ชื่อการค้า
ชื่อทางวิทยาศาสตร์
ต้นกันเกรา ความเชื่อ ถือเป็น 1 ในพันธุ์ไม้มงคลของไทย ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประทานไม้มงคลนี้ให้ประจำอยู่ที่จังหวัดนครพนมโดยมีความเชื่อว่า ต้นกันเกรานั้นจะช่วยป้องกันสิ่งไม่ดี หรือความโชคร้ายไม่ให้เข้ามาทำอันตรายเรา ซึ่งชื่อกันเกรานี้จะถูกเรียกในภาคกลาง ส่วนภาคเหนือและภาคอีสาน
การปลูกต้นกันเกรา
นิยมปลูกด้วยการเพาะเมล็ดเป็นหลัก โดยจะเพาะจากเมล็ดที่ร่วงจากต้นหรือเมล็ดแก่จัดจากต้นนำมาตากแห้ว นำเพาะลงในถุงเพาะชำ จนต้นมีความสูงประมาณ 15-30 ซม. ก่อนจะย้ายลงจุที่ต้องการ ควรมีละยะห่างประมาณ 15-25 เมตร นอกจากนี้ยังสามารถปลูกได้โดยวิธีอื่นนอกจากเพาะเมล็ด เช่น การปัก ชำกิ่ง และ การตอน ตามความเชื่อเกี่ยวกับทิศทางการปลูกต้นกันเกราควรปลูกในทิศทางใต้และตะวันตกเฉียงเหนือ และปลูกในวันเสาร์จะยิ่งส่งผลดี
ลักษณะและส่วนประกอบของต้นกันเกรา
เป็นต้นที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นจะมีการแตกกิ่งเรือนยอดแน่นเป็นรูปกรวยคว่ำ ใบเดี่ยวเป็นรูปรีหรือกลม มีหูระหว่าก้าน ช่อดอกออกตามง่ามใกล้ปลายกิ่ง มีดอกจำนวนมากมีกลิ่นหอมเย็น โดยสีของดอกจะเริ่มจากสีขาวเป็นสีเหลืองจงถึงเหลืองอมชมพู มี 5 กลีบ ผลมีเนื้อกลม ผลแก่สีแดงมีรสขมภายในมีเมล็ดอยู่จำนวนมาก มีถิ่นกำเนิดตามป่าเบญจพรรณและบริเวณใกล้แหล่งน้ำ ในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย เวียดนามและอินเดีย สำหรับบ้านเราสามารถพบได้ทุกภาคแต่จะพบมากในบริเวณภาคใต้
ลำต้น
เป็นไม่ยืนขนาดกลางถึงใหญ่ ทรงไม่ตรงนัก ลำต้นสูง 20-30 เมตร เป็นไม่ผลัดใยแตกกิ่งในระดับต่ำ เรือนยอกแหลม ปลายกิ่งห้อยลู่ลว เปลือกต้นหยาบหนา มีสีน้ำตาลปนเทา เปลือกแตก ร่องไม่ลึก เปลือกชั้นในเป็นสีเหลือง เมื่อสำผอากาศจะเป็นสีน้ำตาล
ใบ
เป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ออกตรงข้างกันเป็นคู่ๆ แตกใบมากเป็นพุ่มที่ปลายกิ่ง ก้านยาว 1-2 เซนติเมตร มีลักษณะบางแต่เหนียวผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นสีเขียวเข้ม ด้านล่างใบมีสีจางกว่า ความยาว5-10 เซนติเมตร กว้าง 2.5-4.5 เซนติเมตร ปลายในมีติ่งเรียวแหลม
ดอกกันเกรา
ออกดอกเป็นช่อตามใบออกมาบริเวณปลายกิ่ง ดอกอ่อนมีสีขาวนวล เมื่อแก่จะเป็นสีเหลือง มี 5 กลีบ ปลายแยกออกเป็น 5 แฉก ยาวยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ปลายกลีบโค้งไปทางดอก ด้านในมีเกสรตัวผู้ 5 อัน ถัดมาเป็นรังไข่ รูปคล้ายเข็มหมุดมีกลิ่นหอม ออกดอกช่วงเดือน เมษายน-มิถุนายน
ผลและเมล็ด
มีลักษณะกลมกว้างประมาณ 8 มิลลิเมตร มีติ่งแหลมสั้นๆที่ปลาย ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีส้ม ผลสุกมีสีแดง มีรูปทรงไม่แน่นอนและมีเมล็ดจำนวนมาก ออกผลช่วงเดือน มิถุนายน – กรกฏาคม
วิธีการปลูกต้นกันเกรา
ต้นกันเกราเป็นต้นที่ต้องการความชื้นในระยะแรกสูงมาก การขุดหลุมจึงจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก หรือเศษไม้ ใบไม้มีความอ่อนเมื่อปลูกเสร็จต้องผูกเชือกติดกับไม่หลักกันไม่ให้ลำต้นโค้ง และเพื่อเร่งการเจริญเติบโตโดยเพิ่มความสวยให้กับต้นกล้าจากวัชพืช หากปลูกในดินไม่ดี ควรใช้ปุ๋ยสูตร 15: 15: 15 จะทำให้ต้นกันเกรามีอัตรารอดสูง โดยวิธีใส่ปุ๋ยจะทำหลังปลูกไป 1 เดือน ในปริมาณ 50 กรัมต่อ 1 ต้น ใส่ดินลึกประมาณ 5 เซนติเมตรห่างจากโคนต้น 30 เซนติเมตร จะทำให้การเจริญเติมโตของต้นกันเกราเติบโตได้ด้วยดี
การดูแล
เนื้อจากการดูแลต้นกันเกรายังไม่มีวิธีการศึกษาที่ชัดเจน ดังนั้นเราจะเริ่มจากพื้นฐานคือการดูแลจากการแย่งอาหารของวัชพืช เช่นการพยายามกำจัดวัชพืชเพื่อให้การปลูกต้นไม่ในระยะแรกเติบโตได้อย่างรวดเร็ว หลัดตรวจเช็คติดตามผลการปลูกหากต้นไม่ตายจะได้หาวิธีแก้ไขได้โดยเร็ว การทำแนวกันไฟหากเกิดกรณีไฟป่าลุกลามจากภายนอก
สรรพคุณของต้นกันเกรา
- แก่นกันเกรา มีสรรพคุณช่วยบำรุงไขมันในร่างกาย บำรุงธาตุ เป็นยาอายุวัฒนะ แก้เลือดพิการ ไข้จับสั่น ไป แน่นหน้าอก ขับลมในกระเพาะ แก้มูกเลือด รักษาริดสีดวง บำรุงม้าม ผิวหนังผุผองช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาลาเรียชนิดฟัลซิปารัมได้ หากนำมาผสมกับใบจะช่วยแก้โรคเส้นติดขัด และยังสามารถนำไปต้านแบคมีเรียได้อีกด้วย
ประโยชน์ของต้นกันเกรา
- ในส่วนของประโยชน์ นั้นต้นไม่ชนิดนี้นิยมปลูกเป็นไม่ประดับ เพราะมีความสวยงาม ดอกมีกลิ่นหอมสดชื่น กลิ่นไม่ฉุน ปลูกง่าย แข็งแรง ทนทาน สามารถปลูกในบ้านก็ได้ หรือ บริเวณสาธารณะ โดยไม้กันเกรา จะนิยมนำไปประกอบพิธีมงคลต่างๆ ใช้ในขั้นตอนก่อสร้างบ้านเรือน เพื่อเสริมความสิริมงคล เนื้อต้นกันเกรามีสีอ่อน เนื้อมีความละเอียด กันปลวกได้ดีที่สำคัญ เหนียว ทนทาน แข็งแรง ตกแต่งง่ายขัดเงาได้งดงาม เหมาแก่การนำมาก่อสร้างเช่นทำเสาเรือน เสารั้ว หน้าต่าง ประตู เครื่องมือทางการเกษตร มีด จอบ พร้า ขวาน เครื่องเรือน โต๊ะ ตู้ เป็นต้น
ราคาของต้นกันเกรา
ราคานั้นจะขึ้นอยู่ที่ขนาดความสูงความกว้าง โดยจะอยู่ ที่ หลัก 50-10,000 ต่อต้นขึ้นไป
