ต้นหลิวทอง ไม้พุ่มมงคลปลูกประดับก็ได้ ปลูกขายก็ราคาดี

ต้นหลิวทอง (Revolution gold) หนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรงและเป็นไม้ยืนต้นที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะถึงจะเป็นไม้ยืนต้นแต่ก็ยังมีทรงพุ่มโปร่งสีทองอร่ามสวยงาม ยิ่งนำไปปลูกเป็นไม้รั้วไม้ประดับสวนแล้วก็ยิ่งช่วยเนรมิตให้พื้นที่บริเวณนั้นดูสดใสสวยงามขึ้นมาได้อย่างน่าทึ่งเป็นไม้ที่ปลูกง่ายดูแลได้ไม่ยากและสามารถตัดแต่งทรงพุ่ม หรือควบคุมขนาดความสูงของทรงพุ่มได้ตามความต้องการของเราด้วย ถือเป็นไม้ที่ปลูกได้ดีในสภาพอากาศของไทยและยังจัดเป็นไม้มงคลตามความเชื่อของคนจีนด้วย ยิ่งปลูกติดบ้านไว้จะช่วยเปิดรับฮวงจุ้ยดี ๆ เข้าบ้าน เชื่อว่าหลายคนที่พอฟังมาถึงจุดนี้แล้วก็คงเริ่มสนใจต้นนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับต้นหลิวทองให้มากขึ้นกัน

ข้อมูลทั่วไปของต้นหลิวทอง

หลิวทอง

ชื่อไทย: หลิวทอง

ชื่อเรียกอื่น ๆ: ลิ้ว (จีนแต้จิ๋ว), หยั่งลิ้ว และ หลิ้ว (จีนกลาง)

ชื่อสามัญ: Revolution gold

ชื่อวิทยาศาสตร์: Melaleuca bracteata F.Muell.

ชื่อวงศ์: MYRTACEAE

ความเชื่อ

ในอดีตต้นหลิวหรือไม้ในตระกูลหลิวหรือไผ่ อาจได้รับการกล่าวถึงในแง่ของความหมายที่ไม่ดีนักด้วยความที่เชื่อว่าการปลูกไม้ที่มีลักษณะลู่ลมง่าย กิ่งก้านใบอ่อนจะทำให้จิตใจอ่อนไหว โศกเศร้าง่าย แต่ตามความเชื่อของคนจีนสมัยใหม่กลับนิยมปลูกต้นหลิวทองมาก ๆ ด้วยความเชื่อว่าทรงพุ่มและใบของต้นนี้เมื่อโตได้ถึงระดับหนึ่งหากไม่ตัดหรือดัดแปลงต้ก็นจะโน้มลงและลู่ไหวไปตามลม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนทำให้มีแต่คนรักใคร่ อีกทั้งสีเหลืองของต้นนี้ยังสื่อถึงความเชื่อในด้านความมั่งมีในโชคลาภและเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้าที่ใครได้ปลูกหรือครอบครองต้นไม้ชนิดนี้ก็จะช่วยเสริมความเป็นมงคลให้แก่ชีวิต อีกทั้งคำว่า “หลิว” มาจากสำเนียงอ่านคำว่า “หลิ่ว (柳)” ที่แปลว่าเหลือ หรือเหลือไว้ ต้นไม้นี้หากใครปลูกก็เชื่อว่าจะช่วยเสริมพลังชีวิตหรือช่วยปรับฮวงจุ้ยให้บ้าน ให้ได้รับความมั่งคั่งร่ำรวย มีเงินทองเหลือใช้เหลือเก็บนั่นเอง

ลักษณะของต้นหลิวทอง

หลิวทอง
หลิวทอง

ลำต้น 

ต้นนี้เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่แต่ทรงพุ่มโปร่ง โดยทั่วไปจะสูงได้ตั้งแต่ 1.5 – 15 เมตรเลยทีเดียว ถ้าหากว่าไม่ได้รับการตัดแต่งพุ่มใบ บริเวณส่วนลำต้นมีเนื้อไม้ที่ค่อนข้างแข็งแรง 

ใบ

ต้นหลิวทองจะออกใบแบบใบเดี่ยว โดยจะเกิดสลับเรียงกันไปเรื่อย ๆ  ใบจะเรียวเล็ก ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ไม่มีก้านใบ มองรวม ๆจะคล้าย ๆ ใบของต้นปริกหางกระรอกแต่จะเล็กและเกิดสลับกันถี่กว่าแผ่นใบสีเขียวอ่อนอมเหลืองอร่าม

ดอก

ออกเป็นช่อกระจุกแน่นที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง คล้ายดอกกระถิน ช่อดอกยาว 1.5-3.5 ซม. มีกลีบประดับ 3 กลีบ ตรงกลางดอกมีเกสรเพศผู้ลักษณะเหมือนขนสั้นสีขาว แต่ละดอกย่อยทยอยกันบาน

ผล

น้อยคนที่จะสังเกตว่าจริง ๆ แล้วต้นนี้มีผลกลม ๆ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 มิลลิเมตร

การปลูกเลี้ยงต้นหลิวทองให้สวยงาม

สำหรับใครที่กำลังสนใจอยากจะเริ่มไปซื้อหาต้นหลิวทองมาปลูกกัน แต่ด้วยความเป็นมือใหม่และมีความกังวลว่าจะไม่สามารถปลุกให้สวยงามได้วันนี้ทางเว็บไซต์เกษตรทูเดย์จึงอยากจะมาแนะนำเคล็ดลับหรือวิธีการปลูกต้นหลิวทองง่ายง่ายให้ทุกคนได้ลองนำไปปฏิบัติตามเพื่อช่วยให้ต้นหลิวทองของเราสวยงามและเจริญเติบโตได้อย่างแข็งแรงมากยิ่งขึ้นด้วย

หลิวทอง

ดิน

หลิวทองเป็นต้นไม้ที่เจริญและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตมากที่สุดก็คือลักษณะของดินที่ใช้ปลูก ส่วนใหญ่ต้นหลิวจะเกิดและโตได้ดีในดินร่วนที่สามารถระบายน้ำได้ดีและหากดินนั้นได้รับการผสมวัสดุปลูกมาก่อนก็จะดีมาก เพราะจะช่วยเติมแร่ธาตุและบำรุงดินให้พร้อมต่อการปลูกมากขึ้น ยิ่งใครที่จะปลูกขายก็แนะนำว่าควรปรับหน้าดินให้ได้ตามนี้ก่อนการลงปลูกจึงจะถือว่าดี

แสงแดด

หลิวทองเป็นไม้ยืนต้นที่ชอบแสงแดดมาก ๆ จึงควรเลือกปลูกในที่ที่แสงแดดสามารถส่องถึงได้ตลอดทั้งวัน เพราะแสงมีผลมากต่อการผลัดสีของใบ ยิ่งได้รับแสงเพียงพอสีของใบหลิวจะยิ่งเป็นสีเหลืองทองอร่ามชัดเจนขึ้นและแสงแดดที่สม่ำเสมอยังช่วยลดปัญหาเชื้อราที่จะเกิดบริเวณใบได้อย่างดีด้วย

น้ำ

ในส่วนของการรดน้ำต้นหลิวทองให้ทำเพียง 1 ครั้งต่อวัน ปกติแล้วต้นนี้จะชอบน้ำระดับปานกลาง ๆ แต่ก็ต้องมีความชุ่มชื้นตลอด เราจึงมักจะเห็นคนนิยมปลูกต้นหลิวทองบริเวณใกล้กับแหล่งน้ำ เนื่องจากมีสภาพความชื้นที่เหมาะสมอีกทั้งยังง่ายต่อการรดน้ำด้วย

ปุ๋ย

สำหรับปุ๋ยที่ควรเลือกมาใช้ในการบำรุงดินก็คือ ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก โดยควรเติมทุก ๆ 2 เดือน เพื่อเป็นการเติมแร่ธาตุและสารอาหารให้แก่ดิน 

เกร็ดความรู้

โรคใบแห้ง เป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับต้นหลิว เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย โดยโรคนี้อาจต้องเริ่มจากควบคุมปริมาณในแต่ละสภาพอากาศ หากช่วงหน้าร้อนที่ต้นหลิวได้รับแสงแดดจัด ๆ นานเกินไปการให้น้ำอาจต้องเพิ่มเป็นช่วงเช้าและเย็น เพราะถึงต้นหลิวทองจะชอบแสงแดดมากแต่ในทางกลับกันหากมีแสงแดดมากเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุของโรคใบแห้งได้

การขยายพันธุ์ต้นหลิวทอง

หลิวทองนิยมใช้วิธีปักชำในการขยายพันธุ์ ซึ่งก็ไม่ได้มีขึ้นตอนยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยเริ่มจากการ เลือกกิ่งอ่อน ๆ ของต้นหลิว สามารถขุดดูบริเวณที่กิ่งมีสีน้ำตาลและเนื้อด้านในยังคงเป็นสีเขียวอ่อนอยู่ ตัดกิ่งบริเวณนั้นให้ได้ความยาว 3 – 6 นิ้ว โดยให้ตัดเฉียงทำมุม 45 องศา ควรจะตัดให้ติดใบมาพอสมควรแต่ไม่ต้องเยอะมากเพื่อลดการคายน้ำ จากนั้นให้ใช้มีดคม ๆ หรือคัตเตอร์กรีดบริเวณปลายส่วนที่ตัดทำมุมไว้ให้เป็นรอยแผลยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ทำ 3 – 4 รอย เพื่อเพิ่มการแตกรากใหม่ของต้น จากนั้นให้นำไปจุ่มในฮอร์โมนเร่งรากตามอัตราส่วนที่ติดมาข้างฉลาก หรือใช้วิธีบ้าน ๆ ที่หลายคนนิยมด้วยกันนำไปแช่ในเครื่องดื่มชูกำลัง (M-150) ทิ้งไว้ซัก 30 – 40 นาทีเพื่อเป็นการเร่งการเจริญเติบโตของราก

หลิวทอง

ต่อมาให้นำกิ่งที่แช่เสร็จแล้วปักลงในดิน อาจเป็นดินร่วนที่ผสมกับขุยมะพร้าวและทรายหยาบในอัตรา 1:1:1 มาแล้วจะดีมาก จากนั้นรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นแล้วหาถุงพลาสติกมาครอบปิดไว้ให้สนิท อย่าให้อากาศเข้าเพื่อรักษาความชื้น แล้วนำไปวางไว้ในที่ที่แดดสามารถส่องถึง รอประมาณ 1-2 เดือน ให้สังเกตว่ามีการแตกใบอ่อนขึ้นใหม่หรือไม่ ถ้ามีใบอ่อนขึ้นใหม่ก็แสดงว่ามีการแตกรากเพื่อดูดซึมสารอาหารจากดินแล้ว เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยพร้อมนำไปลงปลูกในดินต่อไป

การนำต้นหลิวทองไปใช้ประโยชน์

หลิวทอง
  1. นิยมนำไปปลูกแต่งบ้านหรือแต่งสวนเพื่อช่วยทำให้พื้นที่บริเวณนั้นดูสวยงามขึ้น สามารถปลูกเป็นไม้ประธานบ้านได้แต่อาจต้องใช้เวลาหลายปี
  2. ปลูกเป็นไม้ล้อมรั้ว เพื่อช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้รั้วบ้านสวยงามแต่อาจต้องตัดแต่งทรงพุ่มอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ฟอร์มต้นยังคงความสวยงามอยู่ได้นาน
  3. ปลูกเป็นไม้เสริมฮวงจุ้ยบ้านตามความเชื่อของคนจีน นิยมปลูกไว้บริเวณหน้าบ้านหรือทางทิศตะวันออกของตัวบ้านเพราะเชื่อว่าจะช่วยเสริมดวงเรื่องความมั่งคั่ง ร่ำรวยได้อย่างดี
  4. ปลูกขาย เพราะต้นหลิวทองได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เกษตรกรหลายคนจึงหันมาปลูกเพื่อตัดขาย ใช้การลงทุนน้อยแต่ตัดขายได้เกือบตลอดทั้งปี มีตลาดรองรับ นิยมตัดกิ่งก้านใบไปใช้จัดช่อดอกไม้ ใช้เป็นไม้ประดับจัดงานมงคลต่าง ๆ ทั้งพิธีขึ้นบ้านใหม่หรือแม้แต่จัดช่อดอกไม้ในวันรับปริญญา เพราะสีเหลืองทองอร่ามของต้นนี้เชื่อว่าแทนความหมายที่ดีและมงคล
  5. ปัจจุบันสามารถนำไปสร้างมูลค่าโดยการทำเป็นไม้ถักสานหรือทำไม้บอนไซขาย เพราะกิ่งอ่อนสามารถนำไปดัดทำเป็นไม้ประดับสวนงามได้ ขายในราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันได้เลย

สาระน่ารู้

อย่างที่บอกไปว่าต้นหลิวทองเป็นที่ต้องการในตลาดต้นไม้อย่างมาก ซึ่งความต้องการนี้มันก็ส่งผลให้ราคาของต้นนี้สูงขึ้นไปตาม ๆ กัน เช่นกัน แต่ในทางกลับกันต้นทุนในการปลูกต้นหลิวชนิดนี้กลับมีราคาไม่สูงมาก สามารถลงทุนครั้งเดียวแล้วปลูกขายได้ต่อเนื่องยาวนาน ปัจจุบันต้นหลิวทองราคาตามท้องตลาดจะอยู่ที่ต้นละ 130-150 บาท หากปลูกขายก็จะมัดรวมกันเป็นช่อใหญ่ ๆ ส่งขายมัดละประมาณ 300 – 400 บาทถ้าหากว่าช่อใบมีความสมบูรณ์สวยงามมาก ๆ ก็จะยิ่งขายได้ในราคาดี เป็นอีกต้นไม้ที่น่าปลูกและน่าลงทุนมาก ๆ เลยก็ว่าได้

เชื่อว่าหลายคนที่ได้ทำความรู้จักกับต้นหลิวทองไปแล้วน่าจะเริ่มสนใจอยากจะไปซื้อหามาปลูกกันบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่าแม้ว่าหลิวทองจะได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน แต่ยังมีการเพาะปลูกเพื่อจำหน่ายกันในวงจำกัดจนแทบจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด สวนต้นหลิวทองที่พบได้ส่วนใหญ่จะอยู่แถบภาคกลาง ดังนั้น ใครที่กำลังมองหาช่องทางการสร้างรายได้การปลูกหลิวทองขายก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีมากทีเดียว

แหล่งอ้างอิงข้อมูล

Melaleuca bracteata ‘Revolution Gold’

องค์ความรู้ – เรื่อง ไม้ถักจากต้นหลิว

หลิว 柳 – Jiewfudao

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้