สาบเสือ วัชพืชประโยชน์เกินคาด

สาบเสือ ภาษาอังกฤษคือ Siam Weed และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chromolaena odorata (L.) R.M.King & H.Rob. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Eupatorium odoratum L.)  สาบเสือมีชื่อเรียกตามท้องถิ่น เช่น หญ้าเสือหมอบ หญ้าดงร้าง หญ้าดอกขาว หญ้าเมืองวาย หญ้าดงรั้ง หญ้าลืมเมือง  และอื่นๆอีกมากมาย

งานวิจัยใบสาบเสือ
https://ascannotdo.wordpress.com

ต้นสาบเสือจัดเป็นวัชพืช  มีถิ่นกำเนิดในแถบอเมริกากลาง  เป็นพืชล้มลุกที่มีการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว จุดเริ่มต้นของต้นสาบเสือในทวีปเอเชีย  อยู่ในปี ค.ศ.1840 ที่สาบเสือถูกนำเข้ามาสู่อินเดีย  จากนั้นจึงแพร่กระจายไปยังที่ต่างๆ  สำหรับประเทศไทย  คาดว่า  เมล็ดสาบเสือปะปนมากับสินค้าจากประเทศคู่ค้า  โดยเริ่มเข้ามาทางภาคใต้ของประเทศ แล้วจึงแพร่กระจายต่อมายังภาคอื่นๆในช่วงปี พ.ศ.2483 ดังนั้น  สาบเสือจึงถือเป็นพืชรุกรานต่างถิ่น  ที่ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว  เนื่องจากการออกดอกแต่ละครั้งจะเกิดเมล็ดจำนวนมาก และเมล็ดของต้นสาบเสือ สามารถลอยตามลมได้  จึงยากแก่การยับยั้ง

สาเหตุที่เราเรียกพืชชนิดนี้ว่าต้นสาบเสือ  เนื่องจาก  ดอกต้นสาบเสือและใบของมันแทบไม่มีกลิ่นหอมเลย  แต่กลับมีกลิ่นสาบคล้ายกลิ่นเสือ  ถึงขั้นมีเรื่องเล่าว่า  หากเราต้องการหนีให้พ้นจากสัตว์ต่างๆที่จะเข้ามาทำอันตราย  ให้หนีเข้าดงสาบเสือ  สัตว์เหล่านั้นจะได้กลิ่นฉุนของสาบเสือ และไม่ได้กลิ่นคน

ดอกต้นสาบเสือ
https://oer.learn.in.th

ส่วนประกอบของต้นสาบเสือ

ลำต้น 

สาบเสือเป็นพืชขนาดเล็กที่สามารถแตกกิ่งก้านได้ตั้งแต่ระดับล่างของต้น  จนดูเหมือนเป็นพุ่มไม้หนาทึบ กิ่งก้านยาวกว่าลำต้น  มีขนนุ่มๆปกคลุม ลำต้นเป้นไม้เนื้อแข็งก็จริง แต่แตกหักง่ายมาก  เมื่อหักลำต้นออกจะเห็นเปลือกลำต้นมีสีขาวแกมเขียว

ใบ 

ใบสาบเสือมีลักษณะคล้ายสามเหลี่ยม ปลายใบแหลมเรียว  ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อย  มีเส้นใบมองเห็นได้ชัดเจน  มีขนนุ่มๆปกคลุมทั้งด้านบนและด้านล่างของใบ ใบสาบเสือจะออกเป็นใบเดี่ยวตรงบริเวณข้อแบบตรงกันข้าม  เมื่อนำมาขยี้จะมีกลิ่นแรง

ดอก

ดอกสาบเสือจะมีสีฟ้าอมม่วง หรือสีม่วงอ่อน  หากมองจากระยะไกลจะเห็นเป็นสีขาว  ลักษณะดอกจะออกเป็นช่อกระจุกอยู่ตรงยอด ดอกจะบานออกจนดูคล้ายร่ม โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด

เมล็ด

สีดำ เรียวยาวและบาง  ส่วนปลายเมล็ดมีขนทำหน้าที่พยุงเมล็ดเมื่ออยู่ในอากาศ  ทำให้เมล็ดสามารถลอยตามลมไปได้ไกล

ดอกสาบเสือ
https://mgronline.com

วิธีการปลูกสาบเสือ

โดยปกติ  สาบเสือจัดเป็นวัชพืชที่แพร่กระจายและเติบโตง่ายอยู่แล้ว  หากต้องการปลูกสาบเสือ  จึงไม่มีวิธีอะไรที่ซับซ้อน  มีเพียงการเตรียมพื้นที่ให้เหมาะสมกับต้นสาบเสือ  เช่น

  • สาบเสือชอบที่โล่ง  ที่สามารถเจอแดดได้ตลอดทั้งวัน  โดยเฉพาะที่ดินรกร้างที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่มาบดบังแสง  สาบเสือจะชอบเป็นพิเศษ
  • สามารถขึ้นได้ในดินทุกประเภท  
  • แพร่กระจายได้แม้สภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้งหรือชื้นแฉะ (ดังจะเห็นได้ว่าสามารถแพร่พันธุ์ได้ในทั่วทุกภาคของประเทศไทย)  แต่ถ้าให้เลือก สาบเสือชอบพื้นที่แห้งแล้งมากกว่า
  • สาบเสือขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ด  โดยดอก 1 ดอก สามารถให้เมล็ด 1 เมล็ด  ทั้งนี้ พบว่า  สามารถขยายพันธุ์สาบเสือได้ด้วยวิธีการปักชำด้วย
  • ไม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ  รดน้ำอาทิตย์ละครั้งเมื่อต้องการใบ  งดน้ำเมื่อต้องการดอก

ข้อควรระวังคือ  เมื่อมีต้นสาบเสือในพื้นที่  หน้าดินจะถูกปกคลุมด้วยต้นสาบเสืออย่างรวดเร็ว จนอาจมีผลกระทบต่อการเติบโตของพืชชนิดอื่น

วิธีกินใบสาบเสือ
https://mgronline.com

สาบเสือ สรรพคุณ

  • ใช้ปลูกเป็นพืชคลุมดิน  ป้องกันวัชพืชชนิดอื่น และป้องกันการพังทลายของหน้าดิน
  • ดอกสาบเสือใช้เป็นดัชนีชีวัดความแห้งแล้ง  กล่าวคือ เมื่ออุณหภูมิความแห้งแล้งถึงจุดหนึ่ง  เช่น เข้าฤดูหนาว หรือพื้นที่ขาดน้ำ สาบเสือจะออกดอก  
  • ใบสาบเสือ ใช้กำจัดปลวก ไล่แมลงหรือฆ่าแมลงได้
  • ใช้เป็นสมุนไพรในการห้ามเลือด  โดยการออกฤทธิ์ของสารประกอบฟลาโวนอยด์หลายชนิดร่วมกัน  ส่งผลให้เส้นเลือดหดตัว และยังช่วยกระตุ้นสารที่ทำให้เกล็ดเลือดแข็งตัว  เลือดจึงไหลช้าลง และหยุดไหลในที่สุด
  • ใช้ใบเป็นส่วนประกอบของยารักษาแผลสด  ช่วยให้แผลหายไว  ต้านการอักเสบ
  • ลำต้นใช้เป็นยาแก้ท้องอืด  ท้องเฟ้อ
  • ดอกใช้เป็นยาแก้ร้อนใน  กระหายน้ำ  และยังเป็นยาบำรุงหัวใจได้ด้วย
  • กิ่งและใบ  มีสารยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง
  • รากสาบเสือใช้แก้โรคกระเพาะ
  • ใช้ใบหมักผม ทำให้ผมดกดำ หงอกลดลง
  • ลำต้นและใบใช้บำบัดน้ำเสียได้  โดยพบว่า  ถ่านตากค้นสาบเสือ  สามารถดูดซับโลหะหนักในน้ำทิ้งได้ผลค่อนข้างดี
สาบเสือไล่แมลง
http://baimai.org

จะเห็นได้ว่า  แม้สาบเสือจะถูกจัดเป็นวัชพืช  แต่ก็ถือว่าเป็นวัชพืชที่มีประโยชน์มาก  ทั้งประโยชน์โดยรวมของต้นสาบเสือ  และสรรพคุณทางยาจากส่วนประกอบต่างๆของต้น  ดังนั้น  จึงไม่แปลกที่เกษตรกรบางกลุ่มจะหันมาปลูกต้นสาบเสือในเชิงพาณิชย์.

ที่มา

http://www.qsbg.org

http://blog.arda.or.th

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้