ดอกสร้อยทอง ภาษาอังกฤษ Goldenrod
ดอกสร้อยทอง ชื่อวิทยาศาสตร์ Solidago Canadensis
วงศ์ ดอกสร้อยทอง COMPOSITAE
ดอกสร้อยทอง เป็นพืชไม้ดอกมงคลชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นหอม ลักษณะของดอกสร้อยทอง รูปทรงเป็นช่อเป็นรวงงดงาม และทนแดดได้ดี คนโบราณเชื่อว่า ทองอุไรจะเสริมโชคชะตาของผู้ปลูก ให้มีความเจริญรุ่งเรือง มีเงินทองร่ำรวยมั่งคั่ง สมดั่งชื่อทองอุไร และอีกชื่อหนึ่งของทองอุไร ก็คือ ดอกสร้อยทอง ความหมายถือว่า เป็นมงคลนามด้วยเช่นกัน นอกจากความเชื่อในเรื่องเกี่ยวกับเงินทองตามชื่อของดอกไม้นี้แล้ว ยังเชื่อกันว่าทองอุไรจะเสริมวาสนาบารมี ช่วยให้ผู้ปลูกไม้นี้ได้มีเกียรติมีลาภยศสูงส่งอีกด้วย
มีถิ่นกำเนิดมาจาก ทวีปอเมริกาเหนือ แต่มีการปลูกมาอย่างยาวนานในประเทศไทย เป็นไม้ตัดดอกที่สามารถปลูกได้ทั่วไป ปลุกหนึ่งครั้งสามารถเก็บดอกได้นาน 3 ปี จึงรื้อแปลงปลูกใหม่ ในประเทสไทยจะนิยมใช้เพื่อบูชาพระหรือพิธีกรรมทางศาสนา ดังนั้นในช่วงวันพระหรือวันสำคัญอื่นๆ หรือวันตรุษจีนราคาสูงถึง กําละ 20-25 บาท
เพราะโบราณเชื่อว่าดอกสร้อยทองเปรียบเสมือนทองที่มีค่าสูงนั่นเองและเวลาถึงช่อดอกบานลักษณะของดอกสร้อยทองจะออกดอกแน่นเต็มต้นดู สวยงามมาก มีสีเหลืองคล้ายกับสีทองคำ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นดอกสร้อยทองไว้ทางทิศเหนือ ผู้ปลูกควรปลูกในวันพุธ เพราะคนโบราณเชื่อว่า การปลูกไม้เพื่อเอาประโยชน์ทั่วไปทางดอกให้ปลูกในวันพุธ
สายพันธุ์ดอกสร้อยทอง
Solidago canadensis
เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก ลำต้นตรง สูงประมาณ 45-100 ซม. ลักษณะการเจริญเติบโตในแนวตั้ง ใบ มีสีเขียวเข้ม รูปหอก ดอกมีสีเหลืองอ่อน เหลืองนกขมิ้น และ เหลืองทอง ช่อดอกเป็นแบบ Cluster (เป็นกลุ่ม) มีดอกย่อยเล็ก ๆ อยู่ภายในช่อ โดยที่ดอกช่อเหล่านี้จะมีก้านดอกสั้นติดอยู่กับ ก้านชูดอก ออกดอกในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
Solidago multiradiata
ลำต้นแตกแขนงมีพุ่มต้นสูงประมาณ 25-45 ซม. ดอกมีสีเหลือง ขนาดดอกใหญ่กว่าชนิดอื่น ๆ จะบาน เป็นช่อ ให้ดอกช่วงเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคม
Solidago bracbystacbys
พุ่มต้นสูง 15-30 ซม. ดอกมีสีเหลือง ทอง ให้ดอกช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
Solidago eaasia
ต้นสูงประมาณ 8-40 ซม. ดอกมีสีเหลืองอ่อน ให้ดอกช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม 4. Solidago odora ทรงพุ่มแข็งแรงสูงประมาณ 100-200 ซม. ให้ ดอกช่วงเดือนกรกฏาคมถึงสิงหาคม 5. Garden hybrids ทรงพุ่มสูงประมาณ 30-40 ซม. ให้ดอกในช่วง เดือนกรกฏาคมถึงตุลาคม
ส่วนประกอบของดอกสร้อยทอง
ต้นสร้อยทองทราย
จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก อายุปีเดียว ลำต้นมีลักษณะตั้งตรง แตกแขนงที่โคนต้น มีความสูงได้ประมาณ 10-30 เซนติเมตร แตกกิ่งก้านสาขามาก ตามลำต้นและกิ่งก้านมีขนนุ่มขึ้นปกคลุมอยู่ ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้ง ซึ่งเป็นวัชพืชชนิดหนึ่งที่มักขึ้นอยู่ริมสองข้างทาง ตามไร่สวน และตามป่าเต็งรัง มีเขตการกระจายพันธุ์อยู่ในเอเชียเขตร้อน แอฟริกา ออสเตรเลีย และอเมริกา
ใบสร้อยทองทราย
ใบเป็นใบเดี่ยวและมีขนาดเล็กมาก ออกเรียงตรงข้ามหรือเรียงรอบข้อ โดยจะแตกใบออกตามข้อของลำต้นรวมกันเป็นกระจุก ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนานแคบหรือรูปแถบ ปลายใบแหลม ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร แผ่นใบบางแห้งและเป็นสีเขียว
ดอกสร้อยทองทราย
สีเหลืองสด ออกเป็นช่อแบบช่อกระจะแยกแขนงที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงสีเขียว โคนเชื่อมติดกันปลายแยก 5 แฉก ปลายแหลม โคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด คล้ายรูปแตร ดอกร่วงง่าย ดอกบานเต็มที่เวลาออกดอกจะแน่นและสวยงามมากมีสีเหลืองคล้ายทอง คนไทยโบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกต้นสร้อยทองไว้ประจำบ้านจะทำให้มีทองเพราะสร้อยทองเป็นไม้มงคลนาม
ผลสร้อยทองทราย
ผลเป็นผลแห้ง มีพู 3 พู ภายในผลมีเมล็ดจำนวนมาก ผลแห้งแตก เป็นฝักกลม เรียวเล็ก
เมล็ด
เมล็ดแบนบาง สีน้ำตาลอ่อนมีปีก
การปลูกดอกสร้อยทอง
- การปลูกดอกสร้อยทองใช้ระยะปลูก 20 x 20 ซม. ใช้ต้นกล้าดอกสร้อยทองประมาณ 8,000-10,000 ต้น/ไร่ ควรกลบดินแค่กาบใบล่างสุดของต้นกล้าไม่ควรกลบถึงยอด เพราะจะทำให้ต้นกล้าชะงักการเจริญเติบโตหรืออาจทำให้ต้นกล้าตายได้ หลังจากปลูกรดน้ำสม่ำเสมอเช้าและเย็นจนกว่าต้นกล้าตั้งตัวได้ดี
- การให้ปุ๋ย เมื่อต้นกล้าอายุประมาณ 15-20 วัน หลังปลูกใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 หรือ 16-16-16 อัตรา 20 กิโลกรัม/ไร่ ใส่ครั้งต่อไปทุก ๆ 2 สัปดาห์ จนกระทั่งเริ่มแทงช่อดอกหรือประมาณ 60 วันหลังปลูก ใช้ปุ๋ยสูตร 12-24-12 อัตรา 20 กิโลกรัม/ไร่
- การให้น้ำ สร้อยทองจะให้ดอกประมาณ 40-60 วัน เมื่อหมดดอกชุดแรกจะตัดแต่งต้นโดยการถากหรือใช้เครื่องตัดหญ้าตัดเสมอผิวดิน แล้วสาดเลนกลบและดูแลรักษาเหมือนเริ่มปลูก ปีหนึ่งทำการตัดแต่ง 2 ครั้ง และจะรื้อปลูกใหม่เมื่อมีอายุ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติดูแลรักษา
ดอกสร้อยทองกับสรรพคุณที่คุณอาจไม่รู้
โดยปกติดอกสร้อยทอง ถูกใช้เพื่อบรรเทาอาการปวดบวมอักเสบของทางเดินปัสสาวะ เป็นสมุนไพรเพิ่มปริมาณของปัสสาวะ และหยุดภาวะกล้ามเนื้อกระตุกได้ สำหรับบางคนอาจใช้ดอกสร้อยทองเป็นตัวช่วยในการบำบัดในเรื่องของการขับถ่ายให้คล่องขึ้น
นอกจากนี้ดอกสร้องทองสามารถนำมาสกัดทำเป็นน้ำยาทำความสะอาดช่องปาก และยังนำมาบด หรือใช้ผงที่มีส่วนประกอบของดอกสร้อยทองมาสมานแผลบริเวณผิวหนังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และยังสามารถรักษาโรคอื่นๆด้วย เช่น โรคเกาต์,โรคปวดข้อ,นิ่วในไต,โรคผิวหนัง,โรควัณโรค,โรคเบาหวาน,โรคตับโต,ริดสีดวงทวาร,การตกเลือด,โรคหืด,ไข้ละอองฟาง,โรคต่อมลูกหมากโต
ที่มา
http://www.the-than.com