ริบบิ้นชาลี ภาษาอังกฤษ : Turtle Vine, Inch Plant, Creeping Inch Plant, Creeping Basket Plant, Bolivian Jew
ริบบิ้นชาลี ชื่อวิทยาศาสตร์ : Callisia repensฃ
วงศ์ : Commelinaceae
ริบบิ้นชาลี เป็นไม้ทรงพุ่มกลมแน่นขนาดเล็ก เติบโตคลุมพื้นดิน มีอายุหลายปี โดยมีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ตั้งแต่รัฐเท็กซัส รัฐฟลอริดาถึงกัวเดอลูปและมาร์ตินิก จรดอาร์เจนตินา ซึ่งเติบโตบนพื้นหิน พื้นกรวดที่อยู่ใต้ร่มเงาของป่ากึ่งร้อนชื้นและป่าร้อนชื้น ริบบิ้นชาลีเป็นพืชที่สามารถปรับตัวได้ง่าย โตเร็ว และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย จึงทำให้ในบางภูมิภาคของโลกนับว่าพืชชนิดนี้เป็นพืชชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน
ความรู้เกี่ยวกับต้นริบบิ้นชาลี
ริบบิ้นชาลีเป็นไม้อวบน้ำที่มีอายุหลายปี (Perennial succulent) โดยคำว่า “Succulent” มาจาก Succos ในภาษาละติน ซึ่งหมายถึงน้ำผลไม้หรือน้ำหล่อเลี้ยงภายใน โดยแสดงถึงทุกส่วนของต้นไม้ประเภทนี้ที่มีลักษณะอวบอิ่ม อ่อนนิ่ม มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ภายในเนื้อเยื่อจำนวนมาก
ควรปลูกบริเวณใดของบ้าน
สำหรับการปลูกต้นริบบิ้นชาลีในบริเวณบ้านให้เจริญเติบโตได้ดีควรปลูกในพื้นที่ร่มรำไร และได้รับแสงแดดบางส่วน โดยริบบิ้นชาลีนั้นยังสามารถปลูกเป็นไม้คลุมดินได้ด้วย แต่สำหรับบ้านใครที่มีสัตว์เลี้ยงไม่แนะนำให้ปลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เลี้ยงสุนัขหรือแมว เนื่องจากต้นริบบิ้นชาลีนั้นมีผลึกแคลเซียมออกซาเลตในบริเวณใบและลำต้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหากับสัตว์เลี้ยง ในกรณีที่ใบร่วงหล่นและสัตว์เลี้ยงกินเข้าไปเป็นประจำอาจทำให้ไตวายได้ ดังนั้นควรระมัดระวังหากมีสัตว์เลี้ยงภายในบ้าน หรือถ้าจะให้ดีควรปลูกในพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงไม่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ในสภาพอากาศที่เหมาะสมด้วย
ลักษณะของต้นริบบิ้นชาลี
- ลำต้น ริบบิ้นชาลีมีลำต้นลักษณะอวบน้ำ จัดเป็นไม้ใบที่มีอายุอยู่ได้นานหลายปี ซึ่งสามารถแตกกิ่งก้านเลื้อยไปได้ไกลประมาณ 50-60 เซนติเมตร เมื่อทอดลำต้นออกไปแตะดินจะสามารถเกิดรากได้
- ใบ ใบของริบบิ้นชาลีมีลักษณะเป็นรูปไข่ขนาดเล็ก มีหลายสี สำหรับพันธุ์ปกติจะมีใบสีเขียวล้วน ใบเป็นสีเขียวเข้มมันวาว ส่วนใต้ใบจะเป็นสีม่วงแดง ใบมีความกว้าง 0.6-1 เซนติเมตร และยาว 1-3.5 เซนติเมตร ส่วนปลายใบจะแคบกว่ากาบใบ
- ดอก ดอกของริบบิ้นชาลีจะออกเป็นช่อกระจุก โดยดอกนั้นจะมีขนาดค่อนข้างเล็กมาก หากมองผ่าน ๆ อาจไม่เห็น ดอกจะมีสีขาวขนาดเล็กและไม่มีกลิ่น โดยจะออกดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแสงแดดที่ได้รับด้วย
- ผล ผลของริบบิ้นชาลีเป็นแบบแคปซูลที่มีเมล็ดขนาด 1 มิลลิเมตร
สายพันธุ์อื่น ๆ
ริบบิ้นชาลีด่างชมพู (Callisia repens ‘Pink Lady’)
เป็นไม้ใบที่มีทรงพุ่มกลมแน่น เจริญเติบโตโดยการเลื้อยคลุมไปตามพื้นดิน ลำต้นอวบน้ำ ซึ่งสามารถแตกกิ่งก้านเลื้อยไปได้ไกลประมาณ 50-60 เซนติเมตร ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ขนาดเล็ก ใบยาวและมีสีต่างกัน ตั้งแต่ลายทางสีเขียว สีชมพู และสีครีม ส่วนใต้ใบจะเป็นสีม่วงแดง ข้อใบที่ได้รับแสงน้อยจะยืดออก ส่วนข้อใบที่ได้รับแสงมากจะมีข้อสั้นและแตกยอดใหม่บริเวณซอกใบ ดอกมีสีขาวขนาดเล็ก ซึ่งจะออกดอกในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิหรือต้นฤดูร้อน ถือเป็นพืชที่มีใบสวยงามมากอีกหนึ่งชนิด สามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว เหมาะที่จะปลูกไว้ในกระถางแบบแขวน
ริบบิ้นชาลีใบทอง (Callisia repen ‘Gold’)
เป็นไม้ใบที่มีทรงพุ่มกลมแน่น สามารถแตกกิ่งก้านเลื้อยไปได้ไกลเช่นเดียวกับริบบิ้นชาลีพันธุ์อื่น ๆ ลำต้นอวบน้ำ ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ขนาดเล็กหรือรูปวงรี ใบมีสีเขียวทองดูสวยงาม ตัดกับด้านล่างที่เป็นสีม่วงแดง สายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ นิยมปลูกในกระถางต้นไม้ไว้ประดับสถานที่ต่าง ๆ แต่ในอเมริกาถือเป็นวัชพืชคลุมดินที่เติบโตได้ง่าย
ริบบิ้นชาลีเบียงก้า (Callisia repens ‘Bianca’)
เป็นไม้พุ่มทรงกลมแน่น มีถิ่นกำเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ โดยจะแตกกิ่งก้านไปได้ไกลหากอยู่ในที่ที่แสงแดดสามารถส่องถึงและแสงแดดนั้นจะต้องอยู่ในระดับที่พอเหมาะ ลำต้นอวบน้ำ ใบมีลักษณะเป็นรูปไข่ขนาดเล็กเหมือนกับพันธุ์อื่น ๆ มีทั้งสีเขียวล้วน ใบด่าง หรือสีชมพู ซึ่งสีของใบนั้นอาจเปลี่ยนไปหากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ถือเป็นอีกหนึ่งพันธุ์ที่ดูแลรักษาได้ง่าย เหมาะที่จะปลูกไว้ในกระถางแบบแขวน โดยริบบิ้นชาลีพันธุ์นี้จะชอบสภาพอากาศที่อบอุ่นและชื้น
วิธีการปลูก
- ใช้ดินปลูกแคคตัสผสมกับขุยมะพร้าวและกาบมะพร้าว ซึ่งจะใช้กาบมะพร้าวสำหรับรองก้นกระถาง ส่วนขุยมะพร้าวใช้สำหรับผสมดินปลูก เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี และประหยัดดินปลูก
- ขั้นตอนถัดมาใส่ดินในกระถางให้ต่ำกว่าขอบกระถางนิดหน่อย หรือใส่เพียงครึ่งกระถาง โดยให้เลือกตามความเหมาะสม
- เลือกก้านริบบิ้นชาลีที่มีความแข็งแรง ตัดให้อยู่ในขนาดที่เหมาะสมในการปลูกเพื่อง่ายต่อการชำ (หากใช้ก้านยาวเกินไปเวลารดน้ำต้นจะล้มได้) ใช้ไม้ปลายแหลมมาจิ้มหลุมและทำการปลูกต้นริบบิ้นชาลีในกระถาง
- เมื่อปลูกเสร็จก็รดน้ำให้ชุ่ม และนำไปเก็บไว้ในร่มรอให้รากงอกขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือเร็วกว่านั้น ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของริบบิ้นชาลีที่ปลูกด้วย หลังจากนั้นค่อยนำออกไปรับแสงแดด
วิธีการดูแล
- แสงแดด สำหรับแสงแดดนั้นถือปัจจัยสำคัญมากสำหรับการดูแลต้นริบบิ้นชาลี เมื่อชำจนมีรากงอกขึ้นมาใหม่แล้วให้นำไปวางในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างเพียงพอ เพราะเมื่อได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอก็จะทำให้ใบของริบบิ้นชาลีฟูขึ้นและเปลี่ยนสีได้อย่างสวยงาม
- น้ำ สำหรับการให้น้ำควรรดน้ำทุกวัน หรือวันเว้นวันก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละช่วง ควรรดน้ำให้พอชุ่ม แต่ไม่ต้องให้น้ำมากจนเกินไป เพราะอาจส่งผลให้รากเน่าได้
- ดิน สำหรับการดูแลในเรื่องดินนั้นอาจไม่จำเป็นต้องทำอะไรมาก แต่แนะนำให้ใช้ดินปลูกแคคตัสผสมกับขุยมะพร้าวและกาบมะพร้าว หรือดินพีทมอสผสมกับหินภูเขาไฟและดินร่วนปนทรายในการปลูก แต่ถ้าใช้ขุยมะพร้าวและกาบมะพร้าวจะทำให้กระถางมีน้ำหนักเบาลง และสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก เมื่อต้นริบบิ้นชาลีแตกออกเยอะขึ้นจนแน่นควรเปลี่ยนกระถางที่มีขนาดใหญ่ตามความเหมาะสม หรือจะแบ่งกอออกไปปลูกเพื่อขยายพันธุ์ในกระถางใหม่ก็ได้เช่นกัน
- ปุ๋ย หากจะใส่ปุ๋ยให้ต้นริบบิ้นชาลีควรใช้ปุ๋ยละลายช้า หรือปุ๋ยออสโมโค้ทในการดูแล เมื่อปลูกเสร็จจนผ่านไป 1 สัปดาห์ ให้นำไปออกแดดและใช้เครื่องวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างวัดค่าดินว่าอยู่ระหว่าง 5-6 หรือไม่ ถ้าไม่ถึงให้โรยปุ๋ยละลายช้าลงไป 4-5 เม็ด หลังจากนั้นโรยแกลบลงบนหน้าดินให้เต็มเพื่อรักษาความชื้น
- การตัดแต่ง การตัดแต่งต้นริบบิ้นชาลีจะช่วยให้มียอดใหม่เกิดขึ้นได้ หากใช้เป็นไม้แขวนและทรงพุ่มยืดยาวเกินไปควรทำการแยกออกและปลูกใหม่ หรือทำการตัดแต่งยอดและทรงพุ่มให้บางลง
ประโยชน์ของริบบิ้นชาลี
- ริบบิ้นชาลีเป็นไม้ทรงพุ่มกลมแน่นขนาดเล็ก มีใบที่สวยงาม ซึ่งสามารถปลูกเป็นไม้ประดับในกระถางแขวน และยังสามารถปลูกเป็นไม้คลุมดินได้ด้วย
- สามารถนำต้นริบบิ้นชาลีไปวางไว้ในห้อง ซึ่งจะช่วยฟอกอากาศ และสร้างออกซิเจนในตอนกลางคืนได้
ราคาต่อต้นโดยประมาณ
ต้นริบบิ้นชาลีที่ปลูกในกระถางขนาด 2 นิ้ว ราคา 35 บาท กระถางขนาด 3 นิ้ว ราคา 50 บาท กระถางขนาด 4 นิ้ว ราคา 70 บาท และกระถางขนาด 8 นิ้ว ราคา 300-450 บาท