ชื่อภาษาอังกฤษ Chin Cactus
ชื่อวิทยาศาสตร์ Gymnocalycium
ชื่ออื่นๆ แคสตัสสีลูกกวาด, ยิมโนคาไลเซียม
วงศ์ CACTACEAE
เสน่ห์ของต้นยิมโนอยู่ที่ความหลากหลายของสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละพันธุ์ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แถมยังสามารถสร้างสรรค์สายพันธุ์ใหม่ๆ ได้แบบไร้ขีดจำกัดด้วย ต้นยิมโนจึงเป็นพืชในตระกูลกระบองเพชรที่นักสะสมหลายคนหลงรัก มีการประกวดแข่งขันและจดลิขสิทธิ์สายพันธุ์กันอย่างจริงจัง ยิ่งถ้าเป็นสายพันธุ์แท้ที่เริ่มหายากมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งมีมูลค่าสูง จนต้องเปิดประมูลหากจะทำการซื้อขาย สำหรับมือใหม่ก็ถือว่าเป็นพันธุ์ที่เพาะเลี้ยงง่าย ไม่ต้องดูแลมากก็เติบโตได้อย่างสมบูรณ์ และถ้าชื่นชอบก็ต่อยอดเป็นงานอดิเรกที่สร้างรายได้เสริมได้อีกด้วย
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นยิมโน
ในส่วนของความเชื่อก็จะเหมือนกับต้นกระบองเพชรสายพันธุ์อื่น คือช่วยเสริมเรื่องเงินทองและโชคลาภเป็นหลัก แต่ก็มีการถือเคล็ดเกี่ยวกับวิธีการปลูกเพื่อให้เสริมสิริมงคลแบบเฉพาะเจาะจงด้วย คือถ้าต้องการเสริมเรื่องทั่วไปเพื่อให้ทุกอย่างรอบตัวดีขึ้น ให้ถือเคล็ดปลูกต้นยิมโนในวันเสาร์และวางไว้ในทิศตะวันตกของพื้นที่นั้นๆ เช่น มุมตะวันตกบนโต๊ะทำงาน มุมตะวันตกของห้องนั่งเล่น เป็นต้น แต่ถ้าจะเสริมเงินทองให้ปลูกในวันจันทร์แทน นอกจากนี้ยังมีการมอบต้นยิมโนเป็นของขวัญเพื่ออวยพรให้อีกฝ่ายมีอายุยืนนานด้วย
ลักษณะของต้นยิมโน
- ลักษณะของลำต้น เป็นลำต้นเดี่ยวที่มีรูปทรงคล้ายโดม ส่วนมากจะมีผิวรอบนอกเป็นสันแนวตั้งรอบด้าน ตามแนวสันจะมีตุ่มหนามเรียงตัวกัน และมีหนามกระจุกอยู่ราวๆ 3-5 อัน สามารถแตกหน่อใหม่จากตุ่มหนามเหล่านี้ได้ ทั้งลักษณะของหนามและเฉดสีของลำต้นจะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์
- ใบ ใบทั้งหมดลดรูปเป็นหนาม บ้างก็เป็นหนามขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างคม บ้างก็เป็นหนามเล็กที่ไม่แข็งมากนัก และมีบ้างเหมือนกันที่เป็นเพียงตุ่มแข็งขนาดเล็ก
- ดอก เป็นดอกเดี่ยวที่มีกลีบรูปวงรี เนื้อกลีบบาง ฐานดอกเป็นทรงกรวยยาวที่งอกออกมาจากตุ่มหนาม ส่วนมากฐานดอกจะเป็นสีเขียวอ่อน แต่กลีบดอกจะมีสีแตกต่างกันไป
- ผล ผลเป็นทรงวงรีที่งอกออกมาจากตุ่มหนาม ผลอ่อนจะดูคล้ายทรงกระบอกและเป็นสีเขียว เมื่อแก่จึงเริ่มพองตัวออกเป็นวงรีและมีสีโทนแดงมากขึ้น ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก
สายพันธุ์ยอดนิยม
- Daydream เรียกว่าเป็นสายพันธุ์บุกเบิกตลาดยิมโนเลยทีเดียว ลักษณะเด่นคือเป็นยิมโนไร้หนาม ผิวนอกมีสีคล้ายเปลือกมังคุด พูค่อนข้างกว้างและนูนต่ำ ให้ดอกสีชมพูอ่อน และเป็นยิมโนที่มีโอกาสกลายพันธุ์น้อยที่สุด
- Pink Diamond จัดอยู่ในกลุ่มยิมโนด่างที่เป็นการผสมระหว่างสีเขียวเข้มและสีชมพูสด พูค่อนข้างแคบและสูงชัน หนามแหลมยาว ให้ดอกสีชมพูขาวซึ่งเรียงกลีบเป็นชั้นสวยงาม และมักออกดอกพร้อมกันหลายดอก นับเป็นสายพันธุ์ที่มีสีสันสดใสมาก
- LB 2178 เป็นสายพันธุ์ยอดนิยมที่พันธุ์แท้มีราคาค่อนข้างสูง จุดเด่นอยู่ที่มีพูค่อนข้างแคบ แนวสันคม และมีรอยบั้งเป็นชั้นถี่ๆ คล้ายกับการพับใบตองซ้อนกัน ผิวนอกเป็นสีเขียวเข้ม ตุ่มหนามจะมีหนามโค้งงอเพียงแค่อันเดียว ให้ดอกสีขาวและมีขนาดใหญ่
วิธีการปลูก
การขยายพันธุ์ต้นยิมโนสามารถทำได้หลายวิธี แล้วแต่ความพร้อมและความเหมาะสมของแต่ละสายพันธุ์ วิธีแรกคือการเพาะเมล็ด ข้อดีคือทำครั้งเดียวแต่ได้ต้นกล้าจำนวนมากและสามารถใช้ได้กับยิมโนทุกสายพันธุ์ เพียงแค่เก็บฝักแก่จัดมาแกะเอาเมล็ดด้านใน ล้างเมือกออกจากเมล็ดให้สะอาด หลังผึ่งจนแห้งสนิทก็นำไปเพาะลงดินได้ตามปกติ วิธีต่อมาคือการปักชำ จะต้องรอให้ต้นแม่พันธุ์มีการแตกหน่อออกมาเสียก่อน แล้วเด็ดหน่อนั้นไปวางทิ้งไว้ในร่มจนกว่าแผลจะแห้ง อาจทาน้ำยากันเชื้อราด้วยก็ได้ จากนั้นจึงนำมาปักชำลงในกระถางที่เตรียมไว้ แต่วิธีปักชำจะใช้ไม่ได้กับต้นยิมโนสีและต้นยิมโนด่าง เพราะหน่อที่แยกไปจะไม่สามารถสังเคราะห์แสงด้วยตัวเองได้ กรณีนี้จึงต้องใช้เทคนิคการทำกราฟเข้ามาช่วย แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีไหน สิ่งที่ต้องทำเหมือนกันก็คือ ให้วางต้นอ่อนไว้ในที่ร่มหรือแดดรำไรก่อนประมาณ 2-3 สัปดาห์ และอย่ารดน้ำมากจนรากเน่า เมื่อต้นกล้าดูแข็งแรงดีแล้วค่อยนำไปวางกลางแจ้งเหมือนต้นแม่พันธุ์
วิธีการดูแลรักษา
- แสง ต้องการแสงปานกลางถึงมากแล้วแต่สายพันธุ์ ควรปลูกในตำแหน่งที่ได้รับแดดครึ่งวันในช่วงเช้าเป็นอย่างน้อย แต่หลีกเลี่ยงการโดดแดดแรงๆ ตลอดวัน เพราะผิวนอกของต้นยิมโนอาจไหม้ได้
- น้ำ ต้องการน้ำค่อนข้างน้อย สามารถรดน้ำทุก 3-4 วัน หรือจะรดเฉพาะตอนที่ดินเริ่มแห้งก็ได้
- ดิน เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี
- ปุ๋ย ให้ใช้ปุ๋ยออสโมโค้ท ร่วมกับปุ๋ยสูตรเฉพาะสำหรับกระบองเพชร
คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นยิมโน
เนื่องจากต้นยิมโนเป็นกระบองเพชรชนิดหนึ่ง จึงมีคุณสมบัติในการดูดซับรังสีได้เช่นเดียวกับต้นกระบองเพชรทั่วไป เพียงแค่วางไว้ในบริเวณที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการแผ่รังสี หรือแม้แต่บริเวณที่ต้องเปิดใช้หลอดไฟจำนวนมากพร้อมกัน ยิมโนจะช่วยดูดซับรังสีที่เป็นอันตรายต่อสายตาและระบบประสาทของเราได้ อีกทั้งยังเป็นไม้ฟอกอากาศขนาดกะทัดรัด สามารถดูดซับสารพิษบางชนิดได้ดี เมื่อรวมกับสีสันสดใสและการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก เลยทำให้ยิมโนกลายเป็นไม้ประดับภายในอาคารที่ได้รับความนิยมสูงมากทีเดียว
ยิมโนหัวสีกับการจดลิขสิทธิ์
หลายคนอาจเกิดความสงสัยว่าแท้จริงแล้วยิมโนหัวสีคือสายพันธุ์ไหนกันแน่ ด้วยเห็นว่ามีได้หลายสีและหลายรูปทรง เหมือนกันแค่อย่างเดียวคือต้องเพาะเลี้ยงบนตอกราฟ ความจริงแล้วยิมโนหัวสีเกิดจากความผิดปกติของต้นยิมโนด่าง เมื่อต้นด่างแตกหน่อก็จะมีบ้างที่ทั้งหน่อนั้นกลายเป็นสีล้วนที่ไม่ใช่สีเขียว พอแยกมาปักชำจึงกลายเป็นยิมโนหัวสีอย่างที่เห็น แต่หลังจากยิมโนแบบนี้ได้รับความนิยมมาก ก็กลายเป็นความสร้างสรรค์ของคนเพาะเลี้ยง ที่อยากจะออกแบบยิมโนสีใหม่ๆ ด้วยวิธีผสมเกสรของแต่ละต้นเข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีทั้งลายด่างแบบใหม่และเฉดสีใหม่ๆ หากสวยสะดุดตามากก็จะต่อเนื่องไปถึงการจดลิขสิทธิ์เพื่อเพิ่มมูลค่า เหมือนกับงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งนั่นเอง