ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น ดอกแค,แค,แคแกง (ทั่วไป),แคดอกขาว,แคดอกแดง(ภาคกลาง),แก,ดอกแก,ดอกแกขาว,ดอกแกแดง(ภาคเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Sesbania grandifloraDesv.
ชื่อสามัญ Sesban, Sesban white dragon tree
แคขาว หรือแคบ้าน ของดีของอร่อยริมรั้วที่คนไทยที่นิยมกินคือ ยอดอ่อน ใบอ่อน ดอก และฝักอ่อน ยอดอ่อน กินร่วมกับน้ำพริก ดอกอ่อนนำไปปรุงอาหารได้หลายชนิด นอกจากนี้ยังมีการนำส่วนต่างๆมาใช้ประโยชน์อื่นๆ อีกเช่น ใบนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์ ลำต้นนำมาใช้ในการเพาะเลี้ยงเห็ดหูหนูหรือใช้ทำฟืนได้ แคบ้านมีจุลินทรีย์ทีปมรากและเมื่อจับก๊าซไนโตรเจนในอากาศผลิตเป็นปุ๋ย แคจึงเป็นพืชช่วยปรับปรุงดินอีกด้วย อีกหนึ่งพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับพันธุ์ไม้สารพัดประโยชน์ นี้กัน แคบ้าน…
ความเชื่อเกี่ยวกับแคบ้าน
มีการเล่าขานกันมาว่า แค เป็นคำที่สื่อถึงการใส่ใจดูแล ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะใส่และตั้งใจดูแลเอาใจใส่จนทำให้ทำมาค้าขายก็จะเจริญรุ่งเรืองหากปลูกต้นแคไว้ที่บ้าน จะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลใช้แก่ชีวิต จะมีผู้คอยอุปถัมภ์ค้ำชู
สาระทั่วไปของแคบ้าน
สำหรับแคบ้านมีถิ่นกำเนิดในแถบเอเชียตะวัน-ออกเฉียงใต้ และประเทศไทย โดยในประเทศไทยนั้นถือว่าแคบ้านเป็น พืชพื้นบ้านที่พบได้ทั่วไปทั้งในทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะพบ การปลูกตามคันนาและบริเวณบ้านเรือนในชนบท ทั้งนี้แคบ้านเจริญเติบโตได้ดีทั้งในที่แห้งแล้งและชุ่มชื้นจึงสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ ในประเทศไทย ก็มีแหล่งที่มีการปลูกต้นแคเพื่อการค้าเช่นกัน ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ สุพรรณบุรี และกรุงเทพฯ เป็นต้น
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
- ลำต้น ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 5-10 ม. กิ่งก้านเปราะหักง่ายเพราะเป็นไม้เนื้ออ่อน เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลปนเทา มีเปลือกหนาและมีรอยขรุขระที่แตกเป็นสะเก็ด
- ใบ มีลักษณะสีเขียว ใบย่อยมีขนาดเล็ก เรียงสลับ รูปขอบขนาน ขอบใบเรียบ ปลายใบมน กว้าง 1.0-1.5 ซม. ยาว 3-4 ซม.
- ดอก ดอกสีขาวหรือสีแดง ลักษณะคล้ายฝักถั่ว ออกเป็นช่อบริเวณซอกใบ ช่อละ 2-4 ดอก
- ผล เป็นฝักกลมยาว 30-50 ซม.ฝักแก่จะแตกเป็นออกเป็น 2 ซีก
- เมล็ด ลักษณะเมล็ดกลมและมีสีน้ำตาล
- ผล: ฝักรูปทรงกระบอกยาวคอดระหว่างเมล็ด
- อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง
- การขยายพันธุ์: เพาะเมล็ดการขยายพันธุ์แคบ้าน
- ดิน ชอบดินร่วนระบายน้ำดี ขึ้นได้ในดินทุกชนิด
- แสงแดด: แสงแดดเต็มวัน ทนแล้ง
- น้ำ: ปานกลาง ช่วงแรกรดน้ำทุกวันจนต้นตั้งตัวได้
แคบ้านขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ด โดยการนำเมล็ดที่แก่จัดมาแช่น้ำไว้ 1 คืน แล้วจึงนำมาเพาะในกระบะเพาะหรือถุงดำ จนต้นกล้าออกสูงประมาณ 30-35 เซนติเมตร จึงนำลงปลูกโดยหลุมปลูกควรมีขนาด กว้างxยาวxลึก ประมาณ 30x30x30 เว้นระยะระหว่างต้นประมาณ 1.5 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 2 เมตร และหลังจากปลูกเสร็จ
การปักหลักและมัดเชือกยึดกับต้นกล้าที่ปลูกไว้จนกว่าจะสูงประมาณ 1-1.5 เมตร ต้นแคบ้านมีความสูงมากเกิน 2 เมตร ให้ตัดให้เหลือ 2 เมตร เพื่อความสะดวกในการเก็บเกี่ยว
สำหรับการเก็บเกี่ยวได้ในช่วง 3-4 เดือน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว ทั้งนี้ ต้นแคมีอายุราว 20 ปี แต่ถ้าเก็บใบกินบ่อยๆ จะแตกใบอ่อนบ่อยครั้งและต้นจะมีอายุสั้นลง
ประโยชน์ของแคบ้าน
- ประโยชน์ของต้นแคนิยมปลูกไว้เป็นรั้วบ้านเพื่อพรางสายตาหรือนิยมปลูกตามคันนาริมถนนข้างทาง และปลูกไว้ในบริเวณบ้าน
- ต้นแคเป็นพืชที่ช่วยปรับปรุงดินไปได้ในตัวอีกด้วยแคเป็นพืชที่มีจุลินทรีย์ที่ปมราก เมื่อจับกับก๊าซไนโตรเจนในอากาศจะผลิตเป็นปุ๋ยที่พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
- ใบใช้เป็นอาหารสัตว์ เลี้ยงโคกระบือได้ดี และเป็นที่ชื่นชอบของโคกระบือ ไม้ใช้ทำเป็นฟืนหรือเชื้อเพลิงได้
- ลำต้นนิยมนำมาใช้ในการเพาะเลี้ยงเห็ดหูหนูได้ดี
- ดอกแค ฝักอ่อน ยอดอ่อน และใบอ่อน สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น แกงแค, แกงส้มดอกแค, แกงเหลืองปลากะพง, แกงจืดดอกแค, ดอกแคชุบแป้งทอด, ดอกแคผัดหมู, ดอกแคผัดกุ้ง, ดอกแคผัดเต้าเจี้ยว, ดอกแคผัดกะเพรา, ยำดอกแค, ส่วนใบอ่อน ยอดอ่อน และฝักอ่อนนำมาลวก จิ้มกินกับน้ำพริกก็ได้ เป็นต้น
- บ้านเรานิยมกินดอกและยอดอ่อน แต่สำหรับประเทศอื่น ๆ บางประเทศจะนิยมกินดอกแคสดหรือนำมานึ่งเป็นสลัดผัก ส่วนฝักจะใช้รับประทานเหมือนกับถั่วฝักยาว
คำแนะนำในการรับประทานดอกแค
- การนำดอกแคมาใช้ทำเป็นอาหาร ต้องเด็ดเอาเกสรสีเหลืองของดอกแคออกก่อน จะช่วยลดความขมหรือทำให้มีรสขมได้ แต่ถ้าไม่กังวลเรื่องความขมก็ไม่ต้องเด็ดออกก็ได้
- การเลือกซื้อยอดอ่อนและใบอ่อนของแค ควรเลือกเป็นใบสด ไม่ร่วง ส่วนดอกให้เลือกดอกตูมที่กำลังจะบาน ซึ่งยอดอ่อนและใบอ่อนจะหาซื้อได้ทั่วไปในตลาด แต่สำหรับฝักอ่อนค่อนข้างจะหาซื้อยาก ต้องปลูกต้นแคไว้เองจึงจะได้รับประทาน
- ยอดอ่อนและใบอ่อนของแคนั้น จะมีในช่วงฤดูฝน ส่วนดอกแคจะมีในช่วงต้นฤดูหนาว
- ดอกแคมีรสเฝื่อน ไม่นิยมรับประทานสด ๆ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ การไปลวกโดยใช้เวลาอันสั้นที่สุด
- การรับประทานดอกแคในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้อาเจียนได้
ทั้งหมดนี้ ก็คือ เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับต้นแคบ้าน ต้นไม้ที่มีประโยนชน์ตั้งต้นตั้งแต่ดอกจรดราก พร้อมทั้งข้อมูลที่สำคัญต่างๆ แคบ้านต้นไม้ ที่สร้างประโยชน์ได้อย่างหลากหลายอีกทั้งยังสามารถนำมารับประทานเป็นอาหารและมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรช่วยรักษาโรคได้หลากหลายอาการ จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมจึงได้รับความนิยมในการปลูก ยิ่งหากมีการปลูกและการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง สามารถเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว สามารนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆ ได้มากมาย
แหล่งอ้างอิง
http://www.qsbg.org/database/botanic_book%20full%20option (องค์การสวนพฤกษศาสตร์)
https://skm.ssru.ac.th/news/view/wut062 (มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาวิทยาเขตสมุทรสงคราม)