มินิมอล

แต่งห้องมินิมอลแบบน้อยแต่มากด้วย 7 ไม้ประดับที่ Kaset today อยากแนะนำ

Facebook

มินิมอล (Minimal) หมายถึง ความเรียบง่าย ธรรมดา ไม่ซับซ้อน การทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยรายละเอียดที่ีเต็มเปี่ยมไปด้วยความใส่ใจ คำนี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเมื่อถูกนำมาใช้กับไลฟสไตล์การแต่งตัวรวมไปถึงการแต่งบ้านในสไตล์มินิมอล ทีี่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ เป็นการแต่งบ้านแบบไม่เน้นสีสันมาก เรียบง่าย เน้นสีโทนสว่าง เฟอร์นิเจอร์จำนวนน้อยชิ้น หรือเลือกสิ่งของเครื่องใช้เท่าที่จำเป็นและทุกชิ้นต้องมีประโยชน์ในการใช้สอย ในปัจจุบันบ้านนิยมตกแต่งในสไตล์มินิมอลกันจำนวนมากและขยับเข้ามาในพื้นที่ที่เล็กลงอย่างห้องนอนหรือคอนโด

มินิมอล

การแต่งบ้านหรือห้องของเราให้เป็นไปตามแนวทางความมินิมอลนั้น แม้ว่าจะเป็นการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่ายแต่ก็มีหลักการหลายอย่างที่จะทำให้ห้องของเราออกมาในสไตล์ทั้งเรื่องพื้นที่ใช้สอย การคุมโทน เครื่องใช้ต่าง ๆ รวมไปถึงการหาพื้นที่เหมาะ ๆ สักส่วนของบ้านหรือห้องวางต้นไม้สวย ๆ สัก 2 – 3 ต้น เพราะส่วนใหญ่ห้องมินิมอลจะเน้นความสว่างและพื้นที่ว่าง ๆ ไว้ค่อนข้างเยอะ ต้นไม้จึงเป็นเหมือนของตกแต่งที่ห้องสไตล์นี้จะขาดไม่ได้เลยเพื่อช่วยเติมเต็มสีสันและความสดใสให้แก่ห้องของเราได้ด้วย ดังนั้น วันนี้นอกจากทาง Kaset today จะมารวบรวมไอเดียการแต่งห้องแบบมินิมอลมาให้แล้วก็ไม่พลาดที่จะรวบรวมพันธุ์ไม้ประดับสวย ๆ ที่ให้เราได้ใช้ในการแต่งห้อง รับรองว่าปลูกง่าย เป็นไม้ฟอกอากาศได้ด้วย ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันว่าวันนี้เรามีข้อมูลอะไรดี ๆ มาฝากกันบ้าง

ห้องมินิมอล

รวมไอเดียการแต่งห้องสไตล์มินิมอล

  1. ใช้โทนสีอ่อนและสีเบส: สไตล์มินิมอลจะใช้โทนสีในการตกแต่งไม่มากนัก และส่วนใหญ่จะเป็นสีพื้นที่ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับห้อง โทนสีที่ใช้สำหรับบ้านสไตล์มินิมอล ควรเป็นสีออกโมโนโทนหรือสีอ่อน ๆ เช่น สีขาว, เทาอ่อน, เทาเข้ม, น้ำตาลอ่อน
  2. เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น: ในการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจะเน้นคำว่า น้อยแต่มาก ในเชิงน้อยชิ้นแต่มากด้วยประโยชน์ ทำให้โดยส่วนใหญ่จะมีเพียงโซฟา ชั้นวาง หรือของตกแต่งเพียงเล็กน้อยในห้องนั่งเล่นเท่านั้น
  3. ทำพื้นไม้หรือพื้นลามิเนต: เป็นวัสดุที่มีในธรรมชาติ มีโทนสีที่สบายตา โทนอ่อน ดูอบอุ่น สวยงามและเป็นพื้นที่ทนทาน ติดตั้งง่าย อีกทั้งถ้ามีพื้นไม้หรือพื้นลามิเนต จะทำให้ในการตกแต่งสไตล์มินิมอลง่ายดายมาก เนื่องจากสามารถเข้าได้กับสิ่งของ เครื่องใช้ได้หลากหลาย
  4. ใช้แสงจากธรรมชาติมากกว่าแสงจากหลอดไฟ: การเพิ่มช่องทางในการให้แสงส่องผ่านเข้ามาภายในบ้านนั้น ช่วยทำให้เราประหยัดเงิน และได้โทนสีสว่างจากธรรมชาติ เหมาะกับสไตล์มินิมอล ทั้งนี้อาจจะเลือกใช้ผ้าม่านในโทนสีขาวหรือสีเอิร์ธโทน หรืออาจจะใช้ผ้าม่านที่สามารถให้แสงทะลุผ่านได้มากกว่าปกติก็สามารถช่วยเพิ่มความมินิมอลได้เป็นอย่างมาก
  5. มุมธรรมชาติ: อย่างที่บอกว่าห้องมินิมอลกับความเป็นธรรมชาติเป็นเรื่องที่อยู่คู่กัน ดังนั้น ในห้องควรมีสักมุมที่สามารถวางต้นไม้ ไม้ดอกไม้ประดับได้เพื่อให้เป็นมุมสบาย ๆ ผ่อนคลายสายตา ซึ่งทั้งนี้ต้นไม้ที่เข้ากับการตกแต่งสไตล์มินิมอล ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่มีขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เพื่อให้เหมาะกับการแต่งห้องแนวมินิมอลที่ยังคงเหลือพื้นที่ใช้สอยอยู่และสามารถช่วยฟอกอากาศได้อีกด้วย ถือว่าเข้ากับคอนเซ็ปต์น้อยแต่มากด้วยประโยชน์

7 ไม้ประดับยอดฮิตของสายแต่งห้องมินิมอล

หลังจากที่เราได้ไปศึกษาไอเดียการแต่งห้องสไตลืมินิมอลแล้ว เราจะพามาดูของตกแต่งชิ้นสำคัญอย่างต้นไม้สวย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ห้องมินิมอลธรรมดา ๆ ของเราดูมีอะไรขึ้นมา อีกทั้งยังถือเป็นการหาต้นไม้มาช่วยฟอกอากาศในห้องไปในตัวด้วย

มอนสเตอรา

มอนสเตร่า (Monstera): มีจุดเด่นที่ใบเดี่ยวขนาดใหญ่ โคนใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจ ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบหยักลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ 5 แฉก ใบหนาผิวมัน มีทั้งสีเขียวเข้มและใบด่าง ออกดอกตามซอกใบ มีผลสีเขียว จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อผลสุกและส่งกลิ่นแรง เป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดปานกลาง หากจะปลูกในบ้านควรวางไว้ในที่มีแดดรำไร เลี่ยงพื้นที่ที่โดนแสงแดดแรงโดยตรงแล้วรดน้ำสัปดาห์ละครั้ง

ยางอินเดีย

ยางอินเดีย (Rubber Plant or India Rubber Fig): เป็นต้นที่ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยวทรงรีหรือรูปไข่ ปลายเรียวแหลม ขอบเรียบ ผิวใบมันวาว ต้นสามารถสูงสุดที่ 30 เมตร ออกดอกเป็นดอกสีขาว กลีบดอกใหญ่ เรียงสลับไปมา 2 ชั้น นิยมปลูกในกระถาง น้ำไม่ชอบน้ำแฉะ รดน้ำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์

ลิ้นมังกร

ลิ้นมังกร (Bowstring Hemp): มีใบที่แบน รูปแถบ กว้าง 1.5-2 เซนติเมตร ยาว 30-50 เซนติเมตร ปลายเรียวแหลม ใบแข็งหนา ขอบใบงุ้มงอขึ้นเป็นร่อง สีเขียวสลับสีเขียวเทา นิยมในกระถาง ชอบแดดรำไรถึงครึ่งวัน มีอากาศถ่ายเท รดน้ำวันละ 1 ครั้ง

เขียวหมื่นปี

เขียวหมื่นปี (Aglaonema): นิยมปลูกในกระถางในร่มหรือปลูกลงดินในแปลง ชอบความชุ่มชื่น ไม่ชอบแสงแดดโดยตรง เป็นต้นไม้ที่มีการเจริญเติบโตช้า มีลำต้นตั้งตรง ข้อถี่ แตกใบอ่อนตรงส่วนยอดของลำต้นทีละใบ ใบมีรูปคล้ายใบพาย แคบ ยาวเรียว ออกดอกเป็นกลุ่มสีเขียวอ่อน หรือสีขาวอมเขียว เป็นพืชที่ไม่ต้องการน้ำ และแสงแดดมากนัก ตั้งกระถางในที่ที่แสงแดดส่องถึงบ้างเล็กน้อยก็ควรบำรุงด้วยการใส่ปุ๋ยคอกละลายน้ำเดือนละ 1 ครั้ง รดน้ำให้หน้าดินชื้นเท่านั้น

ไทรใบสัก

ไทรใบสัก (Fiddle Leaf Fig): ต้นสูงได้ถึง 12 เมตร เปลือกลำต้นสีน้ำตาลปนเทา ใบมีรูปรีกว้างถึงรูปกลม โคนใบรูปหัวใจ ปลายใบมีหนาม แผ่นใบสีเขียวเข้มเป็นมัน มีหูใบหุ้มยอด ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี แสงแดดปานกลางถึงรำไร ในการรดน้ำในรดวันละ 1 ครั้งหรือสองวันต่อ 1 ครั้ง  

ซานาดู

ซานาดู (Philodendron): มีลำต้นที่สูงประมาณ 1 เมตร มีรากออกตามข้อ แตกกอเป็นพุ่ม ก้านใบยาว ใบมีรูปหอก ขอบใบหยัก มีความเว้าลึกที่ไม่เท่ากัน ใบมีสีเขียวเข้ม ดอกมีสีม่วงเข้ม หรือม่วงแกมแดงเข้ม เป็นต้นที่ชอบอยู่กลางแจ้งหรือร่มรำไร เป็นไม้เลื้อยที่เลี้ยงง่าย ปลูกในดินร่วนสามารถระบายน้ำได้ดี ควรรดน้ำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง

ต้นจั๋ง

ต้นจั๋ง (Lady palm): เป็นปาล์มที่มีขนาดเล็ก มีลำต้นมีขนาดเท่าหัวแม่มือ ลำต้นคล้ายไผ่ แข็งแรงมาก ใบมีสีเขียวเข้ม เป็นมันรูปใบพัด มีใบย่อยประมาณ 5-10 ใบ ก้านใบเล็ก มีสีเขียวและแข็งยาวประมาณ 12 นิ้ว เป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดมาก รดน้ำวันละ 1 ครั้ง เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักปีละ 2 ครั้ง

หลังจากที่ได้ไปรู้จักกับ 7 ไม้ประดับที่เรานำมาวันนี้แล้ว เชื่อว่าคงมีหลายต้นที่เราเคยเหนผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้ว เพราะต้นไม้เหล่านี้กำลังอยู่ในกระแสมาก ๆ และที่สำคัญมันเหมาะกับการที่จะนำมาใช้แต่งห้องมินินมอลของเราให้ออกมาดูดีเรียบง่ายแต่มีสไตล์แบบที่เราต้องการด้วย เพราะฉะนั้นทาง Kaset today ก็หวังว่าทุกคนจะได้รับความรู้ทั้งเรื่องการแต่งห้องมินิมอลและพันธุ์ไม้ที่ใช้ตกแต่งห้องไปไม่น้อยเลย