ข้อมูลทั่วไปของแก้วเจ้าจอม
ชื่อภาษาไทย : แก้วเจ้าจอม หรือน้ำอบฝรั่ง
ชื่อภาษาอังกฤษ : Lignum Vitage
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Guaiacum offinale Linn
วงศ์ : Zygophyllaceae
เป็นต้นไม้ทรงเสน่ห์ที่มีดีมากกว่าดอกหอมชื่นใจ แต่พันธุ์ไม้ชนิดนี้ยังมีต้นแตกใบพุ่มแผ่กว้าง ออกดอกเป็นสีอมม่วงหรือฟ้าครามชวนน่ามอง เรียกได้ว่าเป็นพันธุ์ไม้ประดับที่มีมนต์เสน่ห์ชวนน่าหลงใหลตลอดทั้งปีเลยก็ว่าได้
ความเชื่อ
แก้วเจ้าจอม เป็นพันธุ์ไม้ต่างถิ่น ซึ่งแต่เดิมมีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลาง อเมริกาใต้และในรัฐฟลอริดาของอเมริกา นอกจากนี้ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติ ของประเทศจาไมก้า ซึ่งถูกนำเข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ระหว่างการเสด็จประพาสชวา (อินโดนีเซีย) แล้วพบกับต้นไม้ที่สวยงามชนิดนี้ จึงได้รับสั่งให้สร้าง “สวนป่า” เดิมทีต้นนี้มีชื่อว่า “ต้นน้ำอบฝรั่ง” หลังจากนั้นพระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดาก็ได้ประทานชื่อใหม่ว่า “แก้วจุลจอม” ต่อมาในปี พ.ศ. 2501 ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันทน์ ได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “แก้วเจ้าจอม” ซึ่งเป็นชื่อเรียกในปัจจุบัน
ในทางความเชื่อแล้ว แก้วเจ้าจอมนอกจากจะเป็นไม้มงคลก็ยังเป็น “ไม้แห่งชีวิต” (Wood of life) อาจเพราะมีสรรพคุณทางสมุนไพรช่วยรักษาโรคได้หลายโรค และเชื่อว่าคำว่า “เจ้าจอม” ยังเป็นคำมงคลที่ให้ระลึกถึงรัชกาลที่ 5 อีกทั้งปัจจุบันดอกแก้วเจ้าจอมยังเป็นดอกไม้ประจำ ม.ราชภัฏสวนสุนันทาอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจจะปลูกแก้วเจ้าจอมเพื่อความมงคล ทางเกษตรทูเดย์ขอแนะนำว่าควรปลูกไว้ทางทิศเหนือหรือหากใครไม่มีพื้นที่ปลูกสามารถปลูกใส่กระถางตั้งไว้ทางทิศเหนือได้ เพราะตามความเชื่อของคนไทยโบราณบอกไว้ว่า การปลูกแก้วเจ้าจอมไว้ทางทิศนี้จะช่วยดึงพลังบวกเข้าหาตัวผู้ปลูก ช่วยเสริมเกียรติ เสริมบารมี ถ้ายิ่งออกดอกเยอะก็จะยิ่งนำพาแต่เรื่องที่เป็นสิริมงคลเข้าบ้าน
ลักษณะของแก้วเจ้าจอม
- ลำต้น
แก้วเจ้าจอมเป็นต้นไม้ขนาดเล็กถึงกลาง สูง 10-15 เมตร เป็นไม้ผลัดใบ ลำต้นคดงอ กิ่งก้านเป็นปุ่มเป็นปม และได้ชื่อว่า “ไม้ที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก” เพราะมีเนื้อไม้ที่สวย มีลักษณะสีน้ำตาลอมเขียวถึงดำ และมีแก่นไม้ที่มีความแข็งแรงสูง เนื้อประสานกันแน่น
- ใบ
ใบของต้นแก้วเจ้าจอมประกอบแบบขนนก ปลายคู่ เรียงตรงข้าม มีทั้งชนิดที่มีใบย่อย 2 คู่ และ 3 คู่ ใบรูปรีไข่กว้าง หรือรูปไข่กลับ ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน ใบย่อยคู่ปลายกว้าง 1.8-2 เซนติเมตร ยาว 3.2-3.5 เซนติเมตร ใบย่อยคู่ที่อยู่ช่วงโคนกว้าง 1.2-1.6 เซนติเมตร ยาว 2.5-2.7 เซนติเมตร ปลายใบใน โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน หลังใบสีอ่อนกว่า มีจุดสีส้มที่โคนใบย่อยด้านบน หูใบและใบประดับขนาดเล็ก ร่วงง่าย
- ดอก
ดอกของแก้วเจ้าจอมออกเป็นช่วงๆตลอดปี แต่ในช่วงฤดูหนาว พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะออกดอกมากกว่าปกติ ซึ่งดอกจะมีสีอมม่วงหรือฟ้าคราม จำนวน 5-6 กลีบ มีเกสรสีเหลือง ขนาดของดอกขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ส่วนช่อนั้นจะเจริญงอกงามตามลำต้น มี 30-50 ดอกต่อช่อ และค่อยๆบานเรียงกันไป ซึ่งดอกที่บานมานานกว่าจะมีสีที่ซีดจางกว่า
- ผล
มีลักษณะเป็นผลเดี่ยว รูปร่างกลมแป้นหรือรูปหัวใจกลับ วัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ 1-2 ซม. มีครีบ 2 ข้าง คล้ายรูปหัวใจ เมื่อแก่เป็นสีเหลืองหรือสีส้ม ก้านผลยาว 1.5-3 ซม. เมล็ด 1-2 เมล็ด สีน้ำตา
สายพันธุ์ของแก้วเจ้าจอม
แก้วเจ้าจอม 4 ใบ
มีลักษณะเป็นใบย่อย 2 คู่ ปลายใบมน ขอบเรียบ ใบย่อยคู่มีขนาดปลายใหญ่ที่สุด ใบย่อยคู่ถัดมาจะมีขนาดเล็กไล่ลงไปเรื่อยๆ เนื้อใบเหนียว และหนา มีผิวใบเป็นสีมันเขียวเข้ม เป็นสายพันธุ์ที่โตช้าที่สุด ลำต้นจะตั้งตรงเป็นพุ่มทรงเห็ด แต่มีดอกเดี่ยวๆไม่เป็นช่อเหมือนพันธุ์ 6 ใบ นิยมซื้อพันธุ์ 4 ใบ ปลูกแบบต้นใหญ่เลย 2-4 เมตร
แก้วเจ้าจอม 6 ใบ
มีลักษณะเป็นใบย่อย 3 คู่ ลักษณะไม่ต่างกันกับสายพันธุ์ 4 ใบ แต่จะมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วกว่า สามารถออกดอกได้ภายใน 1 ปี จึงทำให้เป็นสายพันธุ์ที่คนนิยมปลูกกันมากที่สุด ลักษณะเป็นช่อดอก เรียกว่าดอกดกเลยก็ว่าได้ แต่ทรงต้นจะแผ่ด้านข้าง มักจะนำไปปลูกในสวนแบบไม้พุ่มเตี้ยขนาดใหญ่
แก้วเจ้าจอม 8 ใบ
มีลักษณะเป็นใบย่อย 4 คู่ ลักษณะใบ มีลักษณะต่างกันกับสายพันธุ์ 4 ใบและ 6 ใบ และ 10 เล็กน้อย แต่สามารถสังเกตุได้ คือขนาดดอก ที่จะมีความเล็กกว่ามาก มีการเจริญเติบโตที่ช้า หากมองไกลๆจะคล้ายต้นมะขาม และใช้เวลามากกว่า 5 ปี ในการออกดอก จึงเป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม และหายากนั่นเอง แต่ถ้าได้ต้นที่มีความสูงมากกว่า 4 เมตรขึ้นไป ต้นแก้วเจ้าจอม 8 ใบถือว่ามีทรงต้นที่ใหญ่และเส้นกิ่งที่สวยงามมาก
แก้วเจ้าจอม 4-6 ใบ หรือเรียกว่า 10 ใบ
มีลักษณะผสมระหว่าง 4 ใบ และ 6 ใบ ลักษณะของต้นจะได้ทรงของ 4 ใบมาคือ จะมีต้นตรงสูง และแตกกิ่งด้านบน เป็นเหมือนทรงดอกเห็ด แต่จะได้ดอกของทั้ง 4 และ 6 ใบมาคือ บางกิ่งจะได้ดอกเดี่ยว และบางกิ่งจะได้ดอกช่อมา และใบจะมีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์อื่น สีใบจะเขียวสดกว่า แต่หากเทียบกับต้น 6 ใบ แล้ว ต้น 6 ใบก็มีดอกดกมากกว่า
แก้วเจ้าจอม 4 ใบ ถือเป็นพันธุ์ดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่อดีต ซึ่งคนที่ปลูกไม้นี้มานานแล้วจะเรียกว่าแก้วเจ้าจอมทรงโบราณ ลักษณะใบจะมี 4 ใบอย่างชัดเจน ลำต้นจะไม่ตั้งตรงแต่มีความคดโค้งไปมาเป็นลักษณ์เด่น พุ่มกว้างใบมัน จะมี 2 แบบ คือ สายพันธุ์ต้นที่ใบมันสวย ฟอร์มต้นใหญ่แต่ไม่ค่อยออกดอก กับสายพันธุ์ต้นใบเล็ก แต่ออกดอกดกกระจายเต็มต้น ดังนั้น หากจะซื้อที่ร้านต้นไม้หรือสวนอื่น ๆ อาจต้องดูให้ดี ปัจจุบันสายพันธุ์ 4 ใบนี้จะนี้หายากและราคาแพง เพราะเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น ๆ ถือว่าโตค่อนข้างช้า
สายพันธุ์ 6 ใบ คือสายพันธุ์ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมได้ดี โตเร็ว มีรูปทรงของลำต้นตรงสวยและมีใบที่แบ่งช่อได้อย่างชัดเจน ดอกจะเป็นสีม่วงเข้มไปตลอดระยะการผลิบ้านจนกระทั่งร่วงไป ซึ่งจะไม่ติดสีขาวแบบสายพันธุ์ 4 ใบ เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เราจะพบเห็นคนนิยมปลูกมากในปัจจุบัน
สายพันธุ์ 4-6 ใบ หรือที่เรียกว่า พันธุ์ 10 ใบ เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ของต้น 4 ใบ และ 6 ใบที่ปลูกในบริเวณใกล้เคียงกัน แล้วผึ้งไปผสมเกสรข้ามต้น ปัจจุบันจะพบได้มาก เพราะปลูกง่าย ขยายพันธุ์ได้ดี แม้ว่าพุ่มจะเตี้ยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ข้อดี คือ พุ่มและดอกแน่นเหมือนพันธุ์ 4 ใบ แต่ลำต้นตรงสวยแบบพันธุ์ 6 ใบ เป็นสายพันธุ์ที่เหมาะปลูกลงกระถางมาก
ใครที่กำลังเลือกซื้อต้นแก้วเจ้าจอมแต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกสายพันธุ์ไหน ก็หวังว่าข้อมูลจากเกษตรทูเดย์จะเป็นประโยชน์กับคุณด้วย
วิธีการปลูกแก้วเจ้าจอม
แก้วเจ้าจอมนิยมปลูกในบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง หรือมีสนามหญ้า เพราะเมื่อออกเป็นพุ่มต้นใหญ่แล้วจะแผ่กิ่งก้าน ให้ร่มเงาได้ดี และต้นไม้ชนิดนี้ยังชอบแสงแดดถ้าได้แสงที่เพียงพอก็จะทำให้ทรงพุ่มสวย และจะช่วยให้ออกดอกดกได้มากยิ่งขึ้น
การปลูกนิยมเพาะเมล็ดเพียงอย่างเดียว เพราะจะมีลำต้น และรากแก้ว ยึดเกาะและดูดซับได้ดีกว่าการขยายพันธุ์ในลักษณะอื่นๆ เช่น ตอนกิ่ง ต่อกิ่ง ชำ ก็จะติดได้ยากมากๆ ซึ่งอาจจะใช้เวลาถึง 5 ปีเลยทีเดียว
การปลูกแก้วเจ้าจอมในกระถาง ยังทำให้เติบโตช้า และไม่ค่อยออกดอก ถ้าเลือกปลูกในกระถางควรเลือกปลูกจากต้นที่ได้รับการตอนกิ่ง ซึ่งจะออกดอกน้อยกว่าการปลูกลงบนดิน จึงเป็นวิธีที่ไม่แนะนำสำหรับปลูกพันธุ์ไม้ชนิดนี้
พันธุ์ไม้ชนิดนี้ ชอบดินร่วน ระบายน้ำได้ดี มีอากาศที่ถ่ายเท และชอบพื้นดินที่ชุ่มฉ่ำ เต็มไปด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งสถาบันวิจัยและพัฒนา กำแพงแสน มีสูตรดินปลูกแก้วเจ้าจอม คือ ใช้ดินร่วน, เปลือกมะพร้าวสับ, ใบไม้แห้ง, ขี้วัว อย่างละ 1 ส่วน ผสมเข้าด้วยกัน รดน้ำให้พอมีความชื้นหมาดๆ แล้วหมักไว้ 1-2 เดือน และนำมาใช้ เพียงเท่านี้ก็จะมีต้นแก้วเจ้าจอมที่เจริญงอกงามดีแล้ว ข้อควรระวัง คือ อย่าให้ขาดน้ำ เพราะจะทำให้ต้นโทรม ใบเหลือง ร่วงได้ง่าย.
คำแนะนำการปลูกแก้วเจ้าจอมจากสวนเกษตรทูเดย์
แก้วเจ้าจอม เป็นไม้พุ่มทรงสวยที่เหมาะจะปลูกบนพื้นที่กลางแจ้ง ยิ่งใกล้แหล่งน้ำก็จะช่วยให้ต้นเจริญเติบโตได้เร็วและมีพุ่มใบที่สวยงาม ถ้าหากปลูกลงดินจะโตได้ดีกว่าปลูกลงกระถาง เพราะรากสามารถขยายตัวได้อย่างเต็มที่ แต่หากจะปลุกเพื่อควบคุมขนาดของต้นไม้ให้สูงมาก ปลูกไว้ประดับบ้าน ไม่เน้นร่มเงามากก็อาจจะเลือกปลูกต้น 1-2 เมตรในกระถางใหญ่ ๆ ไปเลย ค่อย ๆ ให้ต้นเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แก้วเจ้าจอมที่สวนจะมีต้นขนาด 1.2 – 1.5 เมตร โดยต้นแก้วเจ้าจอมขนาดนี้มีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นสามารถทำการย้ายปลูกลงกระถางพลาสติกสีดำ หรือกระถางขนาดความกว้างตั้วแต่ 30 – 60 ซม. หากจะปลูกในระยะยาวแบบไม่ต้องการย้ายกระถางใหม่สามารถใช้กระถางที่ใหญ่กว่าตุ้มชำได้เลย เพราะปลูกเข้าปีที่ 3 ต้นก็จะสูงขึ้นราว ๆ 1.5 เมตร ข้อเสียของการปลูกลงกระถางคือต้นแก้วเจ้าจอมจะออกดอกค่อนข้างช้า หรือออกดอกน้อยกว่าปลูกลงดิน ดังนั้น การเลือกปลูกลงกระถางอาจจะต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ อีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีคือการปลูกต้นใหญ่ที่ติดดอกแล้วลงกระถางเลย เป็นการขยายตุ้มตามทรงกระถาง สามารถเลือกใช้กระถาง 60 – 100 ซม. ก็ยังถือว่าปลูกได้ ซึ่งทางสวนก็มีกระถางปูนและกระถางพลาสติกให้เลือกหลากหลาย
นอกจากจะปลูกใส่กระถางสวย ๆ เป็นไม้ประดับได้แล้ว ทางเกษตรทูเดย์แนะนำว่า ใครที่ปลูกลงกระถางสามารถตกแต่งได้ด้วยการโรยกรวด โรยหิน หรือจะเป็นการปลูกไม้คลุมดินอย่างต้นหลิว สนเลื้อย หรือว่าถั่วบราซิลเพื่อความสวยงามได้เลย อีกทั้งยังช่วยปรับหน้าดิน เพิ่มไนโตรเจนและแร่ธาตุคืนให้แก่ดินและกลับไปเป็นสารอาหารให้แก่ต้นไม้ของเราได้อีกทีด้วย
ส่วนลูกค้าท่านใดที่ต้องการจะปลูกต้นขนาดเล็ก 1.2 -1.5 เมตรลงดินโดยตรง ทางสวนแนะนำให้กำหนดวางระยะปลูกให้ห่างกันประมาณ 90 ซม. และระหว่างแถวอีก 90 ซม. ขณะที่ลำต้นมีความสูงโดยเฉลี่ย เพราะระยะปลูกที่เหมาะสมจะทำให้ได้ทรงต้นและทรงพุ่มที่สวยงาม
เมื่อต้นมีความสูงโดยเฉลี่ย 1.5 เมตร ให้หมั่นใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เดือนละ 2 ครั้ง จะได้ทรงต้นเจริญเติบโตแข็งแรง ผิวของใบเป็นสีเขียวเข้มสด เป็นมัน ลำต้นตั้งตรงเป็นพุ่มสวยงาม ลูกค้าอาจจะต้องปลูกต่อไปราว ๆ 4 – 5 ปีจึงจะได้เห็นต้นติดดอกครั้งแรก แต่เมื่อต้นติดดอกแล้วก็จะสามารถออกดอกได้ง่ายขึ้นและมีให้เราได้เห็นเกือบตลอดทั้งปี
สำหรับมือใหม่ในการปลูกทางเกษตรทูเดย์ก็มีสูตรดินปลูกแก้วเจ้าจอม คือ ใช้ดินร่วน เปลือกมะพร้าวสับแกลบดำ ขี้วัว อย่างละ 1 ส่วนผสมเข้าด้วยกัน รดน้ำให้พอมีความชื้น ๆ แล้วหมักไว้ 1-2 เดือน ซึ่งทางเกษตรทูเดย์ก็มีดินสูตรนี้จำหน่าย สำหรับลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายสามารถซื้อมาใช้ได้เลย ทางสวนจะเหมาเป็นเข่ง 10 กิโล 25 บาท และมีแบบถุงส่งถึงหน้าบ้าน 5 โล ถุง 15 บาท เพียงเท่านี้ต้นแก้วเจ้าจอมของเราก็จะเจริญงอกงามดีแล้ว
ข้อควรระวัง! คือ ควรรดน้ำให้ชุ่ม ๆ อย่าให้ขาดน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้ต้นโทรม ใบเหลือง ร่วงได้ง่าย
ต้นแก้วเจ้าจอมจากสวนเกษตรทูเดย์
ความแตกต่างระหว่างแก้วเจ้าจอมของสวนอื่นกับสวนเกษตรทูเดย์จะอยู่ที่ระยะเวลาของการขุดล้อม เพราะแก้วเจ้าจอมส่วนใหญ่ที่ปลูกจำหน่ายกัน หลายที่มักจะปลูกทิ้งไว้รอจำหน่าย ข้อดีคือต้นจะสวยมากในขณะที่อยู่ใต้ดิน แต่พอถึงเวลาที่ต้องขุดล้อมเพื่อจัดส่งให้ลูกค้า การขุดขึ้นมาล้อมอย่างรวดเร็วก็อาจจะไปตัดระบบการทำงานของรากที่ทำกำลังหาอาหารอยู่ ทำให้ต้นไม้ไม่แข็งแรงและปรับตัวกับสภาพดินใหม่ได้ยาก เมื่อนำไปปลูกต่อก็จะทำให้เจริญเติบโตได้ค่อนข้างช้า หรือส่งผลให้ภายใน 2-3 อาทิตย์หลังจากนั้นต้นจะมีอาการใบร่วง ใบเหี่ยวเหลือง หรือต้นไม้มีโอกาสตายสูง
ในส่วนของต้นแก้วเจ้าจอมจากสวนเกษตรทูเดย์ ข้อดีคือทางสวนของเราได้ทำการขุดต้นขึ้นมาล้อมไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพราะต้องการให้นำต้นไม้ขึ้นมาพักไว้ก่อน เพื่อได้รับการปรับตัวกับสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมโดยรอบ ซึ่งในระหว่างที่ขุดขึ้นมาก็จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมสวนผู้เชี่ยวชาญของเรา จนกระทั่งมั่นใจว่าต้นไม้ปรับสภาพได้ดี รากแข็งแรง ใบไม่หลุดร่วงและยังคงผลิดอกออกใบได้อย่างดี เมื่อครบปัจจัยเหล่านี้เราจึงจะทำการจัดส่งให้กับลูกค้า ดังนั้น ต้นแก้วเจ้าจอมที่คุณลูกค้าจะได้รับจากสวนเราไปจะมีโอกาสรอดสูง สามารถออกดอกและใบได้ดีเกือบตลอดทั้งปี รากเดินเป็นปกติไม่ต่างจากตอนปลูกที่สวนเลย พูดง่าย ๆ ว่าเป็นเหมือนการฝากสวนดูแลก่อนในระยะแรก รับประกันว่าคุณลูกค้าจะได้รับต้นไม้ที่สวยและแข็งแรงยาวนานแน่นอน
ในด้านของพื้นที่เดิมทีสวนเกษตรทูเดย์เป็นทุ่งนาเก่า ติดภูเขา ทำให้มีอากาศถ่ายเทและดินในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นดินร่วนซุยมีแร่ธาตุสูง เคยผ่านการน้ำท่วมขังมาก่อน แต่ก็ได้รับการไถพรวนปรับหน้าดินมาอย่างดีแล้ว ดังนั้น การปลูกแก้วเจ้าจอมที่เป็นไม้ดอกต่างถิ่นและต้องใช้ระยะเวลาในการปรับสภาพค่อนข้างนาน ทางสวนก็ถือว่าได้ทดสอบมาแล้วว่าต้นไม้สามารถอยู่รอดได้และแข็งแรงมากพอที่จะขุดล้อมขึ้นมาจำหน่ายต่อ
นอกจากนี้ทางสวนเกษตรทูเดย์ยังมีต้นแก้วเจ้าจอมให้เลือกขนาดตั้งแต่ 1.2 – 1.5 เมตร หรือต้นขนาดใหญ่เป็นไม้ล้อมหน้า 2-3 นิ้ว สูง 2 – 4 เมตร เพื่อเป็นการตอบโจทย์ให้ลูกค้าที่ต้องการต้นเล็ก ๆ ส่งต่างจังหวัดไปปลูกต่อเองได้ นำไปปลูกลงกระถางสวยงาม หรือต้นขนาดใหญ่ที่ปลูกเป็นไม้ล้อม ไม้ประธานสวยงามของบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ิอาศัยแถบกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทางสวนสามารถส่งต้นใหญ่ให้ถึงหน้าบ้านได้เลยหรือจะให้ทีมสวนปลูกลงกระถางไปส่งเป็นไม้ประดับหน้าบ้านก็ได้แบบสบาย ๆ
สรรพคุณของแก้วเจ้าจอม
- ใช้รักษาโรครูมาติซัมเรื้อรัง โรคไขข้ออักเสบ ปวดประจำเดือน โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคเกาต์
- ใช้สำหรับเป็นยาตรวจคราบเลือดในนิติเวชวิทยา เรียกว่า Gum Guaiacum
- ดอกแห้ง ใช้ชงชาดื่มเป็นน้ำชาดื่มบำรุงกำลัง
- ยางไม้ ใช้เป็นยาขับเสมหะ ยาระบาย ขับเหงื่อ แก้ข้ออักเสบ ใช้ในยาฟอกเลือด ใช้ทำเป็นยาอมแก้ต่อมทอมซิล และหลอดลมอักเสบ แก้ปวดท้อง และใช้ใส่ในแผล
- ใบ นำมาคั้นดื่มแก้ อาการท้องเฟ้อ
- เปลือกและดอก มีสรรพคุณเป็นยาระบาย
บริการจากทางเกษตรทูเดย์
– บริการจัดส่งโดยรถสวน
ทางสวนสามารถจัดส่งต้นไม้ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กได้ถึงหน้าบ้านของคุณ มีบริการจัดส่งโดยรถสวนทุกวันอาทิตย์ของแต่ละสัปดาห์ ค่าส่งเพียง 200 บาท สามารถสั่งไว้ล่วงหน้าก่อนได้ ถึงวันนัดก็จะมีทีมงานสวนนำไปส่งให้ถึงหน้าบ้าน พร้อมจ่ายเงินปลายทางได้เลย
– บริการปลูกและค้ำยัน
สวนเกษตรทูเดย์มีทีมงานคุณภาพที่สามารถปลูกและล้อมต้นไม้ของคุณได้อย่างสวยงาม โดยค่าบริการปลูกจะขึ้นอยู่กับขนาดของถุงชำ หรือขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น อาจมีการบวกค้าอุปกรณ์ล้อม 100 – 200 บาทขึ้นอยู่กับปริมาณไม้ที่ใช้ในการล้อม โดยมีค่าบริการดังต่อไปนี้
> ไม้ไหญ่ ไม้ขุดล้อม ราคา นิ้วละ 150 บาท เช่นต้นขนาด 1 นิ้ว คิด 150 บาท,
1.5 นิ้ว 225 บาท, 5 นิ้ว 750 บาท (ถ้าล้อม 4 ด้านบวกค้าอุปกรณ์เพิ่ม 100 บาท)
> ไม้อื่น ๆ ที่ไม่ต้องค้ำยัน ถุง 7-8 ต้นละ 50 บาท, ถุง 10 ต้นละ 150 บาท
การค้ำยัน
ทางสวนเกษตรทูเดย์จะใช้การค้ำยันแบบคอก ซึ่งจะเหมาะกับไม้ต้นที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางลำต้นตั้งแต่ 2 – 8 นิ้วเลย โดยปักไม้ค้ำสูงจากใต้ดิน 50 – 80 เซนติเมตร ค้ำสูงขึ้นจากพื้น 1.5 เมตร ล้อมทั้ง 4 ด้าน โดยระยะห่างด้านละ 80 ซม. (ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้ด้วย แต่ละต้นจะใช้ระยะห่างของไม้ในการค้ำไม่เท่ากัน ไม้ที่ค้ำจากพื้นจะใช้ไม้ยูคา หน้า 3 นิ้ว จำนวน 4 ท่อน ด้านบนจะใช้ไม้ยูคา หน้า 2 นิ้ว วางพาดแนวนอนไว้ 2 ด้านเพื่อใช้เป็นฐาน โดยจะใช้ไม้ความยาวด้านละ 80 ซม. ส่วนด้านบนสุดจะเป็นไม้หน้า 2 นิ้ว จำนวน 4 ท่อนวางพาดขวางเป็นแนวนอน ใช้สำหรับการอ้อมหรือล้อมเพื่อรองรับต้นไม้ แต่ละท่อนวางห่างกันในระยะ 13 – 15 ซม. แล้วแต่ขนาดของลำต้น การล้อมในลักษณะนี้จะเชื่อมต่อไม้แต่ละท่อนด้วยการตอกตะปู เพราะจะช่วยให้โครงสร้างแข็งแรงและอยู่ได้นานกว่า
– การรับประกัน
สำหรับลูกค้าท่านใดที่ซื้อต้นไม้และใช้บริการปลูกล้อมกับทางสวนเกษตรทูเดย์ ทางเรายินดีรับประกันต้นไม้เป็นระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่ปลูกล้อมให้ เรากล้ารับประกันต้นไม้ทุกต้นเนื่องจากว่าต้นไม้ที่สวนค่อนข้างได้รับการปลูกในพื้นที่ที่สมบุกสมบัน ทั้งแดดจัด ฝนตกหนัก ลมแรงและเคยผ่านการน้ำท่วมขังมาก่อน แต่ต้นไม้เราก็ยังสามารถเจริญเติบโต ผลิดอกออกใบได้อย่างดี แม้ว่าสภาพโดยรวมของต้นไม้จะไม่ได้ดูสวยเกินจริง หรือฟอร์มใหญ่ ออกใบหนาแบบสวนอื่น ๆ รับรอง แต่เป็นต้นไม้ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้อย่างดี แข็งแรง โตไวและตายยากอย่างแน่นอน นอกจากนี้หากต้นไม้ที่ได้รับจากสวนเราไปมีปัญหา คุณลูกค้าสามารถโทรมาแจ้งกับทางแอดมินได้ตลอด แล้วภายใน 1 สัปดาห์จะมีทีมสวนเข้าไปดูแลจัดการให้ปัญหาต่าง ๆ ให้ทันที
– ส่วนลด
ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มคน นักจัดหา องค์กร หรือหน่วยงานทั้งเอกชนและรัฐบาล ใครที่กำลังมองหาต้นไม้ราคาถูก ยิ่งปลูกเยอะ สั่งเยอะยิ่งได้ราคาดี ได้ราคาถูก ซื้องบเกิน 1,000 บาทขึ้นไปลด 5% ซื้อในงบ 10,000 บาทขึ้นไปก็ลดได้ 10% ราคาต้นไม้ต่อรองได้ หากลดได้สวนยินดีลดให้แบบจุก ๆ ตามความเป็นจริง ราคาสมเหตุสมผล ซื้อขายกันแบบแฟร์ ๆ ใจ ๆ แน่นอน
– บริการรับสินค้าก่อนชำระเงิน
สำหรับลูกค้าท่านใดที่เคยผ่านประสบการ์โดนโกง จ่ายเงินแล้วไม่ได้รับต้นไม้ ไม่ไว้วางใจบริการจัดส่ง แม้ว่าทางสวนจะไม่มีระบบปลายทางกับขนส่งแต่เราก็ยินดีส่งต้นไม้ให้ถึงมือของคุณลูกค้าก่อน แล้วจึงค่อยโอนชำระเงินค่าสินค้าในภายหลังได้ ไม่เพียงเท่านั้นหากต้นไม้ผิดขนาด ไม่เป็นไปตามที่ตกลง หักหรือตาย ทางสวนก็ยินดีลดหรือเคลมต้นใหม่ให้ฟรี ๆ เพราะทางสวนเรายึดถือบริการแบบใจแลกใจ ให้คุณลูกค้าาได้รับความไว้วางใจว่า หากสั่งต้นไม้จากทางสวนเราจะได้รับความน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน
– มีบริการพูดคุยสอบถามข้อมูล
ลูกค้าที่มาใช้บริการกับทางสวนเกษตรทูเดย์จะได้รับการดูแลและประสานงานจากแอดมินตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ 08.00 – 24.00 น. มีบริการดูแลหลังการขาย ติดต่อสอบถามต้นไม้ หรือติดต่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับต้นไม้ต่าง ๆ จากสวนเราได้ตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลว่าเราจะปลูกให้แล้วไม่ดูแล ลูกค้าจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว อีกทั้งได้ทางสวนยังมีหน้าเว็บไซต์ที่มีบทความให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับต้นไม้หลากหลายชนิด เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และเชื่อถือได้เพราะได้รับการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรมาอย่างดี
แหล่งอ้างอิง
https://www.mydokhome.com
https://www.rspg.or.th