สับปะรดสี พืชมงคล ตระกูลสับปะรด สีสวยงาม ทนแดดปลูกง่ายพาชีวิตราบรื่น

ความเชื่อกับคนไทยนั้นเป็นของคู่กัน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน เติบโตอย่างไร ต่างก็เป็นที่รู้กันดีว่าวิถีชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่มักผูกติดอยู่กับความเชื่อเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูดวง สีเสื้อมงคล ไปจนถึงความเชื่อเรื่องต้นไม้มงคล ที่ทำเอาเหล่าคนรักต้นไม้หลาย ๆ คน ต่างตาลุกวาวและสรรหาต้นไม้นำโชคหรือไม้มงคลมาปลูกที่บ้านกันใหญ่ เรียกได้ว่าปลุกกระแสความตื่นตัวในวงการตลาดต้นไม้ได้เลยทีเดียว

และอีกหนึ่งไม้มงคลที่คนไทยนิยมปลูกกันมาก คือ สับปะรดสี ซึ่งมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Bromeliad หรือ Urn Plant โดยพืชชนิดนี้เป็นพืชตระกูลสับปะรด โดดเด่นที่สีของใบมีสีสันสดใสสวยงาม สามารถเติบโตได้ดี เลี้ยงง่าย ต้องการแค่แดดอ่อน ๆ ก็สามารถอยู่ได้ เป็นพืชที่มอบความสดชื่น สบายตา เพราะมีสีสันสวยงาม และคนไทยยังเชื่ออีกด้วยว่าการปลูกต้นสับปะรดสีจะช่วยในเรื่องของการกำจัดอุปสรรคในชีวิต ช่วยให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างราบรื่น

สับปะรดสี ราคา

สับปะรดสี กับความเชื่อเรื่องไม้มงคลของคนไทย ที่ไม่รู้ไม่ได้แล้ว!

คนไทยเราเติบโตมากับความเชื่อต่าง ๆ และความเขื่อเกี่ยวกับไม้มงคลก็เป็นหนึ่งในความเชื่อเหล่านั้นที่ทำให้คนไทยชื่นชอบการปลูกต้นไม้ บวกกับราคาต้นไม้บ้านเราไม่ได้แพงมากนัก

สับปะรดสี เป็นหนึ่งในไม้มงคลที่เป็นที่นิยม ด้วยข้อดีในด้านของการเลี้ยงง่าย ไม่ต้องการการเอาใจใส่ดูแลมากนักก็สามารถเติบโตได้ ไม่ว่าจะอยู่กลางแดดหรือในร่มก็ไม่มีปัญหา จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่เป็นที่ต้องการของตลาด และด้วยสีสันที่สวยงามนี้ จึงทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตาเมื่อมอง อีกทั้งในแง่ของโหราศาสตร์ยังมีความเชื่อกันว่าบ้านใดที่ปลูกต้นสับปะรดสีนั้น จะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีชีวิตที่ราบรื่นรุ่งเรือง ชีวิตไร้อุปสรรคใด ๆ ในการดำเนินชีวิต จึงถูกโฉลกกับคนไทยสายมูฯ ทำให้เหล่าคนรักต้นไม้ต่างหามาปลูกกันมากมาย

สับปะรดสี ปลูกที่ไหนถึงจะได้ใบสวย

ต้นสับปะรดสีชอบพื้นดินที่ไม่เฉอะแฉะ ปริมาณแสงที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและเหมาะกับการออกดอกคือบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง แต่ไม่ร้อนจนเกินไป ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือตำแหน่งที่ต้นสับปะรดสีสามารถรับแสงได้ในช่วงครึ่งเช้า ซึ่งจะดีกว่าช่วงครึ่งบ่าย ในหน้าร้อนอากาศอาจจะร้อนเกินไป สามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการหาผ้าใบมากางให้ร่มเงา หรือนำไปวางไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ ๆ เพื่ออาศัยร่มเงาป้องกันการเกิดใบไหม้ของต้นสับปะรดสี

หากต้องการปลูกไม้ชนิดนี้ในบ้านหรือในคอนโด แนะนำให้เลือกสถานที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ลมพัดผ่านบ้าง และมีความชื้นที่เหมาะสมและไม่แห้งเกินไป รับรองว่าต้นสับปะรดสีจะให้สีใบที่ดูสวยและต้นไม้ดูสุขภาพดีแน่นอน

สับปะรดสี ไม้มงคล

ส่วนประกอบของต้นสับปะรดสี มีอะไรในไม้มงคลนี้บ้าง

ต้นสับปะรดสี ถือเป็นพันธุ์ไม้ประดับที่มีความโดดเด่นในเรื่องของความสวยงาม อีกทั้งยังดูแลง่าย แต่การรู้สรีระของต้นไม้ชนิดนี้จะช่วยให้คุณดูแลมันได้ถูกต้องและตอบโจทย์ความต้องการของพรรณไม้ชนิดนี้มากขึ้น

ลักษณะของลำต้น

ลำต้นของสับปะรดสีจะถูกห่อหุ้มด้วยใบกลีบแข็ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ต้นใหม่ ๆ จะงอกขึ้นมารอบ ๆ ลำต้น ซึ่งต้นใหม่เล็ก ๆ นี้ คุณสามารถนำไปปลูกแยกกระถางใหม่ได้

ลักษณะของใบ

ต้นสับปะรดสีเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่มใบเป็นกลีบค่อนข้างแข็ง กางแผ่ขยายออกไปรอบลำต้นดูคล้ายวงกลม ด้านบนของใบมีลวดลายและสีสันที่สวยงาม

ลักษณะของดอก

ดอกของต้นสับปะรดสีนั้นมีลักษณะเป็นช่อดอกยาว ค่อนข้างสูง กลีบของดอกมีสีสันฉูดฉาดอยู่ได้นานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน

สายพันธุ์ของต้นสับปะรดสี รู้ไว้ ไม่ตกเทรนด์

ต้นสับปะรดสีที่นิยมนำมาปลูกนั้นมีแดังนี้

สายพันธุ์จักรพรรดิ

เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ รูปทรงสวยงาม ชอบแดดจัด

สายพันธุ์แคระ

เป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดเล็กจิ๋ว สามารถปลูกใส่กระถ่างเล็ก ๆ โดยตั้งไว้นอกบ้านหรือในบ้านก็ได้

ต้นสับปะรดสีทั้ง 2 สายพันธุ์นั้น เป็นที่นิยมปลูกในหมู่คนไทย หากเดินผ่านตามหน้าบ้านหลังใหญ่ ๆ คุณอาจจะเห็นต้นสับปะรดสีสายพันธุ์จักรพรรดิ แต่หากคุณมีโอกาสไปเยี่ยมเพื่อน ๆ หรือคนรู้จักในบ้าน เพื่อน ๆ หรือคนรู้จักของคุณอาจจะมีต้นสายพันธุ์แคระอยู่ในบ้านก็เป็นได้

วิธีการปลูกสับปะรดสี ปลูกยังไงให้ได้ต้นสวย

การปลูกต้นสับปะรดสี สามารถทำได้ 2 วิธี คือการแตกหน่อและการเพาะเมล็ด โดยการปลูกทั้ง 2 วิธีนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน และสามารถทำได้ ดังนี้

การแตกหน่อ

  • ต้นสับปะรดสี จะออกดอกและให้หน่อมาประมาณ 7-8 หน่อ
  • ใช้มีดหรือกรรไกรตัดหน่อให้ชิดโคน
  • สามารถนำหน่อใหม่เหล่านั้นไปปลูกในกระถางโดยไม่ต้องใช้ดินก็ได้ เพียงแค่ใช้กาบมะพร้าวสับ หน่อก็โตได้

ข้อดี: เนื่องจากเป็นการใช้กาบมะพร้าวในการปลูก จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนดินเป็นประจำ

ข้อเสีย: พืชชนิดนี้ต้องการวัสดุปลูกที่มีความเบาและระบายน้ำได้ดี ไม่เช่นนั้นอาจทำห้ต้นเน่าได้

การเพาะเมล็ด

  • เลือกเมล็ดดี ๆ ในการนำมาเพาะ โดยให้เลือกเทล็ดที่มีสีม่วง เมล็ดเต่ง ๆ
  • นำเมล็ดมาล้างน้ำให้สะอาด
  • โรยเมล็ดลงในสถานที่เพาะ
  • ใช้เวลาเพาะประมาณ 2 เดือน แล้วปลูกแยกกระถาง

ข้อดี: ได้ความหลากหลายทางสายพันธุ์ของต้นสับปะรดสี

ข้อเสีย: บางครั้งการคักเมล็ดพันธุ์นั้นอาจได้ต้นที่ไม่แข็งแรง หรือเมล็ดเสียหากสภาพแวดล้อมนั้นไม่เหมาะสม

ต้นสับปะรดสี ลักษณะต้น

วิธีการดูแลให้สับปะรดสีอยู่กับเราไปนาน ๆ

การจะดูแลพืชสายพันธุ์ไหน ๆ ให้รอดและเติบโตอยู่กับเราไปนาน ๆ นั้น จำเป็นต้องรู้ว่าเราควรดูแลพันธุ์ไม้นั้นอย่างไร เพราะต้นไม้ที่ต่างชนิดดัน ย่อมต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน มาดูกันดีกว่า ว่าเราจะดูแลต้นสับปะรดสีอย่างไรได้บ้าง

การให้น้ำ

ต้นสับปะรดสี เป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำมาก ดังนั้น รดน้ำสัก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว วิธีการสังเกตว่าพืชต้องการน้ำหรือไม่ ให้ดูที่ยอดกลางต้น หากยอดยังชุ่ม ๆ อยู่ แปลว่ายังไม่ต้องการน้ำ แต่หากยอดกลางต้นแห้ง นั่นหมายความว่าพืชต้องการน้ำแล้ว

แสงแดด

ถึงแม้ว่าจะสามารถปลูกในบ้านหรือในที่ร่มแล้ว แต่การจะให้สับปะรดสีมีใบที่ดูสวยสดและมีสีสันสดใสนั้น จำเป็นต้องปลูกกับแดด เพราะพืชชนิดนี้เป็นพืชที่ชื่นชอบแดดพอสมควร แดดในช่วงเช้าไปจนถึงช่วงบ่ายจะช่วยให้ใบมีสีที่ดูสดขึ้น แต่แดดที่ร้อนแรงจนเกินไป ก็อาจทำให้ใบไหม้ได้

ประโยชน์ของสับปะรดสีที่เป็นได้มากกว่าแค่ไม้มงคล

ต้นสับปะรดสี นอกจากจะเป็นไม้มงคลที่คนไทยต่างนิยมปลูกกันแล้ว ยังเป็นต้นไม้ที่สามารถฟอกอากาศได้ พืชชนิดนี้มีความสามารถในการคายออกซิเจนออกมา และดูดซับเอาคาร์บอนไดออกไซด์กลับเข้าไป จึงเหมาะมาก ๆ ที่จะปลูกไว้ในห้องนอน เพราะช่วยฟอกอากาศเสียให้กลับมาบริสุทธิ์ได้

งบเท่าไหร่ ถึงจะซื้อสับปะรดสีได้

ต้นสับปะรดสีนั้นมีอยู่หลายสายพันธุ์และขนาด คุณไม่ต้องมีเงินเยอะ ๆ ก็สามารถซื้อต้นสับปะรดสีได้ โดยต้นสับปะรดสีมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 40-100 บาทต่อต้นแล้วแต่แหล่งซื้อ แต่ราคาประมาณนี้จะได้ต้นเล็ก ๆ เท่านั้น แต่หากต้องการต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ราคาก็มีให้เลือกตั้งแต่ 120 บาท ไปจนถึง 800 บาทต่อต้นขึ้นอยู่กับขนาดและความสวยของต้น นอกจากนี้ ต้นที่ขายเป็นหน่อจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่า

หากใครที่กำลังมองหาต้นไม้มงคลที่ให้ความหมายดี ๆ มอบชีวิตที่ราบรื่นไร้อุปสรรค เราแนะนำต้นสับปะรดสี เพราะนอกจากจะช่วยในเรื่องของการใช้ชีวิตที่ราบรื่นแล้ว ยังมีใบและดอกสีสวยงาม แถมยังเลี้ยงง่ายอีกด้วย

แหล่งอ้างอิง : http://www.eto.ku.ac.th/

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้