ฟิโลเดนดรอน ไม้ใบขวัญใจนักสะสม ความสวยงามที่มาพร้อมความหลากหลาย

ฟิโลเดนดรอน (Philodendron) เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดหลักในลุ่มแม่น้ำอะเมซอน ด้วยพื้นที่แถบลุ่มแม่น้ำอะเมซอนนั้มีภูมิอากาศที่เป็นประเภทป่าดิบชื้นหรือป่าฝนเขตร้อน ซึ่งลักษณะคล้ายกับประเทศไทยด้วย คือ เป็นป่าที่มีสีเขียวตลอดทั้งปี ต้นไม้จะไม่มีการผลัดใบในช่วงฤดูแล้ง เนื่องด้วยปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก ทำให้ต้นฟิโลเดนดรอนสามารถปลูกในไทยได้ไม่ยาก ส่วนชื่อของต้นฟิโลเดนดรอนนั้นมาจากชื่อภาษากรีก ซึ่งมาจากคำว่า “Phileo” ที่แปลว่ารัก และ “Dendron” แปลว่าว่าต้นไม้ ชื่อนี้มาจากลักษณะของการเจริญเติบโตที่อาศัยเกาะต้นไม้

ฟิโลเดนดรอน

ควรปลูกบริเวณใดของบ้าน

ฟิโลเดนดรอนควรจะปลูกไว้เป็นต้นไม้สำหรับตกแต่งและประดับบ้าน ควรจะเลือกส่วนที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน แต่ในพื้นที่ที่โดดเด่นนั้นจะต้องเป็นบริเวณที่มีแสงส่องถึงได้รำไร ไม่โดนแสงแดดจัดจนเกินไป เนื่องจากฟิโลเดนดรอนเป็นพืชที่ไม่ได้ชอบแสงแดดจัดมาก บริเวณพื้นที่ของบ้านที่เหมาะสมกับการปลูกต้นฟิโลเดนดรอน คือ ริมหน้าต่าง ริมประตู ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ช่วยให้ร่มเงาเพียงเล็กน้อยหรือปลูกลงในกระถาง เป็นต้น

ฟิโลเดนดรอน

ส่วนประกอบของต้นไม้

ลำต้นฟิโลเดนดรอน: ต้นฟิโลเดนดรอนจัดอยู่ในประเภทไม้เถาเลื้อย ลำต้นมีลักษณะเป็นกระบอกเล็ก ยาว มีสีเขียว

ใบฟิโลเดนดรอน: เป็นประเภทใบเดี่ยวเรียงสลับไปมา รูปรีแกมรูปขอบขนาน มีความกว้างประมาณ 6-6.2 เซนติเมตร มีความยาวประมาณ 10.5-12 เซนติเมตร ปลายติ่งแหลมอ่อน บริเวณที่โคนใบจะเป็นรูปหัวใจ ขอบใบคล้ายกับขนนกและหยัก ใบหนา เรียบ เป็นมัน เมื่อใบแก่ส่วนของใบบริเวณด้านบนจะมีสีเขียวเข้ม ใบอ่อนแผ่นใบสีเหลืองอมแดง เส้นกลางใบสีเขียวอ่อนเป็นร่องลึก ก้านใบสีเขียว ยาว 14-17 เซนติเมตร มีร่องตื้นตลอดแนวก้านใบ ปลอกหุ้มยอดสีขาวอมแดง

ดอกของฟิโลเดนดรอน: ดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดมีกาบ

ทำความเข้าใจกับสายพันธุ์ของฟิโลเดนดรอน

สำหรับนักสะสมไม้ใบทั้งหลายคงจะพอรู้ดีว่าสายพันธุ์ฟิโลเดนดรอนสามารถแบ่งออกไปได้เยอะมาก ๆ อย่างน้อย ๆ ที่เคยมีการสำรวจมาก็มีมากถึง 220 ชนิดและมีสายพันธุ์เด่น ๆ อยู่ 190 สายพันธุ์ ซึ่งที่เราเห็นขายกันอยู่ตามร้านต้นไม้ทุกวันนี้มีเพียง 10 – 15 สายพันธุ์เท่านั้น โดยฟิโลเดนดรอนนั้นจะมีความโดดเด่นที่แยกกันได้ชัดในส่วนของลักษณะเส้นใบ รูปร่างใบหรือรูปร่างของก้านใบและเพื่อให้เห็นความแตกต่างทางสายพันธุ์ที่ชัดเจนวันนี้เราจะยก 5 สายพันธุ์ฟิโลเดนดรอนที่นิยมปลูกกันมากที่สุดมาให้ทุกคนได้ดูกัน

ฟิโลเดนดรอน

1) ฟิโลเดนดรอน ซานาดู

ฟิโลเดนดรอนซานาดูเป็นไม้ล้มลุกที่มีความสูงมีตั้งแต่ 60 เซนติเมตรไปจนถึง 1 เมตร มีรากออกตามข้อ ของลำต้น แตกกอเป็นพุ่ม ใบของซานาดูมีลักษณะที่โดดเด่น เป็นใบเดี่ยว  รูปไข่ ปลายมนมีติ่ง ขอบเว้าลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ มี 7 แฉก โคนเว้า ใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวเรียบเกลี้ยง เป็นมัน ยาว 17-24 ซ.ม. กว้าง 13-16 ซ.ม. แผ่นใบสีเขียวเข้ม เห็นเส้นใบชัดเจนสีเขียวอ่อน ก้านใบอวบหนา ทรงกระบอกยาว 20-35 ซ.ม. กว้าง 0.5-1 ซ.ม. ลักษณะเด่น คือ ใบหยักลึกแบบขนนก มีดอกลักษณะของดอกมีกาบหุ้ม คล้ายดอกหน้าวัว ออกเป็นช่อแบบช่อเชิงลดมีกาบ บริเวณซอกใบ ดอกสีขาวมีดอกแยกเพศอยู่ด้านบนกลางกาบ

ฟิโลเดนดรอน หูช้าง

2) ฟิโลเดนดรอน หูช้าง

สำหรับต้นฟิโลเดนดรอนหูช้างเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นอวบหนา มีใบขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 เซนติเมตร ใบขนาดใหญ่เป็นรูปหัวใจ ความกว้างประมาณ 36-38 เซนติเมตร ยาว 39-40 เซนติเมตร ใบจะมีความหนาผิวมันเสีเขียวเข้ม เส้นกลางใบนูนขึ้นมาให้เห็นชักมาก มีการออกดอกเป็นช่อ โดยวิธีขยายพันธุ์สามารถทำได้ทั้งการเพาะเมล็ด การตอนและปักชำ

ฟิโลเดนดรอน เบอร์กิ้น

3) ฟิโลเดนดรอน เบอร์กิน

เป็นอีกสายพันธุ์ในตระกูลฟิโลเดนดรอนที่คนนิยมปลูก ด้วยลวดลายใบที่สวยงามโดดเด่นและดูแลง่ายมาก ๆ โดยลักษณะของต้นนี้จะมีใบมีสีเขียวเข้มและมีลวดลายเส้นสีขาวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ดูสะดุดตา ปาดไปมาอยู่บนใบเป็นริ้วเป็นเส้น ลวดลายของใบใหม่ที่งอกออกมาจะยิ่งขาวด่างขึ้นเรื่อย ๆ ฟิโลเดนดรอน เบอร์กิ้นสามารถสูงได้ถึง 1 เมตร เป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ชอบแดดจัด ชอบที่ที่มีแสงแดดรำไรส่องถึงและอากาศถ่ายเท

ฟิโลเดนดรอน หยกมรกต
www.Thaipick.com

4) ฟิโลเดนดรอน มรกตหยก

สำหรับฟิโลเดนดรอนชนิดนี้มีอีกชื่อคือฟิโลเดนดรอน อเมซอน เป็นพืชล้มลุกที่สามารถปลูกในน้ำได้ ใบคล้ายหัวหอก โคนใบเว้า ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นคลื่นหยัก ผิวใบมันสีเขียวเข้ม ใต้ใบสีจะซีดกว่าเล็กน้อย ความกว้างของใบมีทั้งขนาด 6-8 เซนติเมตรและขนาดใหญ่ประมาณ 34-60 เซนติเมตร นิยมปลูกด้วยการตอนกิ่งและปักชำยอด เหมาะสำหรับปลูกในดินร่วน ต้องการน้ำปานกลางและแสงแดดรำไร

ฟิโลเดนดรอน มูนไลท์

5) ฟิโลเดนดรอน มูนไลท์

ฟิโลเดนดรอนชนิดนี้เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีจุดเด่นอยู่ที่สีของใบเป็นสีเขียวที่มีเอกลักษณ์ ในใบอ่อนจะมีสีเขียวอ่อนปนเหลืองและค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มเมื่อใบแก่ เส้นกลางใบใหญ่แต่มีสีอ่อน บริเวณโคนก้านใบและโคนดอกมีสีแดงอมชมพู มีดอกสีขาวออกบริเวณซอกใบ ลำต้นสูงประมาณ 50-60 เซนติเมตร สามารถปลูกได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง แต่ต้องปลูกในดินที่สามารถระบายน้ำได้ดี

วิธีการปลูกฟิโลเดนดรอน

สำหรับต้นฟิโลเดนดรอนมีการเพาะพันธุ์ได้หลากหลายวิธี ซึ่งในแต่ละวิธีได้ฟิโลเดนดรอนที่แตกต่างกันอีก โดยวิธีที่นิยมอย่างมาก คือ การแยกหน่อและการตัดชำ ซึ่งในการแตกหน่อนั้นจะเกิดหน่อบริเวณที่โคนต้น ในการตัดยอดหรือตัดต้นมาแกชำ จะต้องเลือกหรือตัดส่วนที่มีรากออกมาด้วย ให้ตัดมาประมาณ 3-4 ข้อ โดยตัดจากลำต้นเป็นส่วน ๆ หรือนับตามข้อ ในหนึ่งส่วนนั้นให้มีประมาณ 3 ข้อ จากนั้นนำไปปักชำในทรายหยาบหรือขี้เถ้าแกลบ ทำการรดน้ำให้ชุ่มอยู่ตลอดเวลาใช้เวลาดูแลรักษาประมาณ 2 สัปดาห์หรือให้ตรวจสอบว่ารากแข็งแรงหรือไม่ ถ้าแข็งแรงให้ย้ายไปปลูกต่อไปได้เลย

วิธีการดูแลฟิโลเดนดรอน

แสง: ควรปลูกในบริเวณที่มีการส่องถึงได้รำไร หรือบริเวณที่มีแสงแดดที่ไม่จัดจนเกินไป เช่น ริมหน้าต่าง หรือใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถให้ร่มเงาได้บ้าง

น้ำ: ควรรดน้ำวันละ 2-3 ครั้ง เนื่องจากต้นฟิโลเดนดรอน เป็นพืชที่ต้องการน้ำระดับปานกลาง และเป็นพืชที่ไม่ได้สามารถกักเก็บน้ำได้ด้วยตนเอง

ดิน: เป็นพืชที่สามารถปลูกในดินที่เป็นดินร่วนหรือดินที่สามารถระบายน้ำได้ดีมาก เพื่อเป็นการป้องกันการเน่าของราก หากเกิดน้ำขัง

ปุ๋ย: ถ้าต้องการให้ลำต้นมีขนาดใหญ่มากขึ้นให้ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก ในอัตราส่วนประมาณ 0.2-0.5 กิโลกรัมต่อต้นหรือสามารถเลือกใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 อัตรา 10 – 20 กรัม ต่อต้น

ข้อควรรู้ก่อนปลูกฟิโลเดนดรอน

แม้ว่าความสวยงามของใบฟิโลเดนดรอนจะตราตรึงใจให้ใครหลายคนอยากซื้อมาปลูกแต่ก็มีข้อควรรู้บางอย่างก่อนการซื้อเพราะแท้จริงแล้วต้นไม้อย่างต้นฟิโลเดนดรอนเป็นต้นไม้ที่มีพิษ ซึ่งสารนี้เรียกว่าสารแคลเซียมออกซาเลทที่มีองค์ประกอบเป็นพิษ อาจจะก่อให้เกิดความอันตรายแก่ผู้เลี้ยงได้โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่แพ้ง่าย เมื่อไปสัมผัสโดนเนื้อเยื่อของต้นฟิโลเดนดรอนแล้วจะทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณที่สัมผัสได้ เกิดเป็นรอยแดง รอยไหม้ ยิ่งถ้าหากอาการไม่ได้เกิดทันที แล้วมือไปโดนปากหรือหน้าจะทำให้เกิดอาการบวมแดงมากกว่าเดิมได้ นอกจากนี้ยังจะต้องระวังในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงที่อาจจะไปกินต้นฟิโลเดนดรอน จนส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหาร อาการที่สังเกตได้ คือ น้ำลายไหล ลิ้นบวม อาเจียน หายใจและกลืนลำบาก สิ่งที่สำคัญคือควรปลูกให้ห่างจากเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

ฟิโลเดนดรอน

ประโยชน์ที่ควรรู้จากการปลูกฟิโลเดนดรอน

1) ใช้สำหรับประดับและตกแต่งไว้ตามมุมบ้าน นิยมปลูกเป็นไม้กระถางพันธุ์ เป็นไม้ในบ้าน ในอาคารหรือนอกอาคารตามโคนร่มต้นไม้

2) นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังช่วยดูดสารพิษหรือเป็นไม้ฟอกอากาศได้อย่างดีอีกด้วย

3) สามารถผสมข้ามสายพันธุ์ฟิโลเดนดรอน แล้วนำไปทำสร้างกำไรจากการจำหน่ายให้แก่เหล่านักสะสมกลุ่มฟิโลได้

ฟิโลเดนดรอน ถือได้ว่าเป็นพันธุ์ไม้ใบที่กำลังมาแรงมาก ๆ ในตลาดต้นไม้ปัจจุบัน ด้วยความสวยงามและความหลากหลายของมันทำให้คนรักต้นไม้ทั้งหลายอดที่จะซื้อไปสะสมไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นไม้ที่ปลูกง่าย โตไว ทนทานต่อสภาพอากาศ เป็นไม้ฟอกอากาศได้ด้วย คุณสมบัติเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นที่ต้องการของสายรักต้นไม้แน่นอน ดังนั้น วันนี้หวังว่าทุกคนจะได้รับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับฟิโลเดนดรอนแล้วลองไปซื้อหามาปลูกกันดู

แหล่งที่มา
ฟิโลเดนดรอน เจ้าพระยาเขียว, ข้อมูลพันธุ์ไม้ ระบบฐานข้อมูลเกษตรดิจิทัล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้