มะม่วงหิมพานต์ ไม้มงคลที่เป็นตัวแทนของทองคำ

ชื่อภาษาอังกฤษ

Cashew Nut

ชื่อวิทยาศาสตร์

Anacardium occidentale L.

ความหมาย

ต้นมะม่วงหิมพานต์ ต้นไม้ชนิดหนึ่ง ไม่สูงมากนัก

ความเชื่อ

มะม่วงหิมพานต์เป็นสิ่งที่สื่อถึงความมั่งคั่ง ทองคำ และความรุ่งเรือง ในงานมงคลต่างๆ

ด้วยรสชาติที่หวานมันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นอาหารทานเล่นยอดนิยมตลอดกาล ไม่ใช่แค่ความอร่อยเท่านั้น คุณประโยชน์ในด้านสารอาหารก็ครบเครื่อง เหมาะกับการบำรุงร่างกายของคนทุกเพศทุกวัย เราสามารถนำวัตถุดิบชนิดนี้มาปรุงเมนูได้ทั้งคาวหวาน การปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ไว้ในบ้านจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาของมันสูงขึ้นทุกวัน และหลังจากออกผลรอบแรกแล้วก็ยังเก็บเกี่ยวได้อีกหลายสิบปี ยิ่งกว่านี้มะม่วงหิมพานต์ยังเป็นไม้มงคลที่เหมาะกับการปรับฮวงจุ้ยที่ดินด้วย

ประวัติมะม่วงหิมพานต์

ข้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาอังกฤษ : Cashew Nut

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anacardium occidentale L.

ความเชื่อเกี่ยวกับต้นไม้มงคล

ตามความเชื่อของคนจีน มะม่วงหิมพานต์เป็นสิ่งที่สื่อถึงความมั่งคั่ง ทองคำ และความรุ่งเรือง ในงานมงคลต่างๆ จึงต้องมีเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นส่วนหนึ่งในเมนูอาหารด้วย ในช่วงขึ้นปีใหม่ของจีนหรือวันไหว้บรรพบุรุษ ก็จะขาดวัตถุดิบตัวนี้ไปไม่ได้เลย เพราะเชื่อว่าหากได้ทานในช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ จะทำให้ชีวิตต่อจากนั้นมีแต่ความมั่งคั่ง ไม่ขาดแคลนเงินทอง ทำกิจการใดก็รุ่งเรืองยาวนาน การปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ไว้ในบ้าน จึงเปรียบเสมือนการมีทองคำอยู่บนที่ดิน ช่วยดึงดูดความร่ำรวยมาสู่คนในครอบครัว ทรัพย์สินที่เคยมีอยู่เดิมก็จะเพิ่มพูนยิ่งขึ้นเมื่อนำไปลงทุนต่อยอด ใครได้อาศัยผืนดินนี้ทำกินก็จะรุ่งเรือง นอกจากนี้บางพื้นที่ยังมีความเชื่อว่า ต้นมะม่วงหิมพานต์เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่จะเลือกเติบโตในพื้นที่มงคลเท่านั้น เมื่อนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้าน แล้วต้นของมันมีความสมบูรณ์ เติบโตได้เร็ว และออกผลดกอย่างสม่ำเสมอ ก็หมายความว่าที่ดินนี้เป็นมงคล อยู่แล้วร่มเย็นทั้งกายและใจ

ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูกภายในบริเวณบ้าน

ต้นมะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีพุ่มใบกว้าง จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่ค่อนข้างมากในการปลูก อย่างน้อยก็ต้องเว้นห่างจากตัวบ้านประมาณ 4 เมตร เพื่อให้ต้นไม้เติบโตได้เต็มที่ และไม่สร้างความเสียหายให้กับตัวบ้าน นอกจากการเว้นระยะแล้ว เรื่องของปริมาณแสงก็สำคัญ ต้องปลูกตำแหน่งที่จะรับแดดได้ดี ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งถูกบดบัง หลายบ้านจึงนิยมปลูกไว้ใกล้แนวรั้ว และเยื้องไปทางด้านหลังบ้านมากกว่าบริเวณอื่น

มะม่วงหิมพานต์ ภาษาอังกฤษ

ส่วนประกอบของต้นมะม่วงหิมพานต์

ลักษณะของลำต้น

ส่วนมากต้นมะม่วงหิมพานต์จะไม่สูงมากนัก แต่แผ่ออกเป็นทรงร่ม พุ่มใบหนา เปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลอมเทา ผิวขรุขระ และกิ่งก้านก็ค่อนข้างมาก

ใบ

รูปทรงของใบดูคล้ายกับหยดน้ำ เนื้อใบหนาและมีค่อนข้างนุ่ม มีสีเขียวอ่อนและมีกลิ่นหอม

ดอก

กลีบดอกมีสีขาวหรือเหลืองนวล ออกดอกรวมกันเป็นช่อเล็กๆ เมื่อดอกเริ่มแก่จะกลายเป็นสีชมพู

ผล

ผลมีลักษณะคล้ายกับผลชมพู่ แล้วมีเมล็ดติดอยู่ที่ด้านล่าง เนื้อของผลมีความฉ่ำน้ำ ตอนเป็นผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อแก่จึงเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง

เมล็ด

ขนาดความยาวอยู่ที่ประมาณ 1-3 เซนติเมตรแล้วแต่สายพันธุ์ รูปร่างคล้ายไต เปลือกนอกสีน้ำตาลเข้ม เนื้อในสีเหลืองนวล

สายพันธุ์ยอดนิยม

ปัจจุบันต้นมะม่วงหิมพานต์มีสายพันธุ์มากกว่า 400 สายพันธุ์ ซึ่งโดยภาพรวมของลักษณะลำต้นและผลผลิตไม่ต่างกันมากนัก จะต่างที่ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสีของผลเท่านั้น พันธุ์ที่นิยมกันมากก็จะมี สายพันธุ์สีแดง สายพันธุ์สีเหลือง และสายพันธุ์สีครั่ง เพราะทั้ง 3 สายพันธุ์นี้ดูแลง่าย ให้ผลผลิตเป็นเมล็ดขนาดใหญ่ สมบูรณ์ เปอร์เซ็นต์ที่เมล็ดจะไม่ฝ่อก็มีมาก

วิธีการปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ให้เจริญงอกงาม

ส่วนมากนิยมปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ด้วยเมล็ดมากกว่า โดยการนำเมล็ดที่สมบูรณ์ดีมาแช่น้ำ เมื่อเปลือกนิ่มได้ที่แล้วก็สามารถหยอดลงหลุมที่เตรียมไว้ได้เลย อาจจะเพาะในถุงเพาะขนาดเล็กก่อนก็ได้ เพื่อให้ดูแลได้ง่าย เมื่อต้นกล้าเริ่มสูงสักประมาณ 1 ฟุตแล้ว ค่อยนำลงดินต่อไป สิ่งที่ต้องทำหลังจากนั้น นอกเหนือไปจากการรดน้ำใส่ปุ๋ย ก็คือการหมั่นตัดแต่งกิ่งที่เล็กเกินไปและกิ่งที่ไม่โดนแดดทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดโรคตามมาในภายหลัง

วิธีการดูแลรักษา

แสง

ควรปลูกในพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน

น้ำ

ต้องการน้ำปานกลาง หากไม่ใช่ฤดูฝน ก็รดประมาณ 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์ หรือน้อยกว่านั้น

ดิน

ดินประเภทเดียวที่ใช้เพาะปลูกไม่ได้ก็คือดินเหนียว นอกนั้นสามารถใช้ได้ทั้งหมด

ปุ๋ย

ประเภทของปุ๋ยที่ดีต่อมะม่วงหิมพานต์มากที่สุดคือปุ๋ยมูลสัตว์ โดยใส่ปีละ 2 ครั้งตอนต้นฤดูฝนกับต้นฤดูหนาว

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ สรรพคุณ

คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นมะม่วงหิมพานต์

ใบ

นำมาบดละเอียดเพื่อบรรเทาอาการอักเสบของแผลได้ หรือใช้ทานบรรเทาอาการท้องร่วงก็ได้

ราก

บรรเทาอาการท้องร่วง

ผล

น้ำจากผลช่วยในลดไข้ กระตุ้นการทำงานของสมอง เสริมสร้างความจำ และบรรเทาอาการปวดข้อ

เมล็ด

เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด ช่วยบำรุงร่างกายและเสริมสร้างการเจริญเติบโตได้ สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว การทานเมล็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้หลายอย่าง เช่น ลดความดันโลหิต ลดความเหนื่อยล้า ลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น

มะม่วงหิมพานต์ ราคา

ราคาต่อต้นโดยประมาณ

ราคาของต้นมะม่วงหิมพานต์ขึ้นอยู่กับอายุและความสมบูรณ์ของอายุต้นกล้า โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 50 บาท

แหล่งอ้างอิง

: http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_24_3.htm

อยากให้มีเนื้อหาเรื่องอะไรเพิ่มเติม หรือมีความคิดเห็นอย่างไร เชิญคอมเม้นท์ไว้ได้เลยครับ