ชื่อภาษาอังกฤษ: Ficus elastica Black Prince หรือ Black Knight
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ficus elastica Roxb. Ex Hornem
วงศ์ยางอินเดียดำ : MORECEAE
ชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ : ยางลบ ยางอินเดีย (ภาคกลาง), ลุง (ภาคเหนือ)
ต้นยางอินเดียดำ (Ficus elastica Black Prince หรือ Black Knight) มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและเอเชียใต้ แพร่เข้ามาไทยเพื่อใช้ปลูกเป็นไม้ประดับ ซึ่งต้นยางอินเดียดำเป็นสายพันธุ์ที่นิยมเป็นอย่างมากในการนำมาเป็นไม้ประดับตกแต่งภายในบ้าน ต้นยางอินเดียดำมีจุดเด่นอยู่ที่ใบ มีลักษณะเป็นรูปวงรี ใบแข็งเงาและเป็นมัน โดยมีลักษณะใบเป็นสีเขียวเข้มจนเกือบเป็นสีดำซึ่งตัดกับสีของยอดอ่อนของต้นซึ่งเป็นสีแดงอมชมพู จึงมีความหมายดี ๆ เกี่ยวกับการเจริญเติบโตและการให้พลังชีวิต เป็นพันธุ์ไม้ที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย โตไว มีคุณสมบัติในการฟอกอากาศ หากใครที่กำลังมองหาต้นไม้สวย ๆ เหมาะกับการนำมาเป็นไม้ประดับภายในบ้าน
ความเชื่อ
เป็นต้นไม้มงคลช่วยเสริมสิริมงคล หากวางไว้ในบ้านต้นยางอินเดียดำจะช่วยส่งเสริมผู้อยู่อาศัย ช่วยเยียวยาจิตใจให้มีพลัง ในปัจจุบันนี้นิยมนำมาเป็นไม้ประดับฟอกอากาศนิยมปลูกในบ้านและรอบ ๆ ตัวบ้าน
ลักษณะของยางอินเดียดำ
- ลำต้นยางอินเดียดำ ยางอินเดียดำเป็นไม้ยืนต้นที่สามารถสูงประมาณ 30 เมตร แต่บางชนิดมีลักษณะเป็นไม้พุ่มหรือไม้เลื้อย เมื่อมีอายุมากขึ้น ยางอินเดียดำจะมีรากอากาศห้อยออกมาคล้ายต้นไทร เพราะถือเป็นไม้ตระกูลเดียวกัน ภายในลำต้นของยางอินเดียดำจะมีน้ำยางสีขาว ๆ เมื่อปล่อยให้ยางเหล่านั้นแห้งตัว จะมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง ๆ สามารถนำมาใช้เป็นยางลบได้
- ใบของยางอินเดียดำ ประกอบด้วยใบเล็กและใบใหญ่ และมีหลากหลายสีขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ ลักษณะใบของยางอินเดียดำมีความหนาและมันวาว ยอดอ่อนของใบจะมีลักษณะเป็นวงกลมยาว ๆ มีสีออกแดงอมชมพู เมื่อยอดใบอ่อนกางออกมา แผ่นใบด้านบนจะมีสีน้ำตาล แต่จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียวตามกาลเวลา
- ดอกของยางอินเดียดำ นั้นมีสีขาวขนาดใหญ่เรียงสลับกัน 2 ชั้น ด้านในของดอกประกอบไปด้วยเกสรตัวผู้ที่อยู่ด้านนอก ล้อมเกสรตัวเมียและรังไข่ที่อยู่ด้านใน
- ผลของยางอินเดียดำ ทรงกลมรี มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 มิลลิเมตร เมื่อแก่ผลมีสีเหลือง
วิธีการปลูก และการดูแลยางอินเดียดำ
การปลูกยางอินเดียดำนั้นมีหลากหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมมากที่สุด คือ การชำและการตอน ส่วนของการชำมีวิธีการดังนี้โดยจะต้องตัดกิ่งที่ค่อนข้างแก่ออกเป็นท่อน ๆ และนำไปชำในกระบะทรายหรือถ่านแกลบ โดยให้ใบที่ติดมากับกิ่งชำนั้นอยู่เหนือวัสดุปลูก ยอดของต้นใหม่จะงอกออกมาจากตาที่โคนของกิ่ง และการตอนนิยมเลือกกิ่งอ่อนที่ส่วนยอดของต้น เพราะจะได้ต้นใหม่ที่ดูสวยงาม โดยลอกเอาเปลือกออกแล้วหุ้มด้วยตุ้มกาบมะพร้าว รากจะงอกออกมาเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 10-15 วัน การดูแลให้สภาพของต้นมีความสมบูรณ์แข็งแรง ดินที่ใช้ผสมจะต้องมีทรายหรือวัสดุโปร่ง ช่วยในการให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก ได้รับแสงแดดจัดประมาณ 3 -5 ชั่วโมงต่อวัน การรดน้ำให้ดินแฉะ แล้วรอให้ดินแห้งสนิทสามารถรดต่อได้อีกครั้ง น้ำที่ได้รับจะต้องพอประมาณถ้าหากได้รับในปริมาณมากจะทำให้รากเน่าได้ ส่วนปุ๋ยนิยมเป้นปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอก โดยนำไปละลายกับน้ำให้เจือจาง ซึ่งสามารถให้ได้ทุกๆ 2 เดือน
ประโยชน์และสรรพคุณของยางอินเดียดำ
- มอบความสวยงาม จึงนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ
- ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ช่วยดูดซับฝุ่นละอองและสารก่อมะเร็ง
- ยางของต้น เมื่อแห้งแล้วสามารถนำมาใช้เป็นยางลบได้
การตลาดยางอินเดียดำ
ต้นยางอินเดียดำนั้นมีอยู่หลากหลายราคา ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ความสวย และขนาดของต้น โดยราคาเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ 100 บาท ถึง หลักพันขึ้นไป ราคาจะสูงขึ้นกับความหลากหลายลักษณะของใบเป็นหลัก ไปจนถึงราคาหลักพันบาท และสามารถหาซื้อได้ง่ายมาก มีให้สั่งออนไลน์ เช่น Shopee, Lazada และสามารถหาซื้อได้จากตลาดขายต้นไม้ทั่วๆ ไปเช่น ตลาดต้นไม้จตุจักร
แนะนำการปลูกไว้มุมไหนของบ้านให้ดูดี
ต้นยางอินเดียดำถือว่าเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ ที่สามารถฟอกอากาศทำให้บ้านของเราสดชื่นขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าจะปลูกเราก็ควรปลูกไว้ในที่ที่เราทำกิจกรรมบ่อยที่สุด เช่น ห้องรับแขก ห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น วางให้โดนแสงแดดรำไรด้วยยิ่งดีจะทำให้ใบดูมีความสง่างามแวววาว และเรามีเทคนิคดูแลต้นยางอินเดียดำในบ้านควรทำความสะอาดใบอยู่ตลอด ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดที่ใบ กำจัดเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกออก เพื่อให้ใบเงางามอยู่ตลอดเวลา มองแล้วทำให้เรามีความสุขเพิดเพลินขณะทำกิจกรรมหรือเวลาทั่วไป ถ้าหากปลูกไว้นอกบ้านก็สามารถปลูกได้ปกติเหมือนต้นไม้ทั่วไป แต่ไม่ควรปลูกให้โดดแสงแดดจัดๆ ตลอดทั้งวันเพราะจะทำให้ต้นไม้ไม่สวย ใบเหี่ยวแห้ง ใบบิดงอและไหม้ได้
แหล่งอ้างอิง
adeq.or.th
คลังข้อมูลพันธุ์ไม้แห่งประเทศไทย, ยางอินเดีย ไม้มงคล ช่วยฟอกอากาศ.