มะยม (Star Gooseberry) เป็นพืชที่ให้ผลรสเปรี้ยวจี๊ดซึ่งคนไทยรู้จักกันดีและนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารหรือนำมาทานเป็นผลไม้เรียกน้ำย่อยมายาวนาน มะยมถือเป็นต้นไม้ที่หลายบ้านปลูกกันแพร่หลายเพราะเป็นพืชที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว ดูแลง่าย ๆ ให้ผลที่สามารถนำไปใช้ทำอาหารหรือนำมาใช้เป็นยาได้ นอกจากนี้ยังแฝงความหมายมงคลตามความเชื่อของคนไทยที่น้อยคนจะรู้อีกด้วย เพราะฉะนั้นใครที่มีต้นมะยมอยู่ที่บ้านหรือกำลังคิดว่าอยากจะลองปลูกไว้ เราก็ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับต้นมะยมไว้ให้ทุกคนได้ไปศึกษากัน
Credit image: dhcrop.bsmrau.net
ข้อมูลทั่วไปของต้นมะยม
ชื่อทั่วไป: มะยม
ชื่อท้องถิ่น: หมากยม (ภาคอีสาน), ยม (ภาคใต้)
ชื่อภาษาอังกฤษ: Star Gooseberry
ชื่อวิทยาศาสตร์: Phyllanthus acidus
ตระกูลพืช: (PHYLLANTHACEAE) จัดอยู่ในวงศ์มะขามป้อม
ถิ่นกำเนิดของต้นมะยม มาจากไหน มีที่มาอย่างไร
ต้นมะยมถือเป็นพืชเขตร้อนที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่บริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างบ้านเรานี่เอง สามารถพบได้ทั้งในประเทศไทย พม่า มาเลเซีย ลาว อินโดนีเซีย และได้มีการแพร่พันธุ์กระจายไปยังประเทศอินเดีย แถบอเมริกากลาง อเมริกาใต้และฮาวาย ในประเทศไทยต้นมะยมเรียกได้ว่าเป็นพืชท้องถิ่นเพราะสามารถพบได้ทั่วไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ สามารถปลูกร่วมกับต้นมะขามหรือต้นพุทราได้
คติความเชื่อของคนไทยกับต้นมะยม
ต้องบอกก่อนว่าความเชื่อและความนิยมการปลูกต้นมะยมให้อยู่ในบริเวณของบ้านนั้นมีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งคนโบราณนั้นมีความเชื่อว่า หากบ้านไหนปลูกต้นมะยมไว้ที่บ้าน จะทำให้คนที่อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังนั้น ได้รับความนิยมชมชอบ มีชื่อเสียงเลื่องลือในทางที่ดี ใครไปใครมาต่างก็รักใคร่ ไม่มีใครมาคิดร้ายหรือหมายจะเป็นศัตรูด้วยนั้นเอง ไม่เพียงเท่านี้ คนโบราณยังมีความเชื่อว่าต้นมะยมนั้นสามารถช่วยป้องกันและขจัดพวกภูตผี ปีศาจที่หมายจะเข้ามาปองร้ายคนที่อาศัยอยู่ในบ้านอีกด้วย
เกร็ดความรู้
ทางเว็บไซต์พิพิธภัณฑ์เรือนล้านนา มช. ได้กล่าวถึง มะยม หรือในภาษาเหนือคือ “บ่ายม” ซึ่งเป็นไม้ที่ชาวล้านนานิยมปลูกไว้ด้านทิศตะวันออกหรือทิศเหนือของบ้านเรือน ด้วยความเชื่อว่ารากของมะยมหรือกาฝากมะยมหากนำไปแกะเป็นรูป “อิ่น” คือเครื่องรางรูปชายหญิงกอดกัน เมื่อทำพิธีแล้วแช่น้ำมันจันทน์ก็เหมาะไปใช้ในทางเมตตามหานิยม ก้านและใบมะยมใช้ประพรมนิมนต์ขับไล่ภูติผีปีศาจ เพราะถือเป็น “ไม้ยมทัณฑ์” ซึ่งเป้นอาวุธของพญายมราชสามารถกำราบผีได้ อีกทั้งยังเชื่ออีกว่า ถ้าเอาก้านมะยมตีเด็กที่ดื้อไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งสอนจะทำให้เด็กนั้น “ยม” คืออ่อนโยนสอนง่ายขึ้น
บริเวณไหนของบ้าน ที่เหมาะกับการปลูกต้นมะยม
ตามความเชื่อที่มาเมื่อนานแสนนาน การปลูกต้นมะยมนั้นควรปลูกที่ทิศตะวันตกของบ้านหลังนั้นๆ เนื่องจากจะช่วยเสริมดวงให้กับผู้ที่อยู่อาศัย และยังช่วยให้แคล้วคลาดจากเรื่องไม่ดีต่างๆ อีกทั้งการปลูกต้นมะยมทางทิศตะวันตกนั้นยังสามารถช่วยป้องกันพวกผี ปีศาจไม่ให้เข้ามาในบ้านได้อีกด้วย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นมะยม
ลักษณะลำต้นของต้นมะยม
มะยมเป็นไม้ยืนต้น ที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง ต้นมะยมสามารถสูงได้ตั้งแต่ 3-10 เมตร ลักษณะของลำต้นนั้นจะตั้งตรง เปลือกที่หุ้มลำต้นจะมีผิวขรุขระ มีสีเทาปนน้ำตาล มีการแตกกิ่งที่ปลายยอด ตัวกิ่งของต้นมะยมนั้นจะมีความเปราะและแตกง่าย
ลักษณะใบของต้นมะยม
มะยมนั้นจะมีใบประกอบ มีใบย่อยออกเรียงกันแบบสลับกันเป็นสองแถว ซึ่งแต่ละก้านของมะยมนั้นจะมีใบย่อยประมาณ 20-30 คู่ รูปร่างของใบมะยมนั้น จะเป็นรูปขอบขยายกลม หรือค่อนข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ปลายใบมะยมจะแหลมและฐานของใบจะกลมหรือมน ขอบใบเรียบ ขนาดของใบมะยมนั้นโดยทั่วไปจะกว้างอยู่ที่ประมาณ 1.5-3.5 เซนติเมตร ยาว 2.5-7.5 เซนติเมตร เมื่อใบมะยอมแก่แล้วจะร่วงหล่นที่พื้น แล้วแตกใบใหม่ยอดใหม่ออกมาเพื่อทดแทนเรื่อยๆ
ลักษณะของดอกมะยม
ดอกมะยมนั้นจะออกดอกเป็นช่อ โดยจะออกตามกิ่งของต้น ดอกย่อยมีสีเหลืองอมน้ำตาล ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียนั้นจะแยกกัน ดอกตัวผู้เกิดที่ปลายช่อไม่มีกลีบดอก กลีบเลี้ยงมีเพียง 6 กลีบซึ่งมีลักษณะแยกออกจากกัน ส่วนดอกตัวเมียนั้นมี 6 กลีบเช่นกัน
ลักษณะผลของมะยม
ผลของมะยมนั้นมีรูปร่างกลมแบน มี 3 พู ตัวผลอ่อนนั้นจะมีสีเขียวและเมื่อแก่จะเริ่มค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีขาวแกมเหลือง เมล็ดของผลจะมีรูปร่างกลม เห็นเป็นร่องสีน้ำตาลอ่อนชัดเจน เนื้อของผลมะยมจะมีความฉ่ำน้ำ ซึ่งผลของมะยมนั้นจะมีทั้งพันธุ์ที่ให้รสชาติเปรี้ยวและพันธุ์ที่ให้รสชาติหวาน
วิธีการเพาะพันธุ์ต้นมะยม
ต้นมะยมสามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการตอนและการเพาะเมล็ด ซึ่งจะมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังต่อไปนี้
- การตอน: การตอนต้นมะยมเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการเพาะพันธุ์ เพราะสามารถทำได้ง่าย รากงอกได้ไว แม้จะเลือกต้นแก่ที่มีอายุเป็นสิบ ๆ ปีก็ตาม สามารถออกราก ออกดอก และติดผลได้ หลังจากย้ายกิ่งตอนลงแปลงปลูกแล้ว
- การเพาะเมล็ด: เป็นอีกหนึ่งวิธีขยายพันธุ์ต้นมะยมที่ทำได้ง่าย แต่ใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะให้ผลผลิตออกมา
เคล็ดลับการดูแลต้นมะยม
ต้นมะยมถือเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย เพียงแค่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมก็สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วและให้ผลผลิตได้ไว มาดูกันดีกว่า ว่าสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับต้นมะยม เป็นอย่างไรบ้าง
แสงแดด
ต้นมะยมเป็นต้นไม้ที่ชื่นชอบแสงแดด จึงควรปลูกในบริเวณที่แสงแดดส่องถึง หรือสามารถปลูกได้ในบริเวณที่แสงแดดส่องถึงแบบรำไร
น้ำ
ต้นมะยมชอบความชื้นกลาง ๆ จึงแนะนำให้รดน้ำในปริมาณที่ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไป อีกทั้งยังควรระมัดระวังไม่ให้มีน้ำท่วมขัง เพราะอาจทำให้รากเน่าได้ ความถี่ในการรดน้ำที่แนะนำคือประมาณ 1-2 วันต่อครั้ง
ดิน
ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกต้นมะยมคือดินร่วนซุยที่สามารถระบายน้ำได้เป็นอย่างดี หากปลูกในดินที่แน่นหรือไม่สามารถระบายน้ำได้ อาจทำให้รากและโคนต้นเน่าได้
ปุ๋ย
หากต้องการให้ต้นมะยมออกผลดกดี ให้ใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 เพื่อเพิ่มการสะสมคาร์โบไฮเดรตและลดระดับไนโตรเจนในลำต้น ปริมาณในการใส่ แนะนำให้ใส่ประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในดิน จากนั้นกลบและรดน้ำเพื่อให้ปุ๋ยละลาย
สรรพคุณและประโยชน์ของมะยม
เชื่อว่าหลายคนอาจรู้จักมะยมในฐานะของผลไม้รสเปรี้ยวมากกว่าการนำไปทำประโยชน์อื่น ๆ แต่จริง ๆ แล้วมะยมที่ดูเหมือนจะมีทุกบ้านต้องบอกว่ามีสรรพคุณทางสมุนไพรและมีประโยชน์ในแง่ต่าง ๆ อีกมากมายที่หลายคนยังไม่รู้ ดังนั้น เดี๋ยวเราจะพาไปดูกันว่ามะยมสามารถเอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
สรรพคุณ
ใบ: ช่วยแก้อาการไข้ตัวร้อนหรือไข้หัวต่าง ๆ ช่วยดับพิษร้อนถอนพิษไข้ สามารถนำมาต้มรวมกับใบหมากผู้หมากเมียหรือใบมะเฟือง ใช้อาบแก้อาการผดผื่นคัน หรือพิษไข้หัวและหัด ฝีดาษ หรือสุกใสดำแดง ให้รสจืดมัน
เปลือกต้น: ช่วยแก้อาการไข้เพื่อโลหิต หรือนำมาต้มอาบแก้เม็ดผดผื่นคันขึ้น ให้รสจืด
ราก: ช่วยแก้โรคผิวหนังเม็ดผดผื่นคัน หรือประดงน้ำเหลืองเสีย ให้รสจืด
ผล: ช่วยแก้อาการไอ หรือกัดเสมหะ และบำรุงโลหิต ตลอดจนช่วยระบายท้อง ให้รสเปรี้ยวสุขุมนอกจากนี้ ยังมีความเชื่อว่าหากนำต้นมะยมมาปลูกไว้ในบ้านทางทิศตะวันตกจะช่วยปกป้องและป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งเลวร้ายขึ้น และจัดเป็นไม้มงคลนามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ราคาของต้นมะยมตามท้องตลาด
โดยราคาทั่วไปของต้นมะยมนั้นจะเริ่มต้นที่หลักสิบ ซึ่งจะเป็นต้นมะยมที่ยังมีขนาดเล็กอยู่ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 69-100 บาท หากต้องการเป็นต้นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ราคาจะสูงขึ้นไปตามขนาดของต้น ซึ่งบางครั้งราคาขายจะอยู่ถึงหลักพันกันเลยทีเดียว
ที่มา