ชงโค ต้นไม้จากเทวโลก ที่ช่วยเปิดโชคลาภ

ชื่อภาษาอังกฤษ

Orchid Tree

ชื่อวิทยาศาสตร์

Bauhinia purpurea L.

ความหมาย

ชงโค คือ ไม้ยืนต้นสูงชนิดหนึ่งขนาดไม่ใหญ่มาก โดยเป็นต้นไม้ที่ถือได้ว่าโตเร็ว

ความเชื่อ

เชื่อว่าชงโคเป็นต้นไม้มงคลที่ ใครปลูกประดับไว้ภายในบ้าน ก็จะช่วยอำนวยลาภผลความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว

ชงโค ไม้ยืนต้นที่มีดอกคล้ายดอกกล้วยไม้สีม่วงอมชมพู แทงดอกเป็นช่อสวยงาม จึงทำให้ชงโคได้รับความนิยมในกลุ่มผู้รักดอกไม้มาช้านาน อีกทั้งยังมีคติความเชื่อที่สอดคล้องกับเรื่องของโชคลาภความร่มเย็นผาสุกของคนในครอบครัว ชงโค จึงเป็นไม้ที่นิยมปลูกเพื่อใช้ประดับตกแต่งสถานที่ เพราะทรงลำต้นเป็นพุ่ม มีดอกสีสันสวยงามและออกดอกเรื่อยๆ  รวมถึงใช้เป็นร่มเงาตามบ้านเรือนและในสถานที่ราชการ ต่างๆ ตั้งแต่สมัยโบราณ

ต้นชงโค ปลูกทิศไหน

ข้อมูลทั่วไป

วงศ์ : Leguminosae

ชื่ออื่นๆ : เช่น เสี้ยวดอกแดง, กะเฮอ, สะเปซี, เสี้ยวหวาน

ความเชื่อเกี่ยวกับต้นชงโค ต้นไม้จากเทวโลก ที่อำนวยโชคให้กับผู้ปลูก      

ตามคติของชาวอินเดีย ที่นับถือศาสนาฮินดู เชื่อกันว่าชงโคเป็นต้นไม้สวรรค์ขึ้นอยู่ในเทวโลกและถือว่าเป็นต้นไม้ของพระลักษมี ซึ่งเป็นเทวีแห่งความมั่งคั่ง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง คนไทยจึงมีความเชื่อว่าชงโคเป็นต้นไม้มงคลที่ ใครปลูกประดับไว้ภายในบ้าน ก็จะช่วยอำนวยลาภผลความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัว ยิ่งสำหรับคนที่ทำการค้ากิจการด้วยแล้ว ชงโคถือเป็นต้นไม้ที่สร้างความมั่งคั่งและร่ำรวย ช่วยปกปักรักษาให้คนในครอบครัวมีความสุข ไม่มีอันตรายเข้ามาย่ำกราย ซึ่งเป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมาจากชาวไทยเชื้อสายฮินดูนั่นเอง

ปลูกชงโค ไว้ตำแหน่งใด จึงจะได้ลาภผลดั่งใจหมาย

ชงโคเป็นต้นไม้ที่ถือว่าโตเร็วชนิดหนึ่ง ที่ปลูกในเวลา 1-2 ปี สามารถโตได้ถึง 2-3 เมตร แต่เนื่องจากเป็นไม้ยืนต้นขนาดไม่ใหญ่โตมาก สูงเต็มที่ก็ไม่เกิน 20 เมตร จึงกินพื้นที่ปลูกไม่มาก อีกทั้งยังมีรูปทรงเป็นพุ่มไม่แผ่กิ่งก้านกว้างออกไปมากนัก จึงสามารถปลูกได้ทุกส่วนของตัวบ้าน แต่หากต้องการอาศัยร่มเงาในการกำบังแดดแล้วละก็ ควรปลูกไว้ทางทิศตะวันตกซึ่งจะช่วยดูดซับความร้อนและใช้ร่มเงาในการหลบแดดให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี และควรจะปลูกห่างจากตัวบ้านไม่น้อยกว่า 4-5 เมตรขึ้นไป

ส่วนประกอบของต้นชงโค ที่น่าสนใจ

ลักษณะของลำต้น

เป็นไม้ยืนต้นสูงประมาณ 5-15 เมตร กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม

ใบ

มีลักษณะเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจ ปลายใบเว้าลึกมาก ปลายใบทั้งสองด้านกลมมน มองดูคล้ายใบ แฝดติดกัน ใบทั้งสองด้านมักพันเข้าหากันเหมือนปีกผีเสื้อ บ้างก็ว่าลักษณะของใบของชงโคคล้ายกับกลีบเท้าวัว จึงมีความเชื่อว่า เป็นต้นไม้ของพระนารายณ์ และเทวี พระลักษมี ในศาสนาหรือวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดู

ดอก

ต้นชงโคจะเริ่มผลัดใบในช่วงฤดูหนาวปลายปี แล้วจะผลิใบในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม  หลังจากนั้นก็จะเริ่มทยอยออกดอกมาเรื่อยๆ เมื่อดอกบาน ดอกจะส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกสามารถออกได้ตลอดทั้งปี โดยจะออกดอกเป็นช่อสะพรั่งตามปลายกิ่งสวยงาม มีม่วงอมสีชมพูถึงสีม่วงแดง รูปทรงคล้ายดอกกล้วยไม้  แต่ละช่อมีดอกย่อยราว 6-10 ดอก แต่ละดอก มีกลีบย่อย 5 กลีบ ตรงกลางดอกมีเกสรตัวผู้เป็นเส้นยาว 5 เส้น ยื่นไปที่ปลาย

สายพันธุ์ ของต้นชงโค ที่นิยมปลูกในเมืองไทย

ชงโคไทย  

ชงโคไทยเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในเมืองไทย คนโบราณเรียกว่า เสี้ยวดอกแดง มีกลีบเล็กไม่ค่อยสะดุดตา

ชงโคฮ่องกง

ชงโคฮ่องกง(สีชมพูม่วงกลีบใหญ่ ซึ่งนิยมปลูกกันอยู่ทั่วไป) ชงโคฮ่องกง เป็นชงโคลูกผสมซึ่งผู้ผสมเป็นชาวฮ่องกงจึงได้ชื่อเรียกขานอย่างนั้นเป็นต้นมา มีลักษณะเหมือน “ชงโคฮอลแลนด์” ซึ่งเป็นไม้ใบแฝดลูกผสมระหว่าง “ชงโค” กับ “เสี้ยว” ซึ่งก็ไม่ได้เป็นพันธุ์ไม้ที่ได้มาจากฮอลแลนด์แต่อย่างใด แต่เป็นการตั้งชื่อขึ้นมา เพื่อให้เป็นชื่อทางการค้า ทำให้ดึงดูดความน่าสนใจ

ชงโคกล้วยไม้

ชงโคกล้วยไม้ (พื้นกลีบดอกขาว มีลายประสีชมพูสวย) หรือ “ชงโคใหม่” มีถิ่นกำเนิดจาก ประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เหมือนกับชงโคทั่วไป แต่จะลักษณะเด่นตรงที่ ดอก ของ “ชงโคใหม่” จะสวยงามกว่า กล่าวคือ ขอบของกลีบดอกจะมีขลิบเป็นสีชมพูเข้มอย่างชัดเจน ขอบกลีบบิดเป็นคลื่น บริเวณกลางกลีบบนมีแต้มเป็นสีชมพูเข้มกว้าง จึงทำให้เวลาดอกบานดูสวยงามและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีดอกดกเกือบทั้งปี เวลามีดอกบานพร้อมกันทั้งต้น นอกจากจะสวยงามแปลกตากว่าดอกชงโคทั่วไปแล้ว เมื่อเข้าไปยืนใกล้ๆ จะได้กลิ่นหอมของดอกเป็นที่ประทับใจยิ่ง

ต้นชงโค ราคา

วิธีการปลูกต้นชงโค ให้ออกดอกตลอดทั้งปี

ชงโคสามารถปลูกได้โดยการใช้เมล็ด หรือการตอนกิ่ง และปักชำ สำหรับเมล็ดที่ใช้ในการเพาะ ควรเป็นเมล็ดที่ได้จากฝักแห้ง ทั้งที่แห้งบนต้นหรือฝักที่ร่วงแล้ว ซึ่งจะเก็บได้ประมาณช่วงเดือนก่อนถึงปลายปี ซึ่งโดยทั่วไปจะนิยมใช้วิธีการเพาะเมล็ด เพราะง่าย และสะดวกกว่าวิธีอื่น โดยวิธีการการเพาะเมล็ดนั้น ให้เพาะในถุงพลาสติกเพาะชำ ด้วยการผสมวัสดุเพาะระหว่างดินกับวัสดุอินทรีย์ ได้แก่ ปุ๋ยคอก แกลบดำ เป็นต้น อัตราส่วนดินกับวัสดุประมาณ 1:3 โดยก่อนลงเพาะให้นำเมล็ดมาแช่น้ำนาน 1 วัน ก่อน แล้วค่อยนำมาใส่ในภาชนะเพาะเมล็ด ส่วนการตอนกิ่ง และการปักชำก็ยังเป็นที่นิยมอยู่บ้าง เนื่องจาก จะได้ลำต้นที่ไม่สูงมากนัก แต่มีข้อเสีย คือ ลำต้นจะแตกกิ่งน้อย สำหรับการนำกิ่งชำลงปลูก ควรใช้กล้าชงโคที่มีลำต้นสูงประมาณ 25-30 ซม. หรือมีอายุประมาณ 1-2 เดือน หลังแตกหน่อ หากปลูกมากว่า 2 ต้น ที่อยู่ใกล้กัน ให้เว้นระยะห่างประมาณ 5-8 เมตร

วิธีการดูแล ต้นชงโค ที่สั้นกระชับ ทำตามได้ง่าย

แสง

ชงโคเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด และพร้อมจะรับแดดได้ตลอดทั้งวัน ปลูกเลี้ยงง่าย อยู่ในอากาศแบบเมืองร้อนได้

น้ำ

ชงโคชอบน้ำปานกลางโดยในระยะเริ่มต้น ตั้งแต่ ปลูกโดยเมล็ดหรือกิ่งชำ ให้รดน้ำ เพียงสัปดาห์ละ 2-3 หน อย่างให้น้ำขัง และ เมื่อโตเกิน 3-5 ปีขึ้นไป รากและลำต้นจะสามารถรับน้ำจากธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

ดิน

ดินที่ปลูกควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย หรือดินที่ระบายน้ำดี  หรือเป็นดินที่แห้งเล็กน้อย ถ้าดินชื้นแฉะเกินไปจะออกใบเยอะเกินไป

ปุ๋ย

ถ้าอยากให้ออกดอกมากๆ ต้องปล่อยให้ดินแห้งพอสมควร  และควรหมั่นเติมปุ๋ยคอก ปีละ 2-3 หน

ประโยชน์หรือสรรพคุณอื่นๆ ของต้นชงโค

ต้นชงโคเป็นไม้ที่นิยมปลูกเพื่อไว้เพื่อประดับตกแต่งสร้างความสวยงาม เนื่องจากมีความหมายอันเป็นมงคล มีทรงพุ่มหนาทำให้เป็นร่มเงาแก่ตัวบ้านได้เป็นอย่างดี ส่วนใหญ่แล้วนักจัดสวนจะใช้ชงโคสร้างร่มเงาให้สวน และเพื่อชื่นชมดอก  ซึ่งดอกจะลักษณะสีสันสวยงาม ให้ดอกเรื่อยๆ ตลอดปี ดอกยังให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ได้ชื่นใจ  นอกจากนั้นแล้ว ชงโคยังมีประโยชน์ในทางการแพทย์ โดยการนำใบมาบดละเอียดใช้ฟอกฝี แผล ดอก / ผล / เมล็ด ใช้แก้พิษไข้ร้อนจากเลือดและน้ำดี เป็นยาระบาย เปลือกต้นแก้ท้องเสีย แก้บิด

ต้นชงโค ปลูกในบ้าน

ราคาจำหน่ายของต้นชงโคต่อต้นโดยประมาณ

สำหรับราคากิ่งชำที่จำหน่ายตามท้องตลาดจะอยู่ที่ราคาต้นละ200-300 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและสายพันธุ์ส่วนราคาจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ชงโคจะอยู่ที่ราวๆ 20 เมล็ดต่อ 50 บาท เป็นต้น

แหล่งอ้างอิง

: https://arit.kpru.ac.th/

อยากให้มีเนื้อหาเรื่องอะไรเพิ่มเติม หรือมีความคิดเห็นอย่างไร เชิญคอมเม้นท์ไว้ได้เลยครับ