สนเลื้อย (Creeping Juniper) เป็นไม้ในตระกูลสนแต่มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ยที่เลื้อยเอนไปทางใดทางหนึ่ง โดยทั่วไปจะสูงได้แค่ 50 – 90 เซนติเมตร จะไม่ตั้งตรงสูงเหมือนสนประเภทอื่น ๆ มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่นและเกาหลี สนเลื้อยถือเป็นไม้ประดับอีกชนิดที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ต้องการทำต้นบอนไซก็มักจะเลือกปลูกสนเลื้อยแล้วนำมาดัดหรือตัดแต่งพุ่มให้สวนงามตามต้องการ ข้อดีของต้นสนเลื้อยคือชอบอากาศเย็น ทนแล้งได้ดี หากปลูกในไทยใบจะไม่เปลี่ยนสี สนชนิดนี้คนมักจะนิยมนำไปดัดหรือตัดแต่งพุ่มเป็นบอนไซ เป็นพันธุ์ไม้ที่มีอายุหลายปี
ชื่อวิทยาศาสตร์: Juniperus procumbens (Siebold ex Endl.) Mig
ชื่อสามัญ: Creeping Juniper
วงศ์: CUPRESSACEAE
ลักษณะของต้นสนเลื้อย
สำหรับลักษณะเฉพาะของต้นสนเลื้อยทางเว็บไซต์ Thespruce ได้กล่าวถึงไว้คร่าว ๆ ดังต่อไปนี้
ลำต้น: ลำต้นทอดเลื้อยแผ่กิ่งก้านไปตามพื้นได้ไกลกว่า 1 เมตร
ใบ: รูปเข็ม ปลายใบเรียวแหลม สีเขียวอ่อน แผ่นใบโค้งนูน ใต้ใบเว้า มีแถบปากใบสีเขียวเทา2 แถบ อาจมีแบบใบเกล็ดด้วย มีหลายพันธุ์ เช่น พันธุ์แคระ (J. procumbens‘Nana’) มีกิ่งย่อยสั้น ใบออกเป็นกระจุกสั้นและแน่น สีเขียวเทา
ดอก: เป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่มีดอก
การขยายพันธุ์สนเลื้อย
สำหรับการขยายพันธุ์ต้นสนเลื้อยจะนิยมใช้อยู่ 2 วิธี คือ การปักชำและการตอนกิ่ง แต่โดยส่วนใหญ่วิธีที่คนนิยมใช้ คือ การปักชำ เนื่องจากได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว รากงอกได้เร็ว ซึ่งจะมีขั้นตอนการปักชำดังต่อไปนี้
1. ใช้มีดเฉือนเอาบริเวณปลายกิ่่งให้ติดใบมาด้วยเล็กน้อย ๆ ให้ติดกิ่งมาเยอะ ๆ
2. เอาไปแช่ในน้ำที่ผสมกับ M150 (ใช้ทำน้ำยาเร่งราก) ประมาณ 1 ฝา แช่ไว้ 1-2 ชม.
3. เอาขุยมะพร้าวแช่น้ำ 1 – 2 ชม. แล้วนำมาอัดใส่กล่องโฟมที่เจาะตรงก้นไว้แบบในรูป
4 นำกิ่งที่แช่น้ำไว้มาปักลงในขุยมะพร้าว
5. ทิ้งไว้ในที่แสงครึ่งวันหรือแสงรำไร ไม่ต้องรดน้ำ ประมาณ 2 เดือนก็จะมีรากงอกออกมาค่อยนำไปปลูกในกระถางต่อ
การปลูกและการดูแลสนเลื้อย
ในส่วนของวิธีการปลูกและการดูแลสนเลื้อยต้องบอกเลยว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะโดยพื้นฐานแล้วต้นสนทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ปลูกได้ดี เพียงแค่มีอัตราการเจริญเติบโตที่ช้า แต่การจะปลูกสนเลื้อยสิ่งที่ต้องศึกษาจะมี ดังต่อไปนี้
ดิน
ต้นสนเลื้อยเป็นไม้ที่จะเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายเพื่อให้ระบายน้ำดี เพราะสนจะไม่ชอบดินที่มีความแฉะหรืออุ้มน้ำจนเกินไป
แสงแดด
การปลูกสนเลื้อยในช่วงแรกที่ต้นยังเล็ก ๆ สามารถวางไว้ในที่แสงน้อยหรือแดดรำไรได้ แต่เมื่อต้นเริ่มโตจะต้องการแสงแดดเต็มวัน ให้วางไว้ในจุดที่สามารถรับแสงได้ดี
น้ำ
เป็นไม้ที่ไม่ได้ต้องการน้ำมาก ให้สังเกตหน้าดินถ้ายังมีความชื้นอยู่ก็ยังไม่ต้องรดน้ำ ใช้การขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งและปักชำกิ่ง
การดูแลต้นสนเลื้อย
ในส่วนของการดูแลต้นสนเลื้อยให้สวยงามทางเว็บไซต์ gardeningknowhow ก็ได้แนะนำวิธีที่น่าสนใจไว้ ดังต่อไปนี้
- ห้ามลิดใบออกเพราะกิ่งไหนไม่มีใบ กิ่งนั้นจะตาย
- การเล็มใบไม่ควรเกิน 20% ของพุ่มใบ โดยเฉพาะในที่ ๆ มีอากาศร้อน
- ตัดยอดและปลายให้มากกว่ากิ่งล่าง เพราะกิ่งล่างโดนแสงน้อยกว่าจึงอ่อนแอกว่า
- ตัดแต่งรากเฉพาะในหน้าหนาว ครั้งละประมาณ 15% ของต้น
- ดินปลูกต้องระบายน้ำดีและมีอินทรีวัตถุให้น้อยที่สุด
- ดินที่ใช้ควรร่อนฝุ่นออกให้หมด
- เปลี่ยนดิน 2-5 ปีต่อครั้ง
- ให้ปุ๋ยอ่อน ๆ สลับกันหลาย ๆ สูตร
- งดให้ปุ๋ยเมื่อมีการตัดรากหรือเปลี่ยนเครื่องปลูก
- การใช้ปุ๋ยเคมีที่เข้มข้นมากเกินไปทำให้เกิดอาการรากไหม้ได้
ปัญหาในการปลูกเลี้ยงต้นสนเลื้อย
1. ใบแห้งกลายเป็นสีน้ำตาล
1) ขาดน้ำ เกิดจากการขาดการดูแลเอาใจใส่หรือการรดน้ำไม่ถึงก้นกระถาง มักเกิดกับไม้จิ๋วเป็นส่วนใหญ่ การแก้ไขในกรณีหลังให้ใช้ดินปลูกที่มีโครงสร้างเล็กลงและอาจเติมขุยมะพร้าวหรือพีชมอสลงไปได้นิดหน่อย
2) เกิดจากใบอ่อนแอ ส่วนใหญ่จะเป็นใบด้านในที่อ่อนแอจาก การได้รับแสงไม่เพียงพอ สังเกตได้จากสีที่เมื่อเปรียบเทียบกับปลายยอดแล้วจะหมองกว่า ใบที่อ่อนแอนั้นหาอาหารไม่เก่งและเมื่อไม่มีปลายแข็งแรงช่วยพยุงการลำเลียงน้ำเลี้ยง มักจะไหม้เมื่อโดนแดดและทำให้ทิ้งกิ่งในที่สุด
3) เกิดจากการที่รากเน่าเพราะดินปลูกไม่ระบายน้ำหรือเก็บกักความชื้นมากเกินไป ควรร่อนฝุ่นดินทิ้งทุกครั้งที่เปลี่ยนดิน และหลีกเลี่ยงดินปลูกที่อุดมด้วยอินทรียวัตถุ เพราะเมื่อย่อยสลายลงไปแล้วจะเกิดปัญหาดินแน่นตามมา
2. โรคและแมลง
ไม้ประเภทสนมีปัญหาเรื่องโรคและแมลงน้อย ส่วนใหญ่เกิดจากเพลี้ยต่าง ๆ ให้ใช้วิธีรดน้ำทั้งที่โคนและที่ใบจะช่วยได้เยอะ ช่วยล้างฝุ่นออกทำให้ใบได้รับแสงดีขึ้น
ลักษณะต้นที่ปลูกเลี้ยงหรือปลูกขายกัน
โดยส่วนใหญ่แล้วด้วยความที่ต้นสนเลื้อยเป็นไม้พุ่มเตี้ยคนจึงไม่นิยมปลูกเลี้ยงหรือปลูกขายในลักษณะที่เป็นต้นใหญ่ แต่จะขายต้นขนาดเล็กในถุงชำหรือกระถาง 6 – 10 นิ้วแทน เราสามารถนำไปปลูกในกระถางสวย ๆ ให้สูงขึ้นกว่านี้หรือปลูกเพื่อตัดแต่งพุ่มเป็นบอนไซให้สวยงามได้ตามใจชอบ ซึ่งต้นสนเลื้อยนิยมนำมาทำบอนไซมาก ๆ ด้วยความพริ้วไหวและสวยงามของใบและลำต้นของมัน อีกทั้งยังสามารถขายได้ในราคาที่สูงมาก ๆ ด้วย
แหล่งอ้างอิง
Creeping Juniper Plant Profile
About Creeping Junipers – Tips For Growing Creeping Juniper Ground Cover