลำต้นแผ่ของด้านข้าง ลำต้นมีความโค้งงออย่างอิสระ เปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อน ผิวสัมผัสเป็นปุ่มเล็กๆ กระจายตัวทั่ว และมีร่องแตกแทรกอยู่
ใบ
รูปร่างใบจะเป็นทรงยาวขอบโค้งมน แต่เมื่อสัมผัสดูจะพบว่าขอบใบมีรอยหยักขนาดเล็กอยู่ ทำให้รู้สึกสากมือ ผิวใบเป็นมันเงาสีเขียวสด เส้นใบชัดเจน และใบเหล่านี้จะหลุดร่วงไปเมื่อต้นจิกน้ำออกดอก
ดอก
ลักษณะของดอกจะออกเป็นช่อยาว ห้อยระย้าลงมาด้านล่าง แต่ละดอกจะเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ มีกลีบสั้นๆ สีแดงอมชมพูเพียงแค่ 4 กลีบต่อดอก ยิ่งแก่มากเท่าไรสีก็ยิ่งเข้มขึ้นเท่านั้น
ผล
เป็นรูปทรงยาวรีและมีขอบยกขึ้นมาเป็น 4 มุม สันแต่ละมุมจะวางตัวตามแนวยาวของผลคล้ายกับผลมะเฟือง ลักษณะการออกผลจะเกาะกลุ่มกันเป็นพวงยาว ผิวนอกมีสีเขียวอ่อนจนถึงเขียวเข้ม
สายพันธุ์ยอดนิยม
ต้นจิกน้ำเป็นหนึ่งสายพันธุ์ในตระกูลต้นจิก ซึ่งในบ้านเราจะมีจิกอยู่มากกว่า 10 สายพันธุ์ ที่พบได้บ่อยก็คือ จิกนา จิกนม จิกเขา จิกสวน เป็นต้น แต่ละสายพันธุ์จะมีจุดต่างกันแค่เล็กน้อย แค่ลักษณะของดอก รูปร่างของใบ และพื้นที่ซึ่งเติบโตได้ง่าย ส่วนเรื่องของประโยชน์ใช้สอยก็จะคล้ายคลึงกันทั้งหมด ต้นจิกน้ำนับว่าเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมในอับดับต้นๆ ของตระกูลจิก เราจะพบได้ตามริมน้ำทั่วไปในทุกภาคของประเทศไทย บ้างก็ปลูกเป็นไม้ประดับ บ้างก็ปลูกเพื่อประโยชน์ในการหาปลา เพราะเนื้อไม้ของจิกน้ำสามารถใช้เบื่อปลาได้ด้วย
วิธีการปลูกต้นจิกน้ำให้เจริญงอกงาม
ตามธรรมชาติของต้นจิกน้ำที่เติบโตได้ง่าย ขอแค่มีความชื้นเพียงพอ เลยทำให้การปลูกต้นจิกน้ำทำได้ง่ายมาก โดยเริ่มจากขุดหลุมให้ลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกผสมดินร่วนในอัตราส่วนเท่าๆ กัน พรมน้ำเล็กน้อยก่อนน้ำต้นกล้าจิกน้ำลงไป กลบดินให้เรียบร้อยแล้วรดน้ำทันที จากนั้นให้หมั่นรดน้ำเป็นประจำทุกวัน ระวังอย่าให้ขาดน้ำเด็ดขาด
วิธีการดูแลรักษา
แสง
ต้องการแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน
น้ำ
ต้องการน้ำมาก จึงควรปลูกในพื้นที่ใกล้น้ำเท่านั้น
ดิน
เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย และดินร่วนปนดินเหนียว
ปุ๋ย
ควรใช้ปุ๋ยบำรุงดินทั่วไปตามจังหวะที่เหมาะสม อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นจิกน้ำ
ลำต้น
ใช้ส่วนของเปลือกไม้และเนื้อไม้ เป็นยาบำรุงของสตรี ปรับสมดุลร่างกายเพื่อช่วยให้ประจำเดือนและการตกขาวเป็นปกติ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการไอ มีเสมหะ และระคายคอได้
ใบ
ทานใบสดเพื่อบรรเทาอาการปวดท้องบิด หรือใช้ใบแก่จัดต้มน้ำดื่มลดอาการท้องร่วงได้ นอกจากนี้ก็ยังใช้ใบสดบดละเอียดมาช่วยสมานแผลได้ด้วย
เมล็ด
มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการร้อนใน ช่วยขับลม และลดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้
ราก
นิยมใช้ทานเพื่อเป็นยาระบายอย่างอ่อน
ราคาต่อต้นโดยประมาณ
ราคาของต้นจิกน้ำจะแปรผันตามความสูงของต้นกล้า โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 50 บาท