แคคตัสบัลเดียนั่ม ไม้มงคลนำโชคที่มาพร้อมดอกสวยโดดเด่น

บัลเดียนั่ม ภาษาอังกฤษ Dwarf Chin Cactus, Dwarf Chin

บัลเดียนั่ม ชื่อวิทยาศาสตร์  Gymnocakycium baldianum (Speg.) Speg.

ชื่ออื่นๆ ยิมโนบัลเดียนั่ม

วงศ์ CACTACEAE

หากจะมองหาแคคตัสขนาดเล็กที่มีดอกสวยโดดเด่นไม่แพ้ใคร หนึ่งในนั้นจะต้องเป็นแคคตัสบัลเดียนั่ม สายพันธุ์ย่อยของพืชตระกูลยิมโน ซึ่งขึ้นชื่อว่าแข็งแรงทนทาน ออกดอกบ่อยครั้ง และยังพัฒนาสายพันธุ์ได้แบบไร้ขอบเขต ต้นแคคตัสบัลเดียนั่มจะมีดอกขนาดค่อนข้างใหญ่และให้สีสด บางชนิดมีกลิ่นหอมจางๆ เหมาะแก่การปลูกเป็นไม้ประดับภายในบ้านที่ไม่ต้องดูแลอะไรมากนัก ที่สำคัญคือมีคุณสมบัติเป็นไม้มงคลที่ช่วยเสริมเรื่องโชคลาภเงินทองให้แก่ผู้เพาะเลี้ยงอีกด้วย

บัลเดียนั่ม ชื่อวิทยาศาสตร์
facebook, บ้านคุณนายแคคตัส

ความเชื่อเกี่ยวกับต้นแคคตัสบัลเดียนั่ม

เนื่องจากแคคตัสบัลเดียนั่มเป็นหนึ่งสายพันธุ์ในตระกูลยิมโน เรื่องความเชื่อจึงเป็นไปในทางเดียวกัน คือช่วยเสริมโชคลาภและการเงิน แต่จะถือเคล็ดการเพาะปลูกเพื่อเสริมสิริมงคลในแบบที่ต่างกันไป หากต้องการเน้นเรื่องเงินทองเป็นหลักจะต้องปลูกในวันจันทร์ โดยยึดเอาวันที่นำหน่ออ่อนลงดินในกระถางใบใหม่ ส่วนการเสริมเรื่องทั่วไปเพื่อให้ชีวิตสุขกายสบายใจยิ่งขึ้น จะต้องปลูกในวันเสาร์และวางไว้ทางทิศตะวันตกของตัวบ้านแทน

ลักษณะของต้นแคคตัสบัลเดียนั่ม

  • ลักษณะของลำต้น เป็นแคคตัสขนาดเล็กที่มีลำต้นค่อนข้างกลม ผิวนอกเป็นสีเขียวเข้ม มีพูตามแนวตั้งรอบด้าน ส่วนมากจะเป็นพูหน้ากว้างและมีลักษณะอวบน้ำ ตุ่มหนามที่เรียงตัวตามแนวสันทำให้พูดูเป็นลอนคลื่นเล็กน้อย
  • ใบ ใบลดรูปเป็นหนามทั้งหมด บางสายพันธุ์จะมีหนามเป็นสีขาวล้วน แต่บางสายพันธุ์จะมีโคนหนามเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลแดงแล้วมีสีขาวที่ส่วนปลาย หนามที่กระจุกรวมกันในแต่ละตุ่มหนามจะมีทิศทางบานออกด้านข้าง อาจโค้งงอโอบรอบลำต้นหรือชี้ออกไปตรงๆ ก็ได้
  • ดอก ส่วนดอกถือว่าเป็นจุดเด่นของแคคตัสบัลเดียนั่ม เนื่องจากมีความหลากหลายทั้งรูปทรงและสีสัน บ้างมีกลีบเรียวยาวปลายแหลม บ้างมีกลีบป้อมสั้นปลายโค้งมน แต่ส่วนที่คล้ายคลึงกันหมดคือกลุ่มเกสรตรงกลางจะมีสีเหลืองนวล และกลีบดอกจะเป็นโทนสีเข้ม เช่น สีแดง สีแสด สีบานเย็น เป็นต้น
  • ผล ในช่วงแรกของการติดผล ผลจะคล้ายกับทรงกระบอกสั้นที่มีจุกสีน้ำตาลตรงปลายผล เมื่อผ่านไป 3-5 วัน จะมีบางผลเหี่ยวแห้งไป ส่วนที่เหลือก็ค่อยๆ อวบอ้วนขึ้นจนกลายเป็นทรงกลมรี ผิวนอกเป็นสีเขียวเข้มและมีกลีบขนาดเล็กที่มีสีอ่อนกว่ากระจายตัวทั่วผล
บัลเดียนั่มดอกสีอะไร

สายพันธุ์ยอดนิยม

ลักษณะทางสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมของแคคตัสบัลเดียนั่มจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน อันดับแรกคือส่วนดอกซึ่งนับว่าเป็นจุดขายของแคคตัสสายพันธุ์นี้ จะมีการระบุเป็นสีดอกโดยไม่เน้นเรื่องรูปร่างของดอกมากนัก เช่น บัลเดียนั่มดอกแดง บัลเดียนั่มดอกขาว เป็นต้น ต่อมาเป็นส่วนของหนาม จะระบุเป็นรูปแบบการเจริญเติบโตของกลุ่มหนาม เช่น บัลเดียนั่มหนาม 3 แฉก บัลเดียนั่มหนามโค้ง บัลเดียนั่มหนามแมงมุม เป็นต้น และสุดท้ายเป็นสีส่วนของลำต้น ก็จะแบ่งเป็นสายพันธุ์ทั่วไปที่มีผิวสีเขียวเข้มกับสายพันธุ์ด่างที่ผสมสีเขียวกับสีโทนเหลือง

วิธีการปลูก

การขยายพันธุ์ต้นบัลเดียนั่มจะมีอยู่ 2 วิธีหลักๆ คือการเพาะเมล็ดและการปักชำ แต่จะนิยมการปักชำมากกว่าเนื่องจากเพาะต้นกล้าใหม่ได้เร็ว แถมขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก หลังจากต้นแม่พันธุ์โตเต็มที่และมีการแตกหน่ออ่อนบริเวณตุ่มหนามบ้างแล้ว ให้รอจนกว่าหน่ออ่อนเหล่านั้นจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 1 เซนติเมตร จึงเด็ดจากต้นแม่ไปวางผึ่งลมไว้ในร่มโดยไม่ต้องทำอะไร ไม่เกิน 1 สัปดาห์แผลที่หน่ออ่อนจะแห้งสนิทพร้อมกับมีรากงอกออกมา ทำการเตรียมกระถางเพาะโดยรองก้นกระถางด้วยหินภูเขาไฟหรือกาบมะพร้าวสับหยาบ แล้วเทดินลงไป ใช้เป็นดินสำเร็จรูปสำหรับปลูกแคคตัส หรือจะเป็นดินร่วนที่ผสมกับวัสดุอื่นที่หาได้ง่ายก็ได้ เช่น แกลบดำ ขุยมะพร้าว ทรายหยาบ เปลือกถั่วบด เป็นต้น หากผสมดินเองสามารถใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักแห้งเพื่อเสริมแร่ธาตุในดินเพิ่มได้ จากนั้นนำหน่ออ่อนลงปลูกพร้อมโรยทับหน้าดินด้วยกรวดเม็ดเล็ก รดน้ำให้พอชุ่ม ตั้งไว้ในพื้นที่แดดรำไรจนกว่าแคคตัสจะฟื้นตัวดีค่อยย้ายไปกลางแจ้ง

วิธีการดูแลรักษา

  • แสง ต้องการแสงแดดค่อนข้างมาก ควรปลูกไว้กลางแจ้งที่ได้รับแดดครึ่งวันเป็นอย่างน้อย หากช่วงไหนที่มีแดดจัดควรมีตัวช่วยกรองแสงให้บ้าง เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดกับผิวและดอกแคคตัส
  • น้ำ ต้องการน้ำน้อย ควรรดน้ำสัปดาห์ละครั้ง หรือรดเฉพาะตอนที่หน้าดินแห้ง ที่สำคัญคือห้ามมีน้ำท่วมขังในกระถางเป็นอันขาด
  • ดิน เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย หรือจะใช้เป็นดินสำหรับปลูกแคคตัสโดยเฉพาะก็ได้
  • ปุ๋ย ถ้าใช้เป็นปุ๋ยออสโมโค้ท ควรใส่ครั้งแรกที่ปลูกและใส่ซ้ำทุก 5-6 เดือน แต่ถ้าใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ต้องแน่ใจว่าปุ๋ยนั้นไม่เปียกชื้น และใช้ซ้ำได้ทุก 3-4 เดือน
วิธีเลี้ยงบัลเดียนั่ม
www.bloggang.com

คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นแคคตัสบัลเดียนั่ม

ด้วยขนาดลำต้นกะทัดรัดที่มาพร้อมดอกสีสันสดใส ทำให้แคคตัสบัลเดียนั่มเป็นไม้ประดับที่ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับบริเวณบ้านได้เป็นอย่างดี มีคุณสมบัติช่วยฟอกอากาศและดูดซับสารพิษได้ แม้จะมีศักยภาพไม่เท่ากับไม้ใบขนาดใหญ่ แต่ก็แลกมากับความสวยงามที่ดูแลรักษาง่าย ใช้พื้นที่เพาะปลูกน้อยมาก แถมยังวางในห้องนอนได้โดยไม่รบกวนการนอนอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังใช้วางหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อดูดซับรังสีได้เช่นเดียวกับแคคตัสทั่วไป

ลุ้นยิ่งกว่ากล่องสุ่มกับบัลเดียนั่มลุ้นสีดอก

นอกจากจะเป็นกลยุทธ์การขายที่น่าสนใจ ก็ยังถือว่าเป็นความสนุกสนานของคนรักแคคตัสบัลเดียนั่มอีกด้วย เพราะทุกครั้งที่มีการผสมเกสรข้ามต้นแล้วขยายพันธุ์ด้วยวิธีเพาะเมล็ด เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าแคคตัสต้นใหม่ที่ได้จะออกดอกเป็นอย่างไร แม้ว่าจะผสมแบบเดิมกับต้นแม่พันธุ์ชุดเดิม ก็ไม่แน่ว่าจะได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมทุกครั้ง จึงมีรูปแบบการจำหน่ายอีกอย่างหนึ่งที่ขายบัลเดียนั่มตั้งแต่ต้นยังเล็ก พร้อมระบุชัดเจนว่าให้ผู้ซื้อไปลุ้นสีดอกกันเอง ส่วนผู้ขายก็ทำได้เพียงคาดเดาให้คร่าวๆ ว่ามีโอกาสจะได้ดอกเป็นแบบไหนบ้างเท่านั้น

บัลเดียนั่มดอกส้ม
www.blockdit.com

แหล่งที่มา

https://oer.learn.in.th

https://thaifarmer.lib.ku.ac.th

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้