พญาไร้ใบ สรรพคุณทางยาช่วยรักษาสุขภาพร่างกายพ้นจากโรคภัย

พญาไร้ใบ ชื่อวิทยาศาสตร์ : Euphorbia tirucalli L.

วงศ์ : EUPHORBIACEAE

ชื่อท้องถิ่นอื่นๆที่เรียกกัน เคียะจีน พญาร้อยใบ (เชียงใหม่), เคียะเทียน (ภาคเหนือ) เป็นต้น

พญาไร้ใบ เป็นพืชต่างประเทศมีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา ส่วนในไทยสามารถพบเจอตามบริเวณป่าเบญจพรรณ ลักษณะของต้นจะมีกิ่งอ่อนสีเขียว แก่แล้วเป็นสีน้ำตาล กิ่งกลม อวบน้ำ ใบเดี่ยว ขนาดเล็กมากจนเหมือนไม่มีใบ ออกตามลำต้น ทำให้เห็นแต่ลำต้นเป็นสีเขียว มียางขาว ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายยอด ดอกสีขาวอมเหลือง มีขน ผู้คนนิยมเลี้ยงเป็นไม้ประดับ ไม้มงคล ปัจจุบันจะเห็นได้ทั่วไปทุกภูมิภาค

พญาไร้ใบ ชื่อวิทยาศาสตร์
oknation.nationtv.tv

ความเชื่อต้นพญาไร้ใบ

ต้นพญาไร้ใบผู้คนมีความเชื่อกันว่า ใครที่ปลูกไว้จะช่วยในการคุ้มครองเรื่องการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือโรคภัยต่างที่จะเข้ามา บางกลุ่มก็เชื่อกันว่ากิ่งก้านจำนวนมากจะช่วยในการเก็บเกี่ยวเงินทองเข้ามา ป้องกันกันเงินไหลออกจากบ้าน

ลักษณะของพญาไร้ใบ

  • ลำต้น จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงลำต้นประมาณ 4-7 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขามาก ดูคล้ายกับปะการัง เปลือกลำต้นแก่เป็นสีน้ำตาลเข้ม ไม่มีหนาม ส่วนกิ่งอ่อนเป็นรูปทรงกระบอกเป็นสีเขียวเรียบเกลี้ยง อวบน้ำ เมื่อหักหรือกรีดดูจะมีน้ำยางสีขาวข้นออกมาจำนวนมาก
  • ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกัน ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบมน โคนใบมน โดยมีขนาดกว้างประมาณ 0.2 เซนติเมตรและยาวประมาณ 1 เซนติเมตร หลุดร่วงได้ง่าย
  • ดอก เป็นดอกเดี่ยว ออกเป็นกระจุกที่ปลายยอด ดอกมีขนาดเล็กสีเขียว ดอกเพศผู้และดอกเพศเมีย ไม่มีกลีบดอก และอยู่ในช่อเดียวกัน มีแต่กลีบรองดอกสีขาว กลีบเลี้ยงมี 4 กลีบ
  • ผล เป็นผลแห้งจะแตกและอ้าออก โดยจะออกดอกและติดผลในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤศจิกายน
ต้นพญาไร้ใบ ความเชื่อ
medthai.com

วิธีการปลูกและการดูแลของต้นพญาไร้ใบ 

ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและการตัดชำ ซึ่งจะต้องเตรียมส่วนผสมของ ดินร่วน ขี้เถ้าแกลบ และขุยมะพร้าว เพื่อช่วยในการระบายน้ำได้ดี จากนั้นนำเมล็ดพันธุ์หรือส่วนที่ตัดมาชำลงในถุงเพาะชำที่เตรียมไว้ หลังจากนั้นดูแลรดน้ำเช้าและเย็น รับแสงแดดตลอดวัน

สรรพคุณของพญาไร้ใบ

  1. รากมีรสเฝื่อน ใช้ต้มดื่มเป็นยาแก้ธาตุพิการ
  2. รากนำมาต้มกับน้ำมะพร้าวใช้ทาแก้อาการปวดท้อง
  3. รากใช้สกัดเป็นเป็นยาระบายได้
  4. ใบและรากมีรสเฝื่อน ใช้ตำพอกแก้ริดสีดวงทวาร และใช้ต้นนำมาตำพอกริดสีดวง
  5. น้ำยางจากต้นใช้รักษาโรคผิวหนัง ส่วนเนื้อไม้ใช้ผสมเป็นยาสำหรับรักษาโรคผิวหนัง โรคเรื้อน กรณีที่มือและเข่าอ่อนเปลี้ยหลังการคลอดบุตรของสตรี
  6. ต้นใช้ตำพอกเป็นยาแก้รังแค ยาแก้กระเพาะอักเสบ และยาพอกแผล
  7. ตำรายาพื้นบ้านจะใช้น้ำยางจากต้นมาแต้มกัดหูด (ใช้น้ำยางจากกิ่งที่หักมาใหม่ ๆ มาหยดลงบริเวณที่เป็นหูด วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น)
  8. ต้นมีรสเฝื่อน ใช้ต้มแช่รักษาอาการบาดเจ็บ
  9. ต้นใช้ตำพอกเป็นยาแก้ปวดบวม
  10. ต้นใช้ตำทาแก้อาการปวดกระดูก กระดูกเดาะ
  11. ใช้น้ำยางจากต้นนำมาถูผิวหนังบริเวณที่กระดูกแตกหัก เชื่อว่าจะช่วยเชื่อมกระดูกได้

ประโยชน์ของพญาไร้ใบ

  1. ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับตกแต่งสวน
  2. น้ำยางสีขาวมีพิษ จึงใช้ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชได้ เช่น เพลี้ยอ่อน มอดแป้ง แมลงวันทอง หนอนกระทู้ผัก และช่วยป้องกันแมลงในโรงเก็บ และยังสามารถช่วยยับยั้งการฟักไข่ของด้วงถั่วเขียวได้อีกด้วย
  3. ใช้เป็นสมุนไพรป้องกันและกำจัดหอยเชอรี่ในนาข้าวได้อีกด้วย โดยให้เตรียมพญาไร้ใบ 3 กิโลกรัม, น้ำ 10 ลิตร, กากน้ำตาล 0.5 ลิตร นำส่วนผสมทุกอย่างมาหมักรวมกัน ปิดถังหมักทิ้งไว้ในร่ม 1 เดือน ส่วนวิธีการใช้ให้ปล่อยไปตามน้ำหรือเทราดตามข้างนาจำนวน 1 ลิตร ต่อไร่ (หรืออาจมากกว่านั้น) ก็จะช่วยกำจัดหอยเชอรี่ได้โดยไม่มีผลกระทบหรือเป็นอันตรายใด ๆ ต่อต้นข้าวเลย
ประโยชน์พญาไร้ใบ
Facebook, ร้านต้นไม้ในสวน


ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรพญาไร้ใบ

  • ยางจากต้นพญาไร้ใบมีพิษ เมื่อสัมผัสกับน้ำยางสีขาวจากต้นจะทำให้ผิวหนังอักเสบ บวมเป็นผื่นแดง ทำให้เกิดอาการคัน และเป็นอันตรายเมื่อเข้าตา อาจทำให้ตาบอดได้
  • น้ำยางมีสาร 4-deoxyphorbol และอนุพันธ์ ซึ่งมีฤทธิ์ระคายเคืองอย่างแรงและยังเป็นสารร่วมก่อมะเร็ง จึงควรระมัดระวังในการนำมาใช้

การรักษาพิษพญาไร้ใบ

พิษระคายเคืองต่อผิวหนัง น้ำยางสีขาวจากต้นมีสารพิษชื่อว่า Phorbol derivative หากสัมผัสจะมีอาการปวด ผิวหนังอักเสบเป็นปื้นแดง บวมพองเป็นตุ่มน้ำ ถ้าเข้าตาจะทำให้เยื่อบุตาอักเสบและตาบอดชั่วคราว ซึ่งมีวิธีการรักษาดังนี้

  • ให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์
  • ทาด้วยครีมสเตียรอยด์
  • ทานยาแก้แพ้ (เช่น คลอเฟนิรามีน (Chlopheniramine) ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร)
  • ประคบด้วยน้ำเย็นจัดบริเวณที่มีอาการประมาณ 30 นาที
  • ถ้ายางเข้าตาให้รีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง แล้วหยอดตาด้วยยาหยอดตาที่มีสเตียรอยด์ แล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว

พิษระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหาร หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เยื่อบุผนังกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ มีอาการอาเจียน และถ่ายท้องอย่างรุนแรง ม่านตาหด หากได้รับมากอาจทำให้สั่นและเสียชีวิตได้ ซึ่งมีวิธีการรักษาดังนี้

  • ให้รีบทำให้อาเจียนแล้วรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการล้างท้อง
  • ดื่มน้ำนมหรือไข่ขาว เพื่อช่วยเคลือบกระเพาะอาหารและลำไส้
  • ดื่มน้ำเกลือผงละลายน้ำ หรือให้น้ำเกลือเข้าทางเส้นเลือด เพื่อช่วยชดเชยน้ำที่เสียไป
  • ต้องรับประทานอาหารอ่อน ๆ จนกว่าอาการจะทุเลา
พิษพญาไร้ใบ
khaolan.redcross.or.th

แหล่งที่มา

https://arit.kpru.ac.th

http://www.rspg.or.th

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้