นนทรี พันธุ์ไม้ยืนต้นที่อยู่ในวงศ์ถั่ว เป็นไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียและประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยในประเทศไทยนั้นสามารถพบได้ทั่วไปตามชายป่าเต็งรัง หรือป่าเบญจพรรณในภาคตะวันออก ภาคอีสาน และภาคเหนือ ซึ่งลักษณะของต้นนนทรีจะเป็นทรงพุ่มสูงประมาณ 25 เมตร เป็นไม้กึ่งผลัดใบ เรือนยอดจะเป็นรูปร่มแผ่ขยายออกกว้างขวาง ต้นจะออกดอกเป็นช่อตั้งขนาดใหญ่ที่ปลายกิ่ง โดยจะออกดอกในฤดูแล้งช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน ในปัจจุบันจะเห็นว่าต้นนนทรีนั้นถูกนำไปปลูกตามสถานที่ราชการต่าง ๆ เพราะเป็นต้นไม้มงคลและเป็นต้นที่มีดอกสวยงามและยังเป็นร่มเงาได้ด้วย
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นไม้
ดอกนนทรีเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา นนทบุรี และพิษณุโลก โดยศูนย์ปฏิบัติการวิจัย ฯ นั้นเชื่อว่านนทรีเป็นต้นไม้ที่สำคัญมาก เนื่องจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกไว้เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง ในวันที่ 20 ธันวาคม พุทธศักราช 2523 และในขณะนี้ต้นนนทรีนี้ก็สูงประมาณ 22 เมตร ทรงต้นสวยงาม จึงนับได้ว่าต้นนนทรีนี้เป็นหนึ่งในไม้มงคลของไทย และคนไทยก็จะนิยมปลูกไว้ตามสถานที่ราชการต่าง ๆ ด้วย
นอกจากนี้สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้เลือกต้นนนทรีให้เป็นต้นไม้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่อแสดงว่านิสิตเก่าของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์นั้นมีใจผูกพันกับสถาบันอยู่ตลอดเวลา และสามารถทำงานประกอบอาชีพได้ทั่วทุกหนทุกแห่ง ทั้งในไร่นา ป่าเขา ทั่วทั้งประเทศไทย และนนทรีนั้นเป็นไม้ยืนต้นที่มีอายุยืน ทนทานในทุกสภาพอากาศของประเทศไทย โดยใบสีเขียวแก่หมายถึงสีเขียวขจีของเกษตร และใบสีเหลืองทองกับดอกสีเหลืองหมายถึงสีเหลืองของคณะเกษตรนั่นเอง
ส่วนประกอบของต้นนนทรี
ลักษณะลำต้น
นนทรีเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นสูงประมาณ 15-30 เซนติเมตร แตกออกเป็นกิ่งก้านเป็นทรงพุ่มรูปทรงกลม โดยพุ่มจะดูหนาทึบ และแตกกิ่งก้านแขนงใหญ่ตั้งแต่ระดับล่างของลำต้น เปลือกต้นเป็นสีเทาอ่อนค่อนข้างเรียบหรือแตกออกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆ ตามกิ่งก้านอ่อนมีขนสีน้ำตาลแดง เปลือกลำต้นด้านในมีสีแดงเรื่อ โดยเปลือกนั้นจะมีความหนาและแข็ง
ใบ
ใบของนนทรีจะประกอบกันแบบชนนกสองชั้นเรียงเวียนสลับกัน ซึ่งใบจะมีรูปทรงเหมือนกับไข่แกมรูปขอบขนาน โดยมีความกว้าง 3-7 เซนติเมตร และมีความยาว 10-18 เซนติเมตร ช่อใบหลักจะมีความยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ส่วนช่อแขนงใบย่อยจะเรียงตรงข้าม 9-16 คู่ ปลายใบมนเว้าเข้าเล็กน้อย และโคนใบจะเบี้ยว
ดอก
ดอกของนนทรีจะมีสีเหลือง โดยจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ดอกจะออกเป็นช่อในลักษณะช่อกระจะตรงซอกใบใกล้ปลายกิ่ง และช่อดอกจะมีความยาว 20-30 เซนติเมตร โดยมีกลีบเลี้ยงด้วยกัน 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ ส่วนด้านนอกนั้นจะมีขน เมื่อดอกบานเต็มที่แล้วจะมีความกว้างประมาณ 1.6-1.8 เซนติเมตร
สายพันธุ์
นอกจากต้นนนทรีที่เห็นกันได้ทั่วไปแล้วยังมีอีกสายพันธุ์หนึ่งที่คล้ายกัน นั่นก็คืออะราง หรือเรียกอีกชื่อว่านนทรีป่า หรืออินทรี ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่อยู่ในวงศ์ Caesalpiniaceae มีลักษณะเปลือกเรียบสีเทาอมน้ำตาล ใบจะประกอบเป็นแบบขนนก ส่วนดอกช่อจะออกตามปลายกิ่งแล้วห้อยลง ซึ่งดอกจะมีสีเหลือง มีกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ กลีบดอกมีความย่น มีเกสรตัวผู้ 10 อัน ผลเป็นฝักแบน ปลายและโคนฝักมีความเรียวแหลม และเมล็ดแบนมีสีน้ำตาล ซึ่งลักษณะของอะรางจะคล้ายนนทรีแต่ต่างกันที่ช่อดอกของอะรางนั้นจะห้อยลงแต่นนทรีนั้นจะชี้ขึ้น
วิธีการปลูก
- ขั้นตอนแรกเพาะเมล็ดนนทรี และหลังจากที่เพาะเมล็ดได้แล้วประมาณ 7 วัน เมล็ดก็จะเริ่มงอกให้เห็นต้นอ่อน
- ทำการย้ายต้นกล้าลงชำต่อในถุงเพาะชำ แล้วรดน้ำใส่ปุ๋ย
- ดูแลจนกระทั่งถึง 3 เดือน ต้นกล้าจะสูงประมาณ 7-8 นิ้ว จากนั้นก็ทำการย้ายต้นกล้าลงในหลุมเพื่อทำการปลูก
- ขุดหลุมให้ได้ขนาดพอเหมาะกับต้นกล้า (ระยะการปลูกที่เหมาะสม 4-10 เมตร) เสร็จแล้วนำต้นกล้าลงปลูกในหลุมที่ขุดไว้
- กลบดินลงไปให้หมดและทำการใส่ปุ๋ย เสร็จแล้วก็รดน้ำ
วิธีการดูแล
แสงแดด
ต้นนนทรีเป็นต้นที่มีความทนทานในทุกสภาพอากาศ และทนต่อความแล้งได้ดี ดังนั้นการปลูกต้นนนทรีก็ควรจะให้ต้นได้โดนแดดตลอดวันอย่างเต็มที่ เพราะแสงแดดก็มีส่วนจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของต้นนนทรีด้วยเช่นกัน
น้ำ
การให้น้ำกับต้นนนทรีนั้นต้องให้ในปริมาณที่พอดี ไม่น้อยหรือมากจนเกินไป เนื่องจากเดิมนั้นต้นนนทรีเติบโตได้ดีอยู่แล้ว และมีความทนทาน จึงไม่จำเป็นต้องรดน้ำในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น แต่ให้รดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ต้นนั้นมีการเจริญเติบโตที่ดีและเร็วขึ้น
ดิน
นนทรีเป็นไม้ยืนต้นที่มีความทนทานในทุกสภาพอากาศของประเทศไทย และเป็นต้นไม้ที่สามารถปลูกได้กับดินทุกประเภท เพราะเป็นต้นที่มีการเจริญเติบโตเร็ว โดยในฤดูแล้งนั้นต้นนนทรีก็ยังสามารถทนแล้งได้ดีด้วย จึงถือว่าเป็นต้นไม้ที่ดูแลง่ายอีกต้นหนึ่ง
ปุ๋ย
ปุ๋ยในปริมาณพอดีตอนที่ปลูกต้นนนทรีใหม่ ๆ โดยไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยสม่ำเสมอ เนื่องจากนนทรีเป็นต้นที่เจริญเติบโตได้เร็วอยู่แล้ว ดังนั้นใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ต้องใส่เยอะมาก
ประโยชน์หรือสรรพคุณอื่น ๆ
- นนทรีสามารถปลูกเป็นไม้ประดับช่วยเพิ่มความสวยงามและเสริมสิริมงคลให้กับสถานที่นั้น ๆ ได้
- ลำต้นของนนทรีจะแตกออกเป็นทรงพุ่มใหญ่ทำให้บังแดดและเป็นร่มเงาได้ด้วย
- เนื้อไม้ของนนทรีสามารถนำไปแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือใช้ในงานก่อสร้างบ้านได้อย่างมั่นคง
- เปลือกลำต้นสามารถนำไปต้มย้อมผ้าได้ เพื่อให้ผ้านั้นมีสีส้มอมชมพูหรือน้ำตาลอมชมพู
- ในส่วนยอดและฝักอ่อนสามารถใช้เป็นอาหารประเภทผักเหนาะได้ ซึ่งจะให้รสชาติฝาดมัน
- นนทรีคือพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ชาวโอรังอัซลีในรัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย ใช้ส่วนเปลือกมาบดเป็นผงและใช้รักษาโรคสะเก็ดเงิน
- เปลือกและแก่นลำต้นของนนทรีนั้นจะมีรสฝาด ซึ่งสามารถนำไปต้มน้ำดื่มช่วยละลายเสมหะ ขับลม รักษาโรคบิด แก้อาการท้องร่วง และท้องเสียได้
- เปลือกและแก่นลำต้นสามารถนำไปบดและใช้ทาภายนอกได้ ซึ่งจะมีสรรพคุณช่วยในการสมานแผลและรักษาแผลให้หายเร็วขึ้นด้วย
ราคาต่อต้นโดยประมาณ
– กล้าต้นนนทรีสูง 80-90 เซนติเมตร มีราคาอยู่ที่ 30-50 บาท
– ต้นนนทรีที่มีความสูง 8-15 เมตร มีราคาอยู่ที่ 50 บาทขึ้นไป
– ต้นนนทรี 3-6 นิ้ว มีราคาอยู่ที่ 1,500 บาท
– ต้นนนทรีขนาดลำต้น 11″ มีความสูงประมาณ 6 เมตร มีราคาอยู่ที่ 6,000 บาท