แก้วสารพัดนึกก้านชมพู ไม้มงคลไล่สิ่งชั่วร้ายปลูกยังไงให้สวย

แก้วสารพัดนึกก้านชมพู (Alocasia pink dragon) เป็นพันธุ์ไม้ที่เราเชื่อว่ายังคงเป็นที่นิยมไม่ว่าตั้งแต่หลายปีก่อนจนมาถึงปัจจุบัน ด้วยสีและรูปทรงที่มีเอกลักษณ์ และ ยังมีความแตกต่างจากสายพันธุ์เดียวกัน คือ แก้วสารพัดนึกสายพันธุ์นี้มีก้านสีชมพู ซึ่งปกติแล้วจะมีก้านสีเขียวขาวอมเหลือง

แต่ในกลุ่มคนที่พึ่งมาเริ่มปลูกก็ยังคงมีหลายเรื่องที่ยังมีข้อสงสัยในการเลี้ยงต้นไม้ชนิดนี้ ว่าแท้จริงแล้วต้นสารพัดนึกก้านชมพูมีพิษไหม ปลูกแล้วจะดีจริงรึเปล่า แล้วสามารถเป็นไม้ฟอกอากาศในห้องได้ไหม แล้วมีวิธีเลี้ยงยังไงให้สีชมพูที่ก้านมีสีที่เข้าขึ้น คำถามเหล่านี้ kaset.today มีคำตอบให้นักอ่านและนักปลูกมือใหม่ทุกคนได้ศึกษากัน

ข้อมูลทั่วไปของแก้วสารพัดนึกก้านชมพู

ชื่อภาษาอังกฤษ : Alocasia pink dragon

ชื่อวิทยาศาสตร์ : A. longiloba Miq.

ชื่อวงศ์ : Araceae

ชื่อสกุล : Alocasia

ความเชื่อเกี่ยวกับการปลูกแก้วสารพัดนึกก้านชมพู

สำหรับคนไทยนั้นมักจะมีความเชื่อเรื่องโชคลาภเกี่ยวกับต้น แก้วสารพัดนึกก้านชมพู ที่ปลูกเอาไว้ประดับบ้าน ทั้งเชื่อว่าจะเสริมสิริมงคล ป้องกันสิ่งชั่วร้ายภูตผีปีศาจ สิ่งอัปมงคล ให้กับบ้านและผู้อยู่อาศัยทุกคน และแน่นอนว่าต้นไม้ที่นำมาแนะนำในวันนี้อย่างต้นแก้วสารพันนึก เป็นหนึ่งในต้นไม้ที่มีหมายตามตัวเลย เป็นไม้มงคล หากต้นแก้วสารพัดนึกออกดอก ตามความเชื่อ ที่คิดหวังนึกสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นตามสารพัดนึก

แหล่งที่สามารถพบต้น แก้วสารพัดนึกก้านชมพู

ต้นแก้วสารพัดนึกนั้น เป็นต้นไม้ที่อยู่ในกลุ่มต้นไม้สกุล อโลคาเซีย (Alocasia) เป็นไม้ในวงศ์ Araceae หรือต้นบอนบ้านเรานี่เอง เป็นวงค์เดียวกับ บอนสี (Caladium) , เผือก (Colocasia),พลูฉีก หรือ พลูด่าง (Monstera or Philodendron)

พรรณไม้ประดับในสกุล ต้นแก้วสารพัดนึก Alocasia นี้มีประมาณ 40 ชนิด กระจายพันธุ์อยู่ตามป่าดิบเขตร้อนชื้น เช่น พื้นที่บางส่วนของอินเดีย จีนตอนใต้ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหมู่เกาะ ปาปัวนิวกีนี รวมไปถึงด้านตะวันออกของออสเตรเลีย แก้วสารพัดนึกก้านชมพูชื่อเรียกอื่น ๆ อีก เช่น ว่านแก้วหน้าม้า

ลักษณะต้นแก้วสารพัดนึกก้านชมพู

• ใบ

ใบกลมรีปลายแหลม ใบค่อนข้างใหญ่และแข็งเป็นรูปลูกศร หยักย่นมีสีเขียวเข้มมันเงา มีเส้นใบเป็นสีขาว

• ลำต้น

ลำต้นอวบอุ้มน้ำ มีลำต้นอยู่ใต้ดินในลักษณะของเหง้ายาว มีลำต้นเหนือดินที่เกิดจากการซ้อนกันของกาบใบโตเต็มที่จะสูงถึง 1.5 เมตร โดยมีลักษณะพิเศษคือก้านที่มีสีชมพู

• ดอก

เราเชื่อว่าหากปลูกต้นแก้วสารพัดนึกจนสามารถออกดอกได้ ต้นนั้นต้องมีอายุพอสมควร โดยเริ่มแรกดอกจะงอกชูขึ้นเหนือดินกลางดง เป็นดอกตูมสีเขียว แล้วค่อยๆผลิดอกออกมา จะเห็นเป็นแท่งสีขาวสวย แต่ไม่มีกลิ่น

การขยายพันธุ์ต้นแก้วสารพัดนึกก้านชมพู

แก้วสารพัดนึกก้านชมพูเป็นไม้ใบที่ปลูกเลี้ยงง่าย นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกหน่อ ถ้าใครเลี้ยงแล้วใบไหม้ กลัวจะไม่รอดให้เด็ดใบทิ้งได้เลย อีกไม่นานเขาจะแตกใบใหม่และแตกกอใหม่ หรือจะเป็นการเพาะไข่ก็ได้แต่เป็นวิธีค่อนข้างยุ่งยาก และมักไม่ค่อยทำกัน จะนิยมวิธีการแยกหน่อมากกว่า จะมีโอกาสที่ต้นจะตายน้อยกว่าอีกด้วย

เกร็ดความรู้ !

ไข่ของต้นแก้วสารพัดนึกก้านชมพู ที่สามารถเอาไปเพาะพันธุ์ หรือมีอายุแก่จัดพอที่จะมีอัตราการรอดมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และงอกได้เร็ว ตัวไข่จะต้องมีมีน้ำตาล แต่ถ้าไข่ยังมีสีขาวอยู่ มันก็สามารถงอกได้ แต่อัตราการงอกจะน้อยลง และยังใช้เวลานานอีกด้วย

การปลูกและดูแลต้นแก้วสารพัดนึกก้านชมพู

การปลูก

• แสงแดด

แม้ว่าจะเป็นไม้ใบ แต่ก็ต้องการแดดเพียงแค่รำไรเท่านั้น สามารถปลูกใต้ไม้ใหญ่หรือปลูกในห้องแอร์ได้ แต่ถ้าปลูกในบ้านต้องแน่ใจว่าจุดนั้นจะมีแสงส่องถึงบ้างในบางเวลา ความชื้นในอากาศควรจะให้อยู่ในระดับสูง 70 เปอร์เซนต์ขึ้นไป โดยให้สัมพันธ์กับปริมาณแสงซึ่งต้องบังคับให้อยู่ในช่วง 20-30 เปอร์เซนต์

• น้ำ

ต้นแก้วสารพัดนึกก้านชมพูหรือสายพันธุ์ธรรมดา ไม่ชอบน้ำ เคล็ดลับง่ายๆ อยากให้ใบใหญ่ ไม่เหลือง ให้ 2 – 3 วันรดน้ำซักครั้งหนึ่ง ถ้ารถน้ำเยอะ รากเน่า ใบเหลือง วิธีสังเกตว่าควรรถน้ำเมื่อไหร่ ให้ลองจับดินดูว่าดินแห้งหรือไม่ ถ้ายังชื้นๆอยู่ นั่นคือไม่ต้องรด ยกเว้นว่าดินมันแห้งจริงๆ จึงค่อยรด

• ดิน

ส่วนใหญ่แล้วเติบโตได้ดีในดินที่มีความโปร่ง ระบายน้ำได้ดีแต่ก็กักเก็บความชุ่มชื้นได้พอสมควร จึงแนะนำให้ใช้ดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ผสมกับขุยมะพร้าวแบบ หรือจะเลือกใช้กระถางแบบที่ใช้ปลูกกล้วยไม้ก็ได้ เพราะเราจะได้แน่ใจว่าจะไม่มีน้ำจังทำให้ราหเน่า

วัสดุสำหรับปลูก ใช้ดินร่วน ระบายน้ำได้ดี 3 ส่วน / ใบก้ามปู 2 ส่วน / กาบหรือขุยมะพร้าวสับ 1 ส่วนแนะนำเคล็ดลับง่ายก่อนปลูก ให้นำกาบมะพร้าวสับ ไปแช่น้ำสัก 1-2 คืน การปลูกลงกระถาง ให้รองก้นกระถางด้วยก้อนถ่าน หรือกาบมะพร้าวสับก็ได้ เพราะว่าระบายน้ำได้ดี ป้องกัน การเกิดเชื้อรา

• ปุ๋ย

ใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือนประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ทุก ประมาณ 1-2 เดือน เป็นปุ๋ยสูตรละลายช้าเช่น 13-13-13 (เม็ดสีเหลือง) หรืออาจจะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จากปลา (soluble fish emulsion) เจือจาง ละลายน้ำรดให้ทุก ๆ สองสัปดาห์ ต้นจะเจริญเติบโตแข็งแรงดีมาก

การดูแล

• โรค

โรคที่มักจะเกิดกับต้นแก้วสารพัดนึก สำหรับศัตรูที่รบกวนทำลายต้นต้นแก้วสารพัดนึกก้านชมพูนั้นไม่ค่อยมีมากจะมีแค่ไส้เดือนฝอย ที่ทำให้เกิดโรครากปม ซึ่งทำให้ต้นหยุดการเจริญเติบโต ใบเหลือง แคระแกร็น และ โรครากเน่า ซึ่งเกิดจากการที่กระถางแฉะเกินไป ทำให้รากเน่าเสียหาย และมีเชื้อแบคทีเรียเข้าซ้ำเติม ทำให้ใบเหี่ยวแห้ง ต้นหยุดการเจริญเติบโต และอาจจะเน่าตายไปทั้งกระถางก็ได้

อยากให้อ่านจริงๆ !

เรามีเรื่องอยากจะบอกว่า ถึงแม้แก้วสารพัดนึกก้านชมพูจะมีศัตรูอย่างไส้เดือนฝอยที่ทำให้เกิดรากปม แต่เรามีบทความดีๆเกี่ยวกับไส้เดือนฝอยที่เป็นตัวห้ำ เรามันใจว่าถ้าคุณได้อ่านแล้ว เครื่องศัตรูพืชสำหรับต้นแก้วสารพัดนึกจะหมดไป กับบทความ "ไส้เดือนฝอยเป็นมิตรหรือศัตรูกันแน่ เลือกใช้ยังไงให้ถูกต้อง"

• ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่การปลูกภายในบริเวณบ้าน

แก้วสารพัดนึกก้านชมพู จัดเป็นไม้ใบประดับ ไม้ใบมงคล ใช้ปลูกเป็นไม้กระถางในบ้าน หรือจัดสวนในร่มตำแหน่งที่เหมาะแก่ปลูกเลี้ยงในกระถางใช้เป็นไม้ประดับตามระเบียง ริมหน้าต่าง หรือแม้แต่ในตัวบ้านได้ดี หรือการปลูกภายในบริเวณบ้านหรือชานบ้าน ที่มีแสงรำไร หรือจะวางบริเวณที่มีต้นไม้ใหญ่, เฟิร์น หรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง

ข้อควรระวัง !

ควรปลูกให้อยู่ห่างจากบริเวณที่มีเด็กหรือคนเดินผ่านไปมา เพราะ อโลคาเซียเกือบทุกชนิดมีสารแคลเซียมออกซาเลต เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเข้าไปจับตัวกับแคลเซียม ทำให้เกิดอาการระคายเคืองในส่วนที่สัมผัส อาการเช่น ปากบวม และหายใจลำบาก หากสัมผัสผิวหนังก็จะเป็นผื่นแดงและคัน กรณีที่ปลูกนอกบ้านจึงควรตั้งในจุดที่รับแดดเฉพาะช่วงเช้าเท่านั้น การปลูกในบ้านจะยืดหยุ่นได้มากกว่า แค่เลี่ยงจุดที่แสงส่องไม่ถึงก็พอแล้ว

ต้นแก้วสารพัดนึกก้านชมพูราคา

มีตั้งแต่ 150 บาท ที่เป็นต้นอ่อนให้ผู้ซื้อเริ่มต้นลองปลูกด้วยตนเองไปจนถึง หลักหมื่นบาทกันเลยทีเดียว ซึ่งใบแก้วสารพัดนึกยิ่งใหญ่จะยิ่งแพง จัดว่าเป็น ไม้มงคลยอดฮิต จริงๆ

แหล่งอ้างอิง

แก้วสารพัดนึก