ด้วยรสชาติที่หวานมันเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นอาหารทานเล่นยอดนิยมตลอดกาล ไม่ใช่แค่ความอร่อยเท่านั้น คุณประโยชน์ในด้านสารอาหารก็ครบเครื่อง เหมาะกับการบำรุงร่างกายของคนทุกเพศทุกวัย เราสามารถนำวัตถุดิบชนิดนี้มาปรุงเมนูได้ทั้งคาวหวาน การปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ไว้ในบ้านจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะราคาของมันสูงขึ้นทุกวัน และหลังจากออกผลรอบแรกแล้วก็ยังเก็บเกี่ยวได้อีกหลายสิบปี ยิ่งกว่านี้มะม่วงหิมพานต์ยังเป็นไม้มงคลที่เหมาะกับการปรับฮวงจุ้ยที่ดินด้วย
![ประวัติมะม่วงหิมพานต์](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/03/1-110.jpg)
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาอังกฤษ : Cashew Nut
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Anacardium occidentale L.
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นไม้มงคล
ตามความเชื่อของคนจีน มะม่วงหิมพานต์เป็นสิ่งที่สื่อถึงความมั่งคั่ง ทองคำ และความรุ่งเรือง ในงานมงคลต่างๆ จึงต้องมีเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นส่วนหนึ่งในเมนูอาหารด้วย ในช่วงขึ้นปีใหม่ของจีนหรือวันไหว้บรรพบุรุษ ก็จะขาดวัตถุดิบตัวนี้ไปไม่ได้เลย เพราะเชื่อว่าหากได้ทานในช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ จะทำให้ชีวิตต่อจากนั้นมีแต่ความมั่งคั่ง ไม่ขาดแคลนเงินทอง ทำกิจการใดก็รุ่งเรืองยาวนาน การปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ไว้ในบ้าน จึงเปรียบเสมือนการมีทองคำอยู่บนที่ดิน ช่วยดึงดูดความร่ำรวยมาสู่คนในครอบครัว ทรัพย์สินที่เคยมีอยู่เดิมก็จะเพิ่มพูนยิ่งขึ้นเมื่อนำไปลงทุนต่อยอด ใครได้อาศัยผืนดินนี้ทำกินก็จะรุ่งเรือง นอกจากนี้บางพื้นที่ยังมีความเชื่อว่า ต้นมะม่วงหิมพานต์เป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่จะเลือกเติบโตในพื้นที่มงคลเท่านั้น เมื่อนำมาปลูกไว้ในบริเวณบ้าน แล้วต้นของมันมีความสมบูรณ์ เติบโตได้เร็ว และออกผลดกอย่างสม่ำเสมอ ก็หมายความว่าที่ดินนี้เป็นมงคล อยู่แล้วร่มเย็นทั้งกายและใจ
ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูกภายในบริเวณบ้าน
ต้นมะม่วงหิมพานต์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีพุ่มใบกว้าง จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่ค่อนข้างมากในการปลูก อย่างน้อยก็ต้องเว้นห่างจากตัวบ้านประมาณ 4 เมตร เพื่อให้ต้นไม้เติบโตได้เต็มที่ และไม่สร้างความเสียหายให้กับตัวบ้าน นอกจากการเว้นระยะแล้ว เรื่องของปริมาณแสงก็สำคัญ ต้องปลูกตำแหน่งที่จะรับแดดได้ดี ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งถูกบดบัง หลายบ้านจึงนิยมปลูกไว้ใกล้แนวรั้ว และเยื้องไปทางด้านหลังบ้านมากกว่าบริเวณอื่น
![มะม่วงหิมพานต์ ภาษาอังกฤษ](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/03/2-86-1024x768.jpg)
ส่วนประกอบของต้นมะม่วงหิมพานต์
ลักษณะของลำต้น
ส่วนมากต้นมะม่วงหิมพานต์จะไม่สูงมากนัก แต่แผ่ออกเป็นทรงร่ม พุ่มใบหนา เปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลอมเทา ผิวขรุขระ และกิ่งก้านก็ค่อนข้างมาก
ใบ
รูปทรงของใบดูคล้ายกับหยดน้ำ เนื้อใบหนาและมีค่อนข้างนุ่ม มีสีเขียวอ่อนและมีกลิ่นหอม
ดอก
กลีบดอกมีสีขาวหรือเหลืองนวล ออกดอกรวมกันเป็นช่อเล็กๆ เมื่อดอกเริ่มแก่จะกลายเป็นสีชมพู
ผล
ผลมีลักษณะคล้ายกับผลชมพู่ แล้วมีเมล็ดติดอยู่ที่ด้านล่าง เนื้อของผลมีความฉ่ำน้ำ ตอนเป็นผลอ่อนจะมีสีเขียว เมื่อแก่จึงเปลี่ยนเป็นสีส้มแดง
เมล็ด
ขนาดความยาวอยู่ที่ประมาณ 1-3 เซนติเมตรแล้วแต่สายพันธุ์ รูปร่างคล้ายไต เปลือกนอกสีน้ำตาลเข้ม เนื้อในสีเหลืองนวล
สายพันธุ์ยอดนิยม
ปัจจุบันต้นมะม่วงหิมพานต์มีสายพันธุ์มากกว่า 400 สายพันธุ์ ซึ่งโดยภาพรวมของลักษณะลำต้นและผลผลิตไม่ต่างกันมากนัก จะต่างที่ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสีของผลเท่านั้น พันธุ์ที่นิยมกันมากก็จะมี สายพันธุ์สีแดง สายพันธุ์สีเหลือง และสายพันธุ์สีครั่ง เพราะทั้ง 3 สายพันธุ์นี้ดูแลง่าย ให้ผลผลิตเป็นเมล็ดขนาดใหญ่ สมบูรณ์ เปอร์เซ็นต์ที่เมล็ดจะไม่ฝ่อก็มีมาก
วิธีการปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ให้เจริญงอกงาม
ส่วนมากนิยมปลูกต้นมะม่วงหิมพานต์ด้วยเมล็ดมากกว่า โดยการนำเมล็ดที่สมบูรณ์ดีมาแช่น้ำ เมื่อเปลือกนิ่มได้ที่แล้วก็สามารถหยอดลงหลุมที่เตรียมไว้ได้เลย อาจจะเพาะในถุงเพาะขนาดเล็กก่อนก็ได้ เพื่อให้ดูแลได้ง่าย เมื่อต้นกล้าเริ่มสูงสักประมาณ 1 ฟุตแล้ว ค่อยนำลงดินต่อไป สิ่งที่ต้องทำหลังจากนั้น นอกเหนือไปจากการรดน้ำใส่ปุ๋ย ก็คือการหมั่นตัดแต่งกิ่งที่เล็กเกินไปและกิ่งที่ไม่โดนแดดทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดโรคตามมาในภายหลัง
วิธีการดูแลรักษา
แสง
ควรปลูกในพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน
น้ำ
ต้องการน้ำปานกลาง หากไม่ใช่ฤดูฝน ก็รดประมาณ 3-4 ครั้งต่ออาทิตย์ หรือน้อยกว่านั้น
ดิน
ดินประเภทเดียวที่ใช้เพาะปลูกไม่ได้ก็คือดินเหนียว นอกนั้นสามารถใช้ได้ทั้งหมด
ปุ๋ย
ประเภทของปุ๋ยที่ดีต่อมะม่วงหิมพานต์มากที่สุดคือปุ๋ยมูลสัตว์ โดยใส่ปีละ 2 ครั้งตอนต้นฤดูฝนกับต้นฤดูหนาว
![เม็ดมะม่วงหิมพานต์ สรรพคุณ](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/03/2-4.jpeg)
คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นมะม่วงหิมพานต์
ใบ
นำมาบดละเอียดเพื่อบรรเทาอาการอักเสบของแผลได้ หรือใช้ทานบรรเทาอาการท้องร่วงก็ได้
ราก
บรรเทาอาการท้องร่วง
ผล
น้ำจากผลช่วยในลดไข้ กระตุ้นการทำงานของสมอง เสริมสร้างความจำ และบรรเทาอาการปวดข้อ
เมล็ด
เมล็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์หลายชนิด ช่วยบำรุงร่างกายและเสริมสร้างการเจริญเติบโตได้ สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว การทานเมล็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นประจำในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้หลายอย่าง เช่น ลดความดันโลหิต ลดความเหนื่อยล้า ลดระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น
![มะม่วงหิมพานต์ ราคา](https://kaset.today/wp-content/uploads/2021/03/4-27.jpg)
ราคาต่อต้นโดยประมาณ
ราคาของต้นมะม่วงหิมพานต์ขึ้นอยู่กับอายุและความสมบูรณ์ของอายุต้นกล้า โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 50 บาท