ต้นอินจัน เป็นต้นไม้ที่เจริญเติบโตช้า มีอายุยืนยาวนาน เป็นไม้เศรษฐกิจอันทรงคุณค่า สามารถนำไปใช้เป็นอาหาร คาว หวาน รวมทั้งเครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องยาสมุนไพรได้หลากหลายชนิด แถมมีความเชื่อว่าเป็นต้นไม้แห่งโชคลาภและความเป็นสิริมงคล ด้วยเหตุที่ชื่อมี คำว่า เงิน ทอง อยู่ ดี อิน จัน มั่น คง ซึ่งตามตำราไม้มงคลกล่าวไว้ แต่ด้วยความที่เป็นไม้เติบโตช้า ใช้เวลาเป็นหลายสิบปีจึงจะออกผลให้เก็บเกี่ยว ทำให้ความนิยมในการปลูกได้ลดลงเรื่อยมาจนปัจจุบันต้นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของต้นอินจันเรียกว่าหาได้ยากมาก จึงจัดเป็นพืชควรค่าแก่การอนุรักษ์พันธุกรรมของหลายหน่วยงาน
![ต้นลูกจันทร์ปลูกในบ้านได้หรือไม่](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/07/Untitled.png)
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นอินจัน
ต้นอินจัน หรือต้นจัน เป็นต้นไม้มงคลที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน แต่ปัจจุบันใกล้จะสูญพันธุ์ จึงหาดูได้ยากมาก คนในสมัยโบราณนิยมปลูกต้นอินจันไว้ที่วัด โดยมีความเชื่อว่า ต้นอินนั้นเป็นไม้ผลที่ค่อนข้างแปลกและน่าอัศจรรย์ เนื่องจากในต้นเดียวสามารถออกผลได้ 2 แบบ คือ ผลกลมป้อมขนาดใหญ่กว่าเรียกว่า “ลูกอิน” เนื้อภายจะมีเมล็ดประมาณ 2-3 เมล็ด แต่ผลลูกแบน มีขนาดเล็กกว่า เรียกว่า “ลูกจัน” ไม่มีเมล็ด เมื่อสุกแล้วจะเป็นสีเหลือง เนื้อนุ่ม ผลจะให้กลิ่นหอมมาก และมีรสฝาด สามารถรับประทานได้ ผู้คนจึงเชื่อว่าการปลูกต้นอินจันจะก่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลต่อสถานที่โดยเฉพาะในเขตรั้วสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเช่นวัดนั่นเอง
ส่วนประกอบของต้นอินจัน
ต้น
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง ชนิดไม่ผลัดใบ ความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 10-20 เมตร ไม้ต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 10 – 20 เมตร ทรงต้นเป็นทรงกระสวย เปลือกต้นเรียบ สีน้ำตาลอมเทา กิ่งอ่อนยอดอ่อน มีขนสีน้ำตาลปกคลุม กิ่งก้านเหนียว ลำต้นตรง
ใบ
ใบเดี่ยว (simple leaf) เรียงสลับระนาบเดียว (distichous) รูปรี (elliptic) หรือรูปขอบขนาน (oblong) ปลายใบแหลม (acute) ขอบใบเรียบ (entire) แผ่นใบเรียบเป็นมันลื่น สีเขียวเข้ม กว้าง 2.5 – 3 ซม. ยาว 7 – 10 ซม. ใบอ่อนมีขนสีแดงปกคลุม
ดอก
ดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน สีขาวนวล หรือสีเหลืองอ่อน ดอกเพศผู้ จะมีลักษณะเป็นช่อขนาดเล็กๆ แบบช่อกระจุกสั้นตามซอกใบ แต่ละช่อมีประมาณ 3 ดอก กลีบเลี้ยง 4 – 5 กลีบ เรียงเป็นรูปถ้วย (hypanthium) แต่ไม่เชื่อมกัน มีกลีบดอก 4 – 5 กลีบรูปเหยือกน้ำ (urceolate) เชื่อมติดกันสั้นๆ ยาว 1 – 1.5 ซม. ส่วนดอกเพศเมีย เป็นดอกเดี่ยว ออกตามง่ามใบ ลักษณะคล้ายดอกเพศผู้ แต่มีขนาดใหญ่กว่า รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ (superior ovary) มีขน ก้านเกสรตัวเมียมี 2 อัน
ผล
ผลเดี่ยว (simple fruit) แบบเบอร์รี่ (berry) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4 – 5 ซม. มีทั้งผลกลมหรือผลแป้น ผิวผลเรียบ มีกลีบเลี้ยงติดที่ผล ผลอ่อนมีสีเขียวเมื่อสุกมีสีเหลือง เนื้อนุ่ม มีกลิ่นหอม ถ้าเป็นชนิดผลแป้นเมล็ดจะลีบ มีรอยบุ๋มตรงกลางผล ไม่มีเมล็ด เรียก “จันอิน” หรือ “ลูกจัน” ถ้าผลกลมจะมีเมล็ด เรียก “จันโอ” หรือ “ลูกอิน” เมล็ดมีเอนโดสเปอร์มเรียบ (albuminous seed) ลักษณะกลมรี สีน้ำตาลเป็นเมล็ดแบบสมบูรณ์เพศ สามารถนำไปขยายพันธุ์ได้
![ต้นอินจัน ความเชื่อ](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/07/4DQpjUtzLUwmJZZUPa2RSvNV4pfPv0sXvoJVRHUTIdCb-730x1024.jpg)
สายพันธุ์ ต้นอินจัน ที่พบในเมืองไทย
ต้นอินจันในประเทศไทย สามารถแบ่งแยกออกได้เป็นสองสายพันธุ์หลักๆ นั่นก็คือ สายพันธุ์ดั้งเดิมแท้ๆ แต่โบราณ ที่มีขนาดลำต้นค่อนข้างใหญ่สูงกว่า 10-20 เมตรขึ้นไป และต้องใช้เวลาปลูกเลี้ยงนานกว่า 8-10 ปี จึงจะมีดอกและติดผล พบเห็นไม่ได้บ่อยเท่าใดนักในปัจจุบัน โดยมากจะปลูกอยู่ตามวัดและโบราณสถานต่างๆ
ส่วนอีกสายพันธุ์ จะเป็นพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่า “อิน-จัน พันธุ์ศรีสุภา” ที่เกิดจากการตอนกิ่งด้วยระบบทาบกิ่งกับต้นอิน-จัน พันธุ์โบราณ ขนาดต้นจะสูงเพียงแค่ 3-5 เมตร สามารถมีดอกติดผลได้แล้วและมีดอกติดผลได้รวดเร็วกว่าเดิมคือ หลังปลูกแค่ 2-3 ปีเท่านั้น ที่สำคัญเป็นพันธุ์ใหม่ที่ปลูกลงกระถาง มีดอกและติดผลได้ด้วยจึงได้รับความนิยมปลูกอย่างแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน
วิธีการปลูก และสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูก ต้นอินจัน
การขยายพันธุ์ต้นอินจัน นิยมทำโดยการเพาะเมล็ด จึงมีการแพร่กระจายพันธุ์ตามธรรมชาติได้น้อยมาก เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่อุดมสมบูรณ์ ชอบแสงแดดแบบเต็มวัน ต้องการน้ำและความชื้นในปริมาณค่อนข้างมาก
วิธีการดูแลต้นอินจัน
ต้นอินจัน สายพันธุ์ดั้งเดิม เป็นไม้ที่โตช้า ต้องอาศัยระยะเวลาเป็นสิบปีขึ้นไปจึงจะมีผลให้ใช้ประโยชน์ ความนิยมจึงเริ่มเสื่อมถอย โดยปกติแล้วต้นอินจันสามารถเจริญเติบโตได้ดีตามธรรมชาติ โดยหลังจากลงกล้าไม้ไปราวๆ 2 เดือนแล้ว ทุกๆ เดือนควรหมั่นตัดแต่งกิ่งและใส่อินทรียวัตถุ จากนั้นสามารถปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติได้เอง
แสงแดด
ต้นอินจัน ต้องการแสงแดดจัด ตลอดวัน เพื่อการเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์
น้ำ
ควรปลูกใกล้แหล่งน้ำเพราะเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก
ดิน
สามารถเจริญเติบโตได้ในดินร่วนโดยทั่วไป สภาพดินต้องมีความชุ่มชื้น ไม่ควรเป็นดินทรายจัด ดินลูกรัง หินดาน หรือที่แห้งแล้งจนเกินไป
ปุ๋ย
ควร ใส่ปุ๋ย อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง คือ ช่วงก่อน หน้าฝน และครั้ง ที่ 2 คือ หลังหน้า ฝนแล้ว ควรใส่ ปุ๋ยคอก หรือ ปุ๋ยอินทรีย์
![ราคาต้นอินจัน](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/07/Vegetable-fruit-191260-4.jpg)
ประโยชน์หรือสรรพคุณอื่นๆ จากต้นอินจัน
ต้นอินจัน ถือเป็นหนึ่งในไม้ทรงคุณประโยชน์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ พบในป่าบางแห่งและตามวัดเก่า ๆ เนื้อไม้แข็งจึงมักถูกตัดฟันเพื่อนำมาทำถ่านและฟืน ปัจจุบันเป็นไม้หวงห้าม เนื่องจากหายากและด้วยเหตุที่เนื้อไม้มีลวดลายสวยงามทำให้เป็นที่นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์
“ผล”เมื่อสุกแล้วมีรสหวานและฝาดเล็กน้อย นิยมรับประทานเป็นผลไม้สด หรือนำไปแปรรูปเป็นของหวาน ลักษณะแตกต่างกันอยู่ 2 รูปแบบคือ รูปกลมมนในผลมีเมล็ดเรียกว่า “ลูกอิน” กับชนิดผล รูปกลมแป้น ในผลไม่มีเมล็ด เรียกว่า “ลูกจัน” ผลสุกทั้ง 2 ชนิดเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอมแรงเฉพาะตัว รสชาติหวานเล็กน้อยรับประทานอร่อยมาก ลูกจันสุก บ่มให้สุกดีๆ งอมๆ เอามาทำน้ำกะทิลูกจัน กินกับข้าวเหนียวมูน หอม อร่อยจนใครๆ ต้องติดใต คนเป็นโรคนอนไม่ค่อยจะหลับมีอาการกระสับกระส่ายกินผลสุก “ลูกจัน” ช่วยได้ ผลสุกทั้ง 2 ชนิดยังนิยมจัดใส่พานบูชาพระส่งกลิ่นหอมดีมาก
ผลดิบอ่อนใช้ต้มจิ้มน้้าพริก เป็นผักได้ หรือท้าส้มตำแบบอีสาน โดยสับทั้งเปลือก ใช้แทนมะละกอ ปรุงรสเปรี้ยวด้วยมะยมและมะเฟือง ผลสุกมีกลิ่นหอม รสหวานรับประทานได้หรือน้าไปแปรรูป เป็นของหวาน ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย ช่วยต้าน อนุมูลอิสระและช่วยยับยั้งการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงได้
นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร เนื้อไม้รสขมปนหวานต้มน้ำดื่มบำรุงประสาท ทำให้ผิวหนังดูสดใสขึ้น แก้ไข้ แก้อาการปอดและตับพิการได้ แก้ร้อนในกระหายน้ำและขับพยาธิดีมาก จากงานศึกษาวิจัยผลไม้ในไทยพบว่า น้ำผลไม้ไทยจากลูกอินจัน มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และยังมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการแตกตัวของเม็ดเลือดแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงอีกด้วย
![ต้นอินจัน ขยายพันธุ์](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/07/b9d23dd910929c44d05cc6eac2d02e35.jpg)
ราคาต้นอินจันต่อต้นโดยประมาณ
กล้าพันธุ์ไม้ต้นอินจัน ขนาด 1 ฟุต จากการทาบกิ่ง ราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ประมาณ 300-500 บาท