เสน่ห์ของต้นหางนกยูงอยู่ที่สีสันของดอก ซึ่งชูช่อและโยกไหวตามแรงลมอยู่ตลอดเวลา คุณสมบัติพื้นฐานมีความแข็งแรงทนทาน แม้อากาศร้อนจัดและมีความแห้งแล้งก็ยังเติบโตได้ เดี๋ยวนี้เราจะเห็นคนนิยมปลูกต้นหางนกยูงกันมากขึ้น เพราะมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้ได้ดอกที่สวยงาม มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ปลูกเพื่อความสวยงามก็ได้ ให้ร่มเงาก็ดี ที่สำคัญต้นหางนกยูงยังเป็นไม้มงคลที่ควรค่าแก่การปลูกประดับบ้านไว้อีกด้วย
ความเชื่อเกี่ยวกับไม้มงคล
ต้นหางนกยูงนั้นเป็นไม้มงคลชนิดหนึ่งที่ถูกใช้ประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ทางภาคเหนือ ด้วยเชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่จะนำความเจริญรุ่งเรืองและนำข่าวดีมาให้ เมื่อปลูกไว้ในบ้านแล้วต้นหางนกยูงเติบโตจนแผ่กิ่งก้านให้ร่มเงาใหญ่ ก็เชื่อว่าจะช่วยให้คนในบ้านมีความสงบสุขและร่มเย็น คนอยู่ก็มีจิตใจเบิกบาน แขกไปใครมาก็มีแต่ความยินดี แต่ในขณะเดียวกัน หากต้นหางนกยูงนั้นไม่ได้รับการตัดแต่งกิ่งให้ดีพอ ก็จะทำให้เกิดความรกรุงรัง เชื่อว่าคนในบ้านทำอะไรก็จะยุ่งยากกว่าที่คิด นอกจากนี้ต้นหางนกยูงยังเป็นไม้มงคลประจำคนที่เกิดวันอาทิตย์ ช่วยส่งเสริมอำนาจและบารมีที่มีต่อบริวาร แต่ต้องปลูกในทิศตะวันออกหรือตะวันออกเฉียงเหนือของตัวบ้าน
ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูกภายในบริเวณบ้าน
ปกติแล้วจะนิยมปลูกต้นหางนกยูงไทยเท่านั้น เพราะต้นไม่ใหญ่มาก สามารถดูแลได้ง่าย ขณะที่ต้นหางนกยูงฝรั่งจะมีระบบรากที่ค่อนข้างเป็นผลเสียกับตัวบ้านพอสมควร ส่วนตำแหน่งที่ปลูกได้ก็จะเป็นจุดที่รับแดดตามแนวเคลื่อนที่ของพระอาทิตย์ และมีระยะห่างจากแนวรั้วและตัวบ้านอย่างน้อย 1-2 เมตร
ส่วนประกอบของต้นหางนกยูง
ลักษณะของลำต้น
ต้นหางนกยูงจัดเป็นไม้พุ่มที่มีความสูงหลายระดับ ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และวิธีการดูแลรักษา ลำต้นด้านล่างมีขนาดเล็ก ตั้งตรงและพุ่งชะลูดขึ้นด้านบน ก่อนแตกเป็นกิ่งก้านขนาดเล็กจำนวนมาก เปลือกไม้เป็นสีน้ำตาลเข้ม บางพันธุ์จะมีหนามเล็กๆ ให้เห็นด้วย ยิ่งต้นแก่เท่าไรสีเปลือกไม้ก็ยิ่งเข้มขึ้น
ใบ
ลักษณะใบจะเรียงกันเป็นแผงคล้ายขนนก ใน 1 ใบจะประกอบด้วยใบย่อยจำนวนมาก ผิวสัมผัสมีความเรียบลื่นแต่ไม่เงา มีสีเขียวอ่อนไปจนถึงเขียวเข้ม
ดอก
ดอกจะออกรวมกันเป็นช่อใหญ่ และในแต่ละดอกจะมีกลีบเพียงแค่ 5 กลีบ ใหญ่เล็กและยับย่นต่างกันไป ทั้งดอกอาจมีสีเดียวหรือมีหลายสีผสมกันก็ได้ ส่วนเกสรก็จะยื่นยาวออกมาจนเห็นได้ชัดเจน
ผล
ผลจะดูคล้ายกับฝักถั่วลันเตาขนาดใหญ่ แต่มีความแบนมากกว่า ปลายฝักมีส่วนที่ยื่นเป็นเส้นแหลม เมื่อแก่ก็จะแตกออกและปล่อยเมล็ดร่วงลงสู่โคนต้น
สายพันธุ์ยอดนิยม
ในบ้านเราจะพบเห็นได้บ่อยอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ ต้นหางนกยูงไทย และต้นหางนกยูงฝรั่ง ความแตกต่างอยู่ที่ขนาดของลำต้นและลักษณะดอก โดยหางนกยูงฝรั่งจะมีขนาดสูงใหญ่กว่าหางนกยูงไทยหลายเท่า ทรงพุ่มมีความหนาและดูเป็นระเบียบมากว่า เติบโตได้เร็ว ทนแล้งได้ดี ดอกของหางนกยูงทั้ง 2 สายพันธุ์จะมีรูปร่างเหมือนกัน แต่ของฝรั่งจะมีช่อดอกแน่นกว่าและขนาดก็ใหญ่กว่าด้วย
วิธีการปลูกต้นหางนกยูงให้เจริญงอกงาม
ถ้าไม่อยากให้เกิดปัญหากับต้นหางนกยูงในระยะยาว ต้องเลือกตำแหน่งปลูกที่น้ำไม่ท่วมขังแม้ว่าฝนจะตกหนัก ก่อนปลูกต้องขุดดินขึ้นมาตากแดดก่อนประมาณ 10 วัน บดดินให้ละเอียดพร้อมกับปรับสภาพดินไปด้วย อาจจะใส่ปุ๋ยคอกหรือปูนขาวก็แล้วแต่กรณี จากนั้นให้นำต้นกล้าลงปลูก กลบดินให้เป็นเนิ่นต่ำบริเวณโคนต้น ช่วงแรกควรมีตาข่ายกันแดดเพื่อกรองแสงบางส่วน รอจนรากยึดติดได้ดีแล้วค่อยเอาตาข่ายออก แล้วดูแลรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ
วิธีการดูแลรักษา
แสง
ต้องการแสงแดดจัด ควรปลูกในตำแหน่งที่สามารถรับแสงได้ตลอดทั้งวัน
น้ำ
ชอบน้ำปานกลาง ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน เพียงแค่อาทิตย์ละ 3-4 ครั้งก็พอ
ดิน
สภาพดินที่เหมาะสมที่สุดเป็นดินร่วมปนทราย
ปุ๋ย
ใช้ปุ๋ยคอกผสมกับดินแล้วใส่บริเวณโคนต้นตามความเหมาะสม อาจจะปีละ 1-2 ครั้งก็ได้
คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นหางนกยูง
ลำต้น
เนื่องจากรูปทรงของต้นหางนกยูงเมื่อโตได้ระดับหนึ่งแล้ว จะมีทรงพุ่มที่ค่อนข้างกว้างและช่อดอกก็สวยงาม จึงนิยมปลูกไว้เป็นไม้ประดับที่ให้ร่มเงา
ดอก
สามารถนำส่วนของดอกที่มีสีเหลืองมาต้มกับน้ำ แล้วอมกลั้วปากเพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับฟันในเบื้องต้นได้
เมล็ด
แกะเมล็ดออกจากฝักแล้วลอกส่วนนอกทิ้งไป ทานเนื้อในแบบสดๆ จะช่วยถ่ายพยาธิได้
ราก
ส่วนของรากมีสรรพคุณหลายอย่าง ตั้งแต่ช่วยประสมดุลของผู้หญิง ช่วยให้ประจำเดือนมาตามปกติ ต้มน้ำดื่มเพื่อบรรเทาอาการบวมของร่างกาย และยังใช้ทานเพื่อบรรเทาอาการของวัณโรคในระยะต้นๆ ได้ด้วย
ราคาต่อต้นโดยประมาณ
ราคาของต้นหางนกยูงแปรผันตามขนาดของต้นกล้า โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 50 บาท
แหล่งอ้างอิง
: http://www.rspg.or.th/plants_data/kp_bot_garden/nokyoongthai.htm