วัศดุปลูกต้นไม้

รวมวัสดุที่ช่วยให้เราปลูกต้นไม้ได้สวยสมบูรณ์ขึ้น

Facebook

ปัจจุบันหลายคนเริ่มหันมาปลูกต้นไม้กันมากขึ้น อาจเกิดจากการมีเวลามากขึ้นต้องกักตัวอยู่ในห้องพักหรือบ้านเป็นเวลานาน ๆ ในช่วงสถานการณ์แบบนี้ การปลูกต้นไม้จึงอาจเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ แต่นอกเหนือจากการปลูกต้นไม้แบบทั่วไปที่เราเห็นอยู่ทั่วไแล้ววันนี้ทาง Kaset today ก็อยากจะมาแนะนำให้ทุกคนลองหันมาปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินกัน ฟังมาถึงตรงนี้หลายคนก็คงสงสัยว่ามันคืออะไร ต้องบออก่อนว่าการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดินเป็นการใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับดินคือมีส่วนประกอบแร่ธาตุ สารอาหารและมีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ การคายน้ำหรือความชื้นที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของต้นไม้ โดยจะมีทั้งวัสดุที่เกิดจากอนินทรีย์สาร อินทรีย์สารและวัสดุที่เกิดจากการสังเคราะห์ อาทิ แกลบ ขี้เลื่อย พีตมอส ดินญี่ปุ่น เม็ดดินเผาต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งวัสดุที่กล่าวมาส่วนหนึ่งนั้นมีคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกทั้งต้นกล้าและพันธุ์ไม้ทั่วไป

สำหรับการปลูกพืชไร้ดินนั้นถือได้ว่ามีประโยชน์มากเพราะเมื่อนึกถึงการปลูกต้นไม้ในพื้นที่อย่างในห้องทำงานหรือระเบียงคอนโดการปลูกแบบไม่ใช้ดินย่อมเป็นอะไรที่สะดวกสบายสุด ๆ อีกทั้งถ้าคิดในแง่ของการค้าขายแล้วก็ยังเป็นการประหยัดต้นทุนทั้งในส่วนของอุปกรณ์ การเตรียมปุ๋ยและการเตรียมดิน ลดความเสี่ยงจากโรคพืชที่มากับดินได้ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ทุกคนมีทางเลือกในการปลูกต้นไม้ที่ดีขึ้นวันนี้เราจึงอยากมาแนะนำวัสดุที่ใช้ในการปลูกต้นไม้ของเราให้แข็งแรงสมบูรณ์กัน มาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง

15 วัสดุยอดนิยมที่ใช้ปลูกต้นไม้ได้สวยขึ้น

ขุยมะพร้าว

ขุยมะพร้าว (Coconut dust) เป็นส่วนของ pith หรือเนื้อเยื่อส่วนในสุดของลำต้นที่มีคุณสมบัติในการระบายน้ำและอากาศ ทำให้เหมาะแก่การนำมาปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินหรือเพาะต้นกล้า นอกจากนี้ยังสามารถนำขุยมะพร้าวไปผสมกับดิน ปุ๋ยหมัก กากน้ำตาลหรือส่วนประกอบอื่น ๆ เพื่อนำไปทำเป็นปุ๋ยหรือเพิ่มประสิทธิภาพให้กับดินเพาะปลูกได้อีกด้วย

เวอร์มิคูไลท์

เวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite) เป็นแร่ดินที่ถูกพบในรูปของ aluminum iron-magnesium silicate มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มแร่ไมกา (MICA) ที่จะมี Fe,Mg,Ca,K,Na,อิออนของตัวอื่นเป็นองค์ประกอบและโมเลกุลของน้ำ สำหรับการนำเวอร์มิคูไลท์มาใช้เพาะปลูกจะมีอยู่ 2 ขนาดคือ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ¼ นิ้ว เป็นแร่ดินที่มีขนาดเล็กมากจึงนำมาใช้สำหรับการเพาะต้นกล้า มีธาตุอาหารสูงอย่างฟอสฟอรัสและโพแทสเซีม 5-8% และแมกนีเซียม 9-12% และขนาดที่ใหญ่ขึ้น 20 เท่า เมื่อนำไปอบที่ความร้อน 100 องศาเซลเซียสจึงเหมาะสำหรับการปลูกพืชที่พ้นระยะต้นกล้ามาแล้ว หลังจากที่เวอร์มิคูไลท์เริ่มพรุนหรือกำลังจะหมดการใช้งานสามารถนำไปผสมกับเพอร์ไลท์เพื่อนำมาใช้ปลูกอีกได้

เพอร์ไลท์ (Perlite)

เพอร์ไลท์ (Perlite) เป็นหินที่มาจากภูเขาไฟมีองค์ประกอบของธาตุอย่าง SiO2,Al,FeO,CaO,MgO,K2O, Na2Oเมื่อนำมาอบที่อุณหภูมิ 982 องศาเซลเซียส ทำให้หินเกิดการขยายตัวและเกิดช่องว่างภายในหินที่สามารถระบายน้ำได้ดีและเก็บน้ำได้มากถึง 27% และยังมีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ประมาณ 5-7 จากคุณสมบัติของหินชนิดนี้ที่สามารถระบายน้ำและกักเก็บน้ำได้ดีจึงสามารถนำมาใช้ปลูกพืชผักแทนดินได้

หินกรวด

หินกรวด (Gravel) สำหรับหินกรวดไม่มีคุณสมบัติในการนำมาใช้แทนดินปลูก เพราะหินกรวดไม่สามารถกักเก็บหรือดูดซับน้ำได้ เมื่อนำไปใช้พืชที่ปลูกก็จะไม่สามารถเติบโตได้ แต่ข้อดีของหินกรวดนั้นคือการยึดลำต้นหรือช่วยพยุงไม่ให้ลำต้นล้มหรือเอนเอียง ส่วนใหญ่ผู้ปลูกจะนำมาใช้ตกแต่งกระถางหรือช่วยในการพยุงลำต้น

แกลบ

แกลบ (Rice hull) คือส่วนที่เหลือใช้จากการสีข้าวหรือส่วนเปลือกที่ห่อหุ้มเมล็ดข้าว เป็นวัสดุที่มีความพรุน น้ำหนักเบาและสามารถดูดน้ำได้ดีซึ่งสามารถนำมาใช้เพาะปลูกได้ ส่วนใหญ่จะเป็นการนำมาผสมกับวัสดุอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเพาะปลูกอย่าง การนำมาผสมกับขุ้ยมะพร้าว ดิน และฟาง แต่จะต้องระวังถ้าย่อยสลายไม่หมดอาจทำให้ต้นพืชขาดไนโตรเจนจนเน่าเปื่อยได้

ถ่าน

ถ่านหุงข้าว (Charcoal) เกิดจากการนำท่อนไม้ กิ่งไม้หรือเศษไม้ นำไปเผาที่อุณหภูมิ 400-600 องศาเซลเซียส จนได้แท่งถ่านสีดำสนิทที่สามารถนำไปใช้จุดไฟ ดับกลิ่นอับหรือการนำมาเป็นวัสดุในการเพาะปลูกต้นไม้ได้อีกด้วย โดยการนำถ่านมาบดให้หยาบละเอียดนำไปรองก้นกระถางเพื่ออุ้มน้ำ ใช้ผสมกับดินหรือปุ๋ยแล้วโรยบริเวณหน้าดินที่จะช่วยเพิ่มแร่ธาตุให้กับดินและต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีขึ้น

หินภูเขาไฟ

หินภูเขาไฟ (Pumice) เป็นหินที่เกิดจากการเย็นตัวและตกผลึกของลาวาที่ไหลขึ้นมาบนผิวโลก มีคุณสมบัติการในการระบายน้ำได้ดีและมีความแข็งแรงทนทานสามารถใช้งานได้หลายปี จึงนิยมนำมาเป็นวัสดุเพาะปลูกหรือเป็นส่วนผสมกับวัสดุอื่น ๆ แต่ข้อเสียของวัสดุชนิดนี้ไม่สามารถอุ้มน้ำได้ดีนักและมีน้ำหนักมาก

เม็ดดินเผา

เม็ดดินเผา (expanded clay) การนำดินเหนียวไปเผาที่อุณหภูมิประมาณ 1,100 องศาเซลเซียส ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ ระบายน้ำและอากาศได้ดี เหมาะที่จะมาใช้เป็นวัสดุสำหรับการเพาะปลูก เนื่องจากเม็ดดินเผาเป็นวัสดุที่มีโครงสร้างคงทน สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ง่ายไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแมลง มีอายุการใช้งานนานและยังย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติไม่ก่อให้เกิดมลพิษ

ใบก้ามปูร่อน

ใบก้ามปูร่อนละเอียด (claw leaves) หรือใบจากต้นจามจุรีไปตากจนแห้งกรอบแล้วนำไปร่อนแยกเศษที่ปนมากับใบก้ามปูจากนั้นจึงนำไปบดให้เอียด ซึ่งในใบก้ามปูมีแร่ธาตุไนโตรเจนที่ช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี ส่วนใหญ่จะนิยมนำมาทำเป็นปุ๋ยหมักหรือปล่อยให้ย่อยสลายตามธรรมชาติเป็นฮิวมัสตามโคนต้นไม้ที่จะปลูกหรือการนำมาผสมกับดินที่ช่วยในเรื่องของการระบายน้ำ

ซีโอไลต์

ซีโอไลต์ (Zeolite) เป็นแร่ธาตุที่มีผลึกที่สวยงามเกิดการทับถมของเถ้าถ่านภูเขาไฟตามธรรมชาติและการสังเคราะห์ มีคุณสมบัติในการยึดอาหารของพืชไว้ที่รากและปล่อยให้พืชใช้ได้ตามต้องการเพื่อลดการสูญเสียของแร่ธาตุอาหารโดยไม่จำเป็น โดยสามารถนำซีโอไลท์มาเป็นส่วนผสมกับวัสดุอื่นใช้เพาะปลูกแบบไม่ใช้ดินได้

สแฟกนัมมอส

สแฟกนัมมอส (Sphagnum Moss) เป็นพืชในตระกูลมอสที่สามารถนำมาตากแห้งและนำไปใช้เพาะปลูกต้นไม้ได้ โดย มอสชนิดนี้มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำได้ดีถึง 10-20 เท่าจึงนิยมนำมาใช้ในการเพาะต้นเมล็ด ต้นกล้าที่เจริญเติบได้เร็วและแข็งแรงดี โดยเฉพาะพืชเมืองหนาวสามารถเติบโตได้ดีเมื่อใช้สแฟกนัมมอสในการเพาะราก

ดินญี่ปุ่น

ดินญี่ปุ่น (Akadama) เป็นดินที่เกิดจากดินภูเขาไฟเหมาะสำหรับการปลูกพืชอย่างต้นแคสตัสหรือต้นกระบองเพชร ซึ่งดินญี่ปุ่นนี้มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ อากาศและอาหารไว้ในดินก่อนปล่อยออกมาจึงทำให้รากพืชไม่เน่าเสีย จะเห็นว่าการปลูกพืชด้วยดินชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อยแต่ต้นพืชก็สามารถเติบโตได้ดีแถมยังเป็นดินที่มีความคงทนใช้งานได้นาน

พีตมอส

พีตมอส (Peat moss) เป็นดินที่เกิดจากซากของพืชมอสที่ทับถมกันมาเป็นเวลาหลายพันปีจนเกิดเป็นชั้นดิน ถูกค้นพบครั้งแรกที่ประเทศเยอรมัน ส่วนใหญ่พีตมอสจะนำมาเพาะต้นกล้า เนื่องจากเป็นวัสดุที่มีการถ่ายเทอากาศและอุ้มน้ำได้ดี ทำให้มีความชื้นและอากาศที่เหมาะต่อการแตกรากของพืชเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นดินที่สะอาด ไม่มีสารเคมีและดูดซึมสารอาหารได้เป็นอย่างดี

เปลือกไม้

เปลือกไม้ (Wood bark) เป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบา มีช่องว่างอากาศที่ช่วยในการอุ้มน้ำและยังทำให้ระบายอากาศได้ดีแต่เมื่อผ่านกระบวนการหมักเปลือกไม้ผุเปื่อย ทำให้ค่าองค์ประกอบในเปลือกไม้ลดลงจึงนิยมนำมาผสมกับพีทหรือเวอร์มิคูไลท์เพื่อให้สามารถดูดธาตุอาหารได้ดียิ่งขึ้น

ขี้เลื่อย

ขี้เลื่อย (Sawdust) เป็นผลพลอยได้จากการเลื่อยไม้มีทั้งแบบหยาบและละเอียด ซึ่งเป็นวัสดุที่เหมาะแก่การนำมาปลูกแบบไม่ใช้ดินแต่จะต้องผ่านกระบวนการหมักมาก่อน จึงจะทำให้ขี้เลื่อยมีประสิทธิภาพอุ้มน้ำได้ดี แต่จะต้องระวังไม่ให้ขี้เลื่อยอยู่ในที่ที่มีความชื้นสูงอาจทำให้เกิดโรคเน่าจากเชื้อราได้

ข้อดีของการเลือกวัสดุที่เหมาะกับการปลูกต้นไม้

1. ใช้พื้นที่น้อย ไม่จำเป็นต้องหาสถานที่ที่มีดิน สามารถจัดพื้นที่และปลูกได้ตามกระถางต้นไม้ ถัง กะละมังหรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่สามารถนำมาเพาะต้นพืชได้

2. ลดต้นทุนในการผลิต ประหยัดเวลา พื้นที่และค่าใช้จ่ายในการเตรียมดินไปได้มาก โดยเฉพาะใครที่ต้องการหารายได้จากการปลูกต้นไม้ขาย

3. วัสดุบางชนิดสามารถให้ผลผลิตดีกว่าการใช้ดินหรือสามารถเจริญเติบโตได้ดีกว่าอย่างการใช้พีตมอส ในการเพาะต้นกล้าของดาวเรืองจะทำให้มีอัตราการเจริญเติบโตของต้นกล้าได้เร็วกว่าและมีต้นที่สมบูรณ์ขึ้น

4. สามารถลดปัญหาเรื่องโรคในพืชที่เกิดจากดินได้ทั้งเชื้อรา เชื้อโรค แมลงศัตรูพืชต่าง ๆ ที่มักจะมากับดินได้อย่างดี

5. ต้นไม้จะได้รับแร่ธาตุสารอาหารได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากวัสดุบางชนิดมีคุณสมบัติในการดูดซึมธาตุอาหาร กักเก็บน้ำและยังมีการถ่ายเทอากาศได้ดี

ทั้งหมดนี้ก็นับว่าเป็นประโยชน์ที่ได้จากการใช้วัสดุดี ๆ มาปลูกต้นไม้แทนการใช้ดิน แต่ก็ต้องทำความเข้าใจด้วยว่าไม่ใช่การปลูกต้นไม้ในดินจะไม่ดีเพราะถึงอย่างไรแล้วต้นไม้บางชนิดก็ต้องอาศัยการปลูกในดินเท่านั้นจึงจะสามารถเจริญเติบโตได้ดี แต่การสรรหาวัสดุปลูกต้นไม้เหล่านี้มาทดแทนหรือปลูกร่วมด้วยก็เป็นตัวช่วยสำหรับมือใหม่ที่อยากปลูกต้นไม้สวยงามโดยไม่จำเป็นต้องลดน้ำบ่อย พรวนดินบ่อยหรือไม่ต้องหาปุ๋ยมาใส่ให้วุ่นวายเพราะในวัสดุบางอย่างที่เราเอามาแนะนำวันนี้ก็สามารถให้แร่ธาตุกับต้นไม้ของเราได้เช่นกัน ดังนั้น Kaset today ก็หวังว่าทุกคนจะได้ความรู้ดี ๆ แล้วลองไปหาซื้อมาวัสดุเหล่านี้มาปลูกต้นไม้กัน