กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณมากล้นไม่ใช่แค่นำมาทำน้ำดื่มดับกระหาย

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับน้ำกระเจี๊ยบสีแดง รสชาติหวานอมเปรี้ยว ยิ่งดื่มเวลาอากาศร้อนๆช่วยให้สดชื่นและดับกระหายได้ดียิ่งนัก และยังเป็นหนึ่งในสายพันธ์ุของกระเจี๊ยบอีกด้วย แต่น้อยคนนักจะรู้ว่านอกจากรสชาติของน้ำดื่มที่อร่อย ทานง่ายแล้วนั้น กระเจี๊ยบแดง ประโยชน์ยังมีอื่นๆอีกมากมาย บางคนถึงกับกล่าวว่าเป็นสุดยอดผักสมุนไพรที่ช่วยรักษาและป้องกันโรคต่างได้ดี แต่ว่าข้อดีของกระเจี๊ยบแดงนั้นจะมีอะไรบ้าง บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับกระเจี๊ยบแดงให้มากขึ้น

กระเจี๊ยบแดง ภาษาอังกฤษ
http://www.chaowangherbs.com

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และแหล่งที่มาของกระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดง ภาษาอังกฤษคือ Jamaican Sorel, Roselle) กระเจี๊ยบแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hibiscus sabdariffa  L. ถูกจัดอยู่ในวงศ์ Malvaceae เช่นเดียวกับกระเจี๊ยบเขียว นอกจากนี้กระเจี๊ยบแดงยังมีชื่อเรียกอื่นๆตามแต่ละท้องถิ่นอีก เช่น กระเจี๊ยบเปรี้ยว ผักเก็งเค็ง ส้มเก็งเค็ง เป็นต้น กระเจี๊ยบแดงเป็นพืชทรงพุ่ม มีความสูงประมาณ 1-2.5 เมตร ลำต้นมีสีม่วงอมแดงขนาดลำต้นประมาณ 1-2 เซนติเมตร เปลือกลำต้นบางเรียบ สมารถลอกออกมาเป็นเส้นได้ กระเจี๊ยบแดงจะมีการแตกกิ่งก้านตั้งแต่โคนต้นขึ้นมา เมื่อครั้งยังเป็นต้นอ่อนจะมีสีเขียวสด แต่พอเริ่มแก่ ลำต้นและกิ่งจะมีสีแดงอมม่วง ใบของกระเจี๊ยบแดงเป็นระบบใบเลี้ยงเดี่ยว ออกเรียงสลับตามความสูงของกิ่ง มองดูแล้วคล้ายปลายหอก ยาวประมาณ 7-13 เซนติเมตร มีขนปกลุมทั่วทั้งใบ ลักษณะของใบคือโคนโค้งมน ในส่วนปลายเว้าลึกคล้ายกับนิ้วมือ 3 นิ้ว หรืออาจเป็น 5 แฉก ระยะระหว่างแฉกจะอยู่ที่ 0.5-3 เซนติเมตร ในใบด้านล่างจะมีเส้นใบที่นูนเด่นออกมาและมีต่อมบริเวณโคนเส้นอยู่ ส่วนใบที่มีอายุน้อย จอยู่ใกล้ดอกและลักษณะรูปร่างของใบคล้ายไข่ แต่ในบางพันธุ์ของกระเจี๊ยบแดง ใบจะไม่มีแฉก แต่จะเป็นลักษณะโคนใบมนและปลายเรียวยาวแทน

กระเจี๊ยบแดง ชื่อวิทยาศาสตร์
https://ml.wikipedia.org

ในส่วนของดอกของกระเจี๊ยบแดงนั้น จะมีการออกดอกแบบดอกเดี่ยว โดยดอกกระเจี๊ยบแดงจะแทงออกมาจากซอกของใบตั้งแต่โคนกิ่งจนสุดปลายกิ่ง ตัวดอกกระเจี๊ยบแดงนั้นมีก้านดอกที่สั้น สีแดงอมม่วง มีกลีบเลี้ยงประมาณ 5 กลีบ หุ้มที่ดอกบนสุด มีลักษณะอวบหนา และใหญ่ มีสีแดงเข้ม ลักลีบรองด้านล่างสุดมีขนาดเล็ก จำนวน 8-12กลีบ โดยกลีบทั้งสองชนิดนี้จะอยู่ติดกับดอกจนถึงติดผล และเมื่อผลแก่ก็จะไม่ร่วงหล่นลงมา ผลของกระเจี๊ยบแดงนั้นเจริญมาจากดอกที่ถูกหุ้มอยู่ด้านในของกลีบเลี้ยง มีรูปร่างกลมรีคล้ายไข่ ยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร มีขนสีเหลืองปกคลุมทั่ว รากของกระเจี๊ยบแดงนั้นมีทั้งระบบรากแก้วแล้วแตกแขนงออกมาเป็นรากฝอย ตัวรากจะฝังลงไปในดินในความลึกที่ไม่มากนัก

กระเจี๊ยบแดง ทำอะไรได้บ้าง

วิธีการปลูกและดูแลรักษากระเจี๊ยบแดง

ปัจจุบันพันธุ์ของกระเจี๊ยบแดงที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทยคือ พันธุ์ซูดาน ซึ่งนำเข้ามาจากประเทศซูดานตั้งแต่พ.ศ. 2510 มีลักษณะเป็นพืชทรงพุ่มตามที่กล่าวมาข้างต้น ดอกมีหลากหลายสี ทั้งสีแดง และสีเหลือง ให้รสชาติเปรี้ยวจัด หลายคนนิยมปลูกกระเจี๊ยบแดงเนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่าย เพราะชอบอากาศร้อน ทนต่อความแห้งแล้ง ไม่ชอบน้ำขัง และเมื่อออกผลก็สามารถขายได้ราคา ดังนั้นการเตรียมปลูกกระเจี๊ยบแดง ต้องเริ่มจากเตรียมหลุมปลูก ใส่ปุ๋ยคอก แล้วปลูกโดยใช้วิธีหยอดเมล็ดลงหลุม หลุมละประมาณ4-5เมล็ด ระยะห่างระหว่างหลุมควรอยู่ที่ประมาณ 1 เมตร เมื่อหยอดเมล็ดเสร็จแล้วให้กลบหน้าดินเล็กน้อย เมื่อกระเจี๊ยบแดงเริ่มงอกต้นกล้าขึ้นมา ให้ถอนต้นกล้าทิ้งหลุมละ 2-3 ต้น เพื่อให้ไม่แออัดจนเกินไปเมื่อต้นเริ่มโตขึ้น เมื่อเข้าสู่ช่วงเริ่มเจริญเติบโต ที่อายุประมาณ 10-15 วัน และ 40-50 วัน ให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเสริมสร้างสารอาหารให้กับต้นกระเจี๊ยบแดง และไม่ควรใส่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง จะทำให้ใบและฝักโตเร็วเกินไปและเกิดโรคง่าย ในช่วง 1-2 เดือนแรกควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอก่อน หลังจากนั้นสามารถปล่อยได้ตามธรรมชาติ เนื่องจากกระเจี๊ยบแดงทนต่อสภาวะแล้งได้อย่างดี เมื่อถึงช่วงอายุที่เก็บเกี่ยวได้ ให้ทำการเก็บเฉพาะดอกของกระเจี๊ยบแดง โดยใช้กรรไกรหรือมีด หลังเก็บเกี่ยวดอกกระเจี๊ยบแดงไปแล้วให้เหล็กแหลมแทงเอาเมล็ดออกจากกระเปาะหุ้มเมล็ดภายใน แล้วนำส่วนกลีบดอกของกระเจี๊ยบแดงไปตากแดด 4-7 วัน ให้แห้งสนิทแล้วทำการจัดเก็บเพื่อนำไปใช้งานหรือจัดจำหน่ายต่อได้นั่นเอง

กระเจี๊ยบแดง ข้อควรระวัง
https://www.xn--12cg3cq6bmlr1hc3fujdh.com

คุณประโยชน์และสรรพคุณของกระเจี๊ยบแดง

กระเจี๊ยบแดง 100 กรัมนั้นสามารถให้สารอาหารได้หลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินเอ น้ำตาลฟรุกโตส ซึ่งสารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นสรรพคุณของกระเจี๊ยบแดงจึงมีดังนี้

  1. กระเจี๊ยบแดงช่วยในการย่อยอาหาร เนื่องจากภายในกระเจี๊ยบแดงนั้นพบกรดซิตริกที่ให้รสเปรี้ยวและมีสรรพคุณในการช่วยย่อยอาหารอักด้วย
  2. บำรุงเซลล์ผิวและช่วยต้านอนุมูลอิสระ ด้วยสรรพคุณของวิตามินซีที่อยู่ในกระเจี๊ยบแดง
  3. ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ โดยการนำดอกกระเจี๊ยบแดงมาแปรรูปเป็นน้ำกระเจี๊ยบ ให้รสเปรี้ยว สดชื่น
  4. ลำต้นของกระเจี๊ยบแดงสามารถนำมาผลิตเป็นกระดาษสาได้
  5. นอกจาอกนี้ดอกกระเจี๊ยบแดงยังสามารถนำไปประกอบขนมหรือของหวานอื่นๆได้อีก เช่น แยม ไอศกรีม เยลลี่
  6. เนื่องจากกระเจี๊ยบแดงนั้นให้สีแดง จึงสามารถนำมาสกัดเป็นสีผสมอาหาร หรือสีย้อมผ้าได้.
กระเจี๊ยบแดง ประโยชน์
http://oknation.nationtv.tv

ที่มา

http://www.rspg.or.th

https://www3.rdi.ku.ac.th

แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความนี้