มะลิ ดอกไม้ไทย ที่ปลูกง่าย มากมายด้วยความหมายและคุณค่า

ชื่อภาษาอังกฤษ

Jasmine

ชื่อวิทยาศาสตร์

Jasminum

ความหมาย

มะลิเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก เลี้ยงดูง่าย ให้ดอกที่มีกลิ่นหอม

ความเชื่อ

คนไทยถือว่ามะลิเป็นดอกไม้มงคล นิยมเอาดอกมะลิมาร้อยเป็นมาลัยเพื่อบูชาพระ ด้วยความที่มีดอกสีขาวบริสุทธิ์

มะลิ ไม้ดอกที่มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่หลายคนมักเอ่ยถึงเป็นอันดับต้นๆ ในบรรดาไม้ดอกกลิ่นหอม “กลิ่นมะลิ” เป็นกลิ่นที่มนุษย์รู้จักเป็นอย่างดี และแทบจะไม่มีใครที่ไม่เคยสูดดมกลิ่นหอมของดอกมะลิ โดยเฉพาะในสังคมไทย มะลิถือเป็นดอกไม้ที่มีความผูกพันกับคนไทยมาตั้งแต่โบราณ โดยผู้คนมักนิยมปลูกไว้ในบ้านและนำดอกมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างมากมาย เช่น นำดอกมาร้อยเป็นพวงมาลัยสำหรับไหว้พระ และงานพิธีต่าง ๆ นำดอกมาลอยน้ำดื่ม เพราะมีกลิ่นหอมสดชื่นจับใจ เหมาะกับอากาศที่ร้อนอบอ้าวของเมืองไทย รวมถึงการก็นำมาใช้ปรุงกลิ่นหอมของขนมไทยนานาชนิดอีกด้วย

มะลิมีกี่ชนิด

ความเชื่อเกี่ยวกับดอกมะลิในสังคมไทย

คนไทยถือว่ามะลิเป็นดอกไม้มงคล จึงนิยมเอาดอกมะลิมาร้อยเป็นมาลัยเพื่อบูชาพระ ด้วยความที่มีดอกสีขาวบริสุทธิ์  เปรียบเสมือนความรักอันบริสุทธิ์ที่ปราศจากข้อแม้และเงื่อนไข  มะลิมีกลิ่นหอมได้ไกลและหอมได้ยาวนาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความห่วงใยของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย นอกจากนี้ กลิ่นของดอกมะลิ ยังทำให้จิตใจสงบ เป็นสมาธิ ทำให้เรารู้สึกสดชื่นผ่อนคลายได้ในระดับลึก มีผลโดยตรงต่อสมอง ช่วยให้สมองผ่อนคลายและคลายเครียดได้เป็นอย่างดี ทำให้สมองโล่งและรับเอาความรู้สึกดีๆและพลังบวก มาสู่ร่างกายได้โดยง่าย

ตำแหน่งที่ควรปลูก

มะลิเป็นพันธุ์ไม้พุ่มขนาดเล็ก เลี้ยงดูง่าย มีความสูงโดยเฉลี่ยอยู่ที่ราว 1-2 เมตร ลำต้น เล็กกลม แตกกิ่งก้านสาขารอบลำต้น เป็นดอกไม้กลิ่นหอมที่สามารถปลูกในกระถางก็ได้ หรือจะปลูกลงดินก็ดี สิ่งสำคัญที่สุดคือแสงแดดจัด จึงควรปลูกไว้ในที่โล่งแจ้ง โดยเฉพาะบริเวณหน้าบ้าน เพื่อยามที่มีแขกมาเยือนได้สัมผัสกับกลิ่นหอมอันสดชื่น เสมือนเป็นการต้อนรับอย่างสมเกียรติจากเจ้าของบ้านนั่นเอง 

มะลิ ประโยชน์

ส่วนประกอบของต้นมะลิโดยทั่วไป

มะลิเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ปลูกง่าย อายุให้ดอกมากกว่า 5 ปี รายได้จากผลผลิตดี โดยเมื่อโตเต็มที่จะมีความสูงราว 1-2 เมตร 

ลักษณะของลำต้น

จะเล็กกลม แตกกิ่งก้านสาขารอบลำต้น ลำต้นสีขาวนวล 

ใบ

เป็นใบเดี่ยว แตกใบเรียงกันเป็นคู่ตามกิ่งก้าน ใบมนป้อม โคนใบสอบเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบเป็นมัน สีเขียวเข้ม ใบกว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 3-5 เซนติเมตร 

ดอก

ออกเป็นช่อตามส่วนยอดหรือง่ามใบ ขนาดเล็กสีขาวนวล มี 6-8 กลีบ เรียงกันเป็นวงกลมหรือซ้อนกันเป็นชั้นแล้วแต่พันธุ์ ดอกบานเต็มที่ 2-3 เซนติเมตร 

ผล

เป็นรูปกลมรีเล็ก สุกมีสีดำ ภายในมีเมล็ด

สายพันธุ์มะลิที่นิยมปลูกในประเทศไทย

มะลิเป็นพันธุ์ไม้ที่พบได้ทั่วไปในแถบเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพันธุ์มะลิ ที่นิยมปลูกอย่างแพร่หลายในประเทศไทยได้แก่ 

มะลิลา

เป็นไม้เลื้อย ซึ่งจะออกดอกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมี 3 ดอก ดอกกลางบานก่อน กลีบดอกชั้นเดียว ปลายกลีบมน ดอกสีขาว มะลิชนิดนี้โดยทั่วไปปลูกไว้สำหรับเด็ดดอกขาย

มะลิลี

ลักษณะโดยรวมคล้ายคลึงกับมะลิลา แต่มีใบที่ใหญ่กว่า มีดอกซ้อน 3-4 ชั้น ปลายกลีบมน

มะลิถอด หรือ มะลิป่า

มีลักษณะใบเป็นคลื่น ดอกเป็นช่อมี 3 ดอก ดอกซ้อนมากชั้นกว่า คือ 3-6 ชั้น ดอกสีขาว มีกลิ่นหอมรุนแรงมาก 

มะลิซ้อน

มีลักษณะใบที่แคบกว่า มีกลีบดอกที่สลับซับซ้อนนับได้กว่า 5 ชั้น แต่ละชั้นมีกลีบดอก 10 กลีบ ขึ้นไป ขนาดดอก 3-4 ซม. ดอกสีขาว กลิ่นหอมมาก

มะลิพิกุลหรือมะลิฉัตร

มีลักษณะดอกซ้อนกันเป็นชั้น ๆ รูปทรงคล้ายฉัตร และดอกมีขนาดเล็กพอ ๆ กับดอกพิกุล ขนาดดอก 1-1.4 ซม. ดอกสีขาว กลิ่นหอม

วิธีการปลูกและสถานที่ที่เหมาะสมในการปลูกต้นมะลิ

มะลิเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้น เล็กกลม แตกกิ่งก้านสาขารอบลำต้น สามารถปลูกในกระถางหรือจะปลูกลงดินก็ดีทั้งนั้น การปลูกโดยมากนิยมปลูกโดยการใข้กิ่งพันธุ์ปักชำจากแหล่งจำหน่ายที่เชื่อถือได้ กิ่งควรมีความสูง 30 เซนติเมตรขึ้นไป จะทำให้ปลูกง่าย เจริญเติบโตสมบูรณ์ไว และติดดอกดก การเตรียมการปลูก ให้ขุดหลุมปลูกกว้าง ยาว และลึก ด้านละ 30x30x30 เซนติเมตร และนำกิ่งพันธุ์มะลิไปล้างน้ำเอาวัสดุเพาะออกให้เห็นรากสีขาว วางให้รากต้นกล้าพันธุ์หรือกิ่งพันธุ์กระจายจะช่วยให้รากเดินและหาอาหารได้ดี เกลี่ยดินกลบ แล้วให้น้ำแต่พอชุ่ม ในช่วงแรกที่ปลูก ควรให้น้ำทุกวันในตอนเช้า หรือได้รับน้ำอย่างพอเพียง ที่สำคัญควรระวังไม่ให้น้ำขังแฉะ เพราะจะทำให้ต้นมะลิใบเหลือง ต้นแคระแกร็นและตาย เมื่อต้นมะลิเจริญเติบโตดี ได้ให้น้ำวันละครั้ง หรือ 2 วัน ต่อครั้ง หรือดูความชุ่มชื้นในดินก่อนให้น้ำ

วิธีการดูแลต้นมะลิให้ออกดอกอย่างสม่ำเสมอ

แสง

ต้องการแสงแดดจัดตลอดทั้งวัน 

น้ำ

ต้องการน้ำในปริมาณพอดี ควรให้น้ำวันละครั้ง หรือ 2 วัน ต่อครั้ง หรืองดให้น้ำในฤดูฝน หรือดูที่ความชุ่มชื้นในดินก่อนให้น้ำทุกครั้ง

ดิน

เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ที่มีอินทรียวัตถุสมบูรณ์

ปุ๋ย

หลังจากปลูกมะลิใหม่ได้ 10 วัน ควรใส่ปุ๋ยยูเรีย ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อต้น โดยหว่านให้กระจายรอบทรงพุ่ม หลังจากนั้นอีก 30 วัน จึงใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ ต่อต้น และควรใส่ปุ๋ยคอกแห้งหรือปุ๋ยหมัก 1/2 กิโลกรัม ต่อต้น ทุกๆ สองเดือน หว่านให้กระจายรอบทรงพุ่ม และทุกครั้งหลังการใส่ปุ๋ย ควรให้น้ำแต่พอชุ่ม อย่าให้แฉะต้นมะลิก็จะเจริญเติบโตได้ดี

มะลิซ้อน

ประโยชน์หรือสรรพคุณอื่นๆ ของมะลิ

นอกจากดอกมะลิจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งที่ส่งกลิ่นหอมแล้ว ประโยชน์ของดอกมะลิ ก็ยังมีอีกมากมาย ตัวอย่างเช่น ดอกมะลิ มีสรรพคุณเป็นสมุนไพรและยารักษาบางโรคได้หลายชนิด  และเราสามารถใช้ประโยชน์จากมะลิได้แทบทุกส่วนเลยก็ว่า กล่าวคือ รากของมะลิแก้ได้สารพัดโรคทั้งปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก เลือดออกตามไรฟัน รวมทั้งช่วยรักษาหลอดลมอักเสบ ส่วนใบใช้แก้ไข้ที่เกิดจากอาการเปลี่ยนแปลงได้ดีรวมทั้งรักษาอาการปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสีย หากนำใบมาตำแล้วละลายกับน้ำปูนใสแต้มแผลฟกช้ำ แผลเรื้อรัง โรคผิวหนังจะหายไวขึ้น ตลอดจนช่วยบำรุงสายตาและขับน้ำนมสตรีที่มีครรภ์ได้ด้วย

ส่วนของดอก ซึ่งใครๆ ต่างชื่นชอบเพราะดอกมะลินอกจากความสวยและความหอมแล้วยังแก้โรคบิด อาการปวดท้อง หากตำให้ละเอียดพอกที่ขมับ แก้อาการปวดหัวและปวดหูชั้นกลางได้ แถมยังช่วยรักษาแผลพุพอง แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย รวมทั้งเป็นยาบำรุงหัวใจได้อย่างดีเยี่ยมอีกขนานหนึ่งด้วย  และจากงานวิจัยสมัยใหม่พบว่า กลิ่นหอมเย็นของดอกมะลิยังทำให้เรารู้สึกสดชื่นผ่อนคลายได้ในระดับลึก มีผลโดยตรงต่อสมอง ช่วยให้สมองผ่อนคลายและคลายเครียดได้ จึงมีผู้นิยมนำเอากลิ่นของดอกมะลิมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย รวมถึงใช้เป็นกลิ่นในการทำขนมได้หลากหลายชนิด

มะลิ ราคา

ราคาจำหน่ายต่อต้นโดยประมาณ

ราคาจำหน่ายกิ่งมะลิปักชำความสูงไม่เกิน 30 ซม.ในถุงพลาสติก จะอยู่ที่ราวๆ ต้นละ 5-10 บาท ส่วนต้นมะลิปลูกลงกระถางที่ความสูงประมาณ 50-80 ซม. จะมีราคาจำหน่ายอยู่ที่กระถางละ 100-150 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทและสายพันธุ์

แหล่งอ้างอิง

: http://www.thaicrudedrug.com/main.php?action=viewpage&pid=106

อยากให้มีเนื้อหาเรื่องอะไรเพิ่มเติม หรือมีความคิดเห็นอย่างไร เชิญคอมเม้นท์ไว้ได้เลยครับ