หวายทะนอย พืชยุคดึกดำบรรพ์หลายร้อยล้านปี

หวายทะนอย พืชโบราณ ที่ปัจจุบัน หาชมได้ยากและจัดเป็นไม้ประดับเพื่อการสะสม ที่เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ชื่นชอบ ไม้เก่า ไม้หายาก ไม้สะสมในบ้านเรา โดยกล่าวกันว่า หวายทะนอยพืชที่เกิดมาก่อนยุคไดโนเสาร์เสียอีกและอาจเป็นอาหารชนิดหนึ่งของไดโนเสาร์ด้วยนั่นเอง  ถึงแม้กาลเวลาจะล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน แต่พืชชนิดนี้ก็ยังเจริญเติบโตได้อยู่ และคงรักษาสายพันธุ์และรูปร่างไม่เคยเปลี่ยนแปลง มักพบตามแหล่งดินที่มีอินทรีย์วัตถุเป็นจำนวนมาก บางครั้งจึงนิยมเรียกว่า เฟิร์นดิน บ้างก็พบเห็นเกาะอยู่ตามต้นไม้ใหญ่ มีลักษณะคล้ายซากดึกดำบรรพ์ของพืช แต่เมื่อมีการศึกษาเปรียบเทียบลำดับเบสบนสายดีเอ็นเอ และ โครงสร้างอัปสปอร์ จะพบว่า หวายทะนอยมีความใกล้ชิดกับพืชในกลุ่มหญ้าถอดปล้อง หวายทะนอยจัดเป็นพืชที่หาค่อนข้างยากในโลกและในประเทศไทย จะพบได้ที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งสายพันธุ์ของพืชชนิดนี้ มี 2 ชนิดหลักๆ นั่นคือ หญ้าถอดปล้อง และ หวายทะนอย

หวายทะนอย ภาษาอังกฤษชื่อว่า Psilotum nudum หวายทะนอย ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า  Psilotum nudum (L.) P.Bcauv จัดอยู่ใน วงศ์  Psilotaceae และ อยู่ในไฟลัมเทอโรไฟตา (Phylum Pterophyta) จัดเป็นเฟินดิน ซึ่งถือเป็นพันธมิตรกับพืชตระกูลเฟินมาอย่างยาวนาน เป็นพืชชนิดเดียวที่หลงเหลืออยู่ของพืชตระกูลดีโวเนี่ยน Devonian Flora ซึ่งสูญพันธุ์ไปนานแล้ว

หวายทะนอย ภาษาอังกฤษ

ชื่อหวายทะนอย หรือ Nudum มีความหมายในภาษาละตินว่า เปลือย เนื่องจากพืชชนิดนี้เป็นพืชชนิดเดียวที่ไม่มีทั้งใบและราก ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของพืช พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจากวิวัฒนาการในการปรับตัวโดยการลดทอนส่วนประกอบเพื่อความอยู่รอดอันยาวนานในโลกใบนี้ 

ความเชื่อเกี่ยวกับต้นหวายทะนอย

หวายทะนอยจัดเป็นพืชที่ค่อนข้างหายาก และพบได้เพียงบางพื้นที่ โดยส่วนใหญ่จะพบในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย และขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ ด้วยความที่เป็นพืชที่ปลูกเลี้ยงได้ค่อนข้างยาก ต้องการดินที่มีอินทรียวัตถุมากๆ จึงจะเจริญเติบโตได้อย่างดี คนไทยทางเหนือจึงมีความเชื่อว่า หากบ้านใดที่สามารถปลูก ต้นหวายทะนอยได้อย่างสวยสดงดงามก็จะทำให้สุขภาพของคนในบ้านแข็งแรงและมีอายุยืนยาว อีกทั้งยังเป็นไม้สะสมที่นักเลง เฟิร์น ต่างต้องการมีไว้ครอบครอง เพื่อเสริมสง่าบารมีให้กับเจ้าของนั่นเอง

ทำความรู้จักเบื้องต้นกับหวายทะนอย

หวายทะนอยเป็นพืชที่มีการกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางในพื้นที่ เขตร้อน และกึ่งร้อนของทวีปอเมริกา แอฟริกา เอเชีย และออสตราเลเซีย

หวายทะนอย มักพบตามแหล่งดินที่มีอินทรีย์วัตถุเป็นจำนวนมาก บางครั้งก็หลบตัวเกาะตามต้นไม้ใหญ่ มีลักษณะคล้ายซากดึกดำบรรพ์ของพืช แต่เมื่อมีการศึกษาเปรียบเทียบลำดับเบสบนสายดีเอ็นเอ และ โครงสร้างอัปสปอร์ จะพบว่า หวายทะนอยมีความใกล้ชิดกับพืชในกลุ่มหญ้าถอดปล้อง หวายทะนอยเป็นพืชที่หาค่อนข้างยากในโลกและในประเทศไทย จะพบได้ที่ทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยพบเป็นกอเล็กๆ ตามซอกหิน ซอกภูเขา บางคนเชื่อว่า หวายทะนอยถือเป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้โบราณที่มีมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์ โดยเชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่หลายร้อยล้านปีก่อนหรือก่อนยุคไดโนเสาร์ และอาจเป็นอาหารชนิดหนึ่งของไดโนเสาร์ด้วยนั่นเอง 

ลักษณะของหวายทะนอย

หวายทะนอย โครงสร้างมีท่อลำเลียงเฉพาะในส่วนของลำต้น โดยมีลำต้นใต้ดินที่เรียกว่า เหง้า (rhizome) ซึ่งมีสีน้ำตาลอ่อน เป็นพืชที่ไม่มีราก มีแต่ ไรซอยด์ (rhizoid) ที่ทำการยึดเกาะดิน และทำหน้าที่ดูดน้ำและเกลือแร่ ลำต้นที่เห็นโดยทั่วไป เป็นระยะสปอร์โรไฟต์ ลำต้นชูขึ้นมาเหนือดินมีสีเขียว เรียกว่า แอเรียลสเตม (Aerial Stem)  มีลักษณะเป็นเส้นเหมือนแส้ แตกกิ่งแบบไดโคโตมัส ทำหน้าที่สังเคราะห์แสง  ส่วนลำต้นที่อยู่ใต้ดินมีขนาดเล็ก มีสีน้ำตาลและมีขนเล็กๆปกคลุม ลำต้นแตกเป็นคู่ เมื่อเติบโตเต็มที่ จะสร้างอัปสปอร์ ที่มีลักษณะเป็น 3 พู มีสีเขียว รูปร่างค่อนข้างกลม มีขนาดประมาณ 2-2.5 x 2-2.5 มิลลิเมตร แต่เมื่อแก่จัด จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง โดยการแบ่งเซลล์แบบไมโอซีส หวายทะนอยเป็นพืชที่ไม่มีใบ จะมีก็แต่ใบเกล็ด (scale) อยู่บนลำต้นเท่านั้น แต่ใบเกล็ดนี้ไม่มีท่อลำเลียง จึงไม่นับว่าเป็นใบของต้น ตำแหน่งของใบเกล็ดแต่ละเกล็ดจะหมุนเวียนไปรอบต้น ลำต้นมีความสูงประมาณ 20-50 เซนติเมตร มีลักษณะคล้ายประทัดจีน โดยลำต้นจะมีการแตกกิ่งเป็น 3-5 กิ่ง แต่ละกิ่งจะเป็นรูปเหลี่ยม โดยประมาณ 5-6 เหลี่ยม โดยกิ่ง อาจมีความยาวได้ถึง 80 เซนติเมตร เลยทีเดียว และมีเส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้น 2-3 มิลลิเมตร

หวายทะนอย โครงสร้าง
https://pichipaporn.wordpress.com

วิธีเพาะปลูก 

หวายทะนอย วิธีเลี้ยงและการปลูกนี้ ค่อนข้างยาก ต้องใช้ดินที่มีอินทรีย์วัตถุมาก ๆ หรือเศษไม้ผุแต่ต้องไม่หนามากนัก หรือกระเช้าสีดาสับก็ได้ และจะเติบโตได้ดีที่สุด หากได้รับแสงแดดและมีร่มเงา 

หวายทะนอย สืบพันธุ์จะใช้สปอร์เป็นหลัก โดยเมื่อสปอร์แก่จัดก็จดตกลงใต้ต้น หรือปลิวตามลมไปตกในที่ที่เหมาะสมแก่การเติบโต และจะขยายพันธุ์ต่อไป อย่างไรก็ตาม หากอยากทำการเพาะปลูกเพื่อเป็นอาชีพ ก็สามารถทำได้ 2 วิธี

หวายทะนอย สืบพันธุ์

1. การใช้สปอร์

โดย การเตรียมกระถางเพาะไว้ เลือกใบหวายทะนอยที่มีสปอร์แก่จัด จากนั้นก็ขูดสปอร์ที่แก่จัดลงในกระถาง และพักเก็บไว้ในที่ร่มและชื้น เมื่อหวายทะนอยเติบโตขึ้นเป็นต้นกล้า ก็สามารถแยกกล้าไปปลูกในกระถางปลูกต่อไป วิธีการนี้ จะมีข้อดีคือ จะได้หวายทะนอยหลายต้นจากการปลูกหนึ่งครั้ง

หวายทะนอย วิธีเลี้ยง

2. การแบ่งกอ

โดย การเลือกเหง้าของหวายทะนอยที่มีราก ไรซอยด์ เมื่อเลือกแล้วก็ตัดด้วยมีดที่คม จากนั้นนำไปเพาะในกระถางแบบแขวน โดยให้มีแสงสว่างและความชื้นที่เพียงพอ ซึ่งวิธีนี้มีข้อดีคือ จะได้ต้นกล้าที่มีความแข็งแรง มีสีเขียว และเติบโตได้อย่างรวดเร็ว 

หวายทะนอยมีดอกไหม
https://www.nanagarden.com

ประโยชน์ของหวายทะนอย 

โดยทั่วไป หวายทะนอย ประโยชน์คือมักจะนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นไม้ประดับ และเนื่องจากเป็นพืชโบราณ อีกทั้งการปลูกและการดูแลรักษาค่อนข้างยาก ดังนั้น การปลูกหวายทะนอยเพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ ก็สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือนได้เป็นอย่างดีทีเดียว โดยทั่วไปในปัจจุบัน หวายทะนอยมีราคาซื้อขายที่ต้นละ 200-400 บาทกันเลยทีเดียว

หวายทะนอย หรือ Psilotum nudum เป็นพืชกระถางที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ ซึ่งนำไปสู่การคัดเลือกพันธุ์ที่หลากหลายและมีชื่อที่นิยมเรียกในสมัยนั้น เช่น flying proud pavilion เป็นต้น

หวายทะนอย ยังมีการนำมาชงเป็นชา โดยใช้ทั้งต้น และบางครั้งใช้สปอร์มาแปรรูปเป็นแป้งสำหรับปัดฝุ่นให้แห้งได้ด้วย

หวายทะนอย สรรพคุณ
https://km.nssc.ac.th

สรรพคุณ

ในประเทศอินเดีย มีการศึกษาวิจัยถึงสรรพคุณของหวายทะนอย และพบว่าหวายทะนอย สรรพคุณมีการแก้อาการท้องผูก และช่วยในเรื่องของผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจได้ อีกทั้งหากผสมกับขมิ้น ก็สามารถช่วยรักษาบาดแผลและสมานแผลให้หายเป็นปกติได้ โดยการสกัดเอาส่วนที่สำคัญของต้นออกมาเพื่อทำเป็นยาปฏิชีวนะในการรักษาบาดแผล.

ราคาต่อต้นโดยประมาณ

ในปัจจุบัน หวายทะนอยมีราคาซื้อขายที่ต้นละ 200-400 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและความสมบูรณ์ของลำต้น

ที่มา

https://sc.sci.tsu.ac.th/

https://www.nana-bio.com/

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้