ชื่อภาษาอังกฤษ Feather Cactus, Feather ball
ชื่อวิทยาศาสตร์ Mammillaria plumosa F.A.C.Weber
ชื่ออื่นๆ กระบองเพชรขนนก, พลูโมซา
วงศ์ CACTACEAE
ในบรรดาต้นแมมมิลลาเรียทั้งหมด แมมขนนกถือว่าเป็นสายพันธุ์แรกๆ ที่หลายคนรู้จักและให้ความสนใจ เนื่องจากมีความโดดเด่นตรงปุยขนอันอ่อนนุ่ม และมีดอกโทนสีหวานที่มักออกพร้อมกันจำนวนมาก บางพันธุ์ออกดอกตามฤดูกาล แต่บางพันธุ์ก็สามารถออกดอกต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี ข้อดีคือดูแลรักษาง่ายและสามารถผสมเกสรเพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดดอกสีใหม่ๆ ได้เอง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเด่นเป็นไม้มงคลที่ช่วยเสริมเรื่องโชคลาภและทรัพย์สิน ทั้งยังเป็นไม้ประดับที่ช่วยดูดซับรังสีอันตรายจากคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันได้ด้วย
ความเชื่อเกี่ยวกับต้นแมมขนนก
มีความเชื่อว่าต้นแมมขนนกเป็นไม้มงคลที่ช่วยเสริมเรื่องความโชคดี และช่วยเรียกทรัพย์จากทุกช่องทางให้แก่ผู้เพาะเลี้ยง ยิ่งต้นแมมออกดอกจำนวนมากเท่าไร ก็ยิ่งเสริมสิริมงคลได้มากขึ้นเท่านั้น หากวางตั้งไว้ในพื้นที่ทำเงินหรือพื้นที่เก็บเงินก็จะดึงดูดเงินได้มากขึ้น เช่น ประดับไว้ในกิจการร้านค้า วางไว้กับตู้เซฟ ออมสิน สมุดบัญชีธนาคาร เป็นต้น แต่ถ้าต้องการเสริมเรื่องหน้าที่การงานเป็นพิเศษ ต้องวางกระถางไว้ในมุมที่นั่งทำงานเป็นประจำ จะช่วยให้ทุกการลงมือทำประสบความสำเร็จได้อย่างราบรื่น สิ่งใดที่ติดขัดอยู่ก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีได้
ลักษณะของต้นแมมขนนก
- ลักษณะของลำต้น ลำต้นมีขนาดเล็กกะทัดรัดและค่อนข้างกลม ผิวนอกเป็นสีเขียวสดที่มีความอวบน้ำ มีตุ่มหนามทรงสูงคล้ายกรวยสามเหลี่ยมกระจายตัวทั่วลำต้น และมีบ้างบางพันธุ์ที่ตุ่มหนามเป็นเพียงเนินต่ำๆ บริเวณตุ่มหนามจะสามารถออกดอกและแตกหน่อใหม่ได้เมื่อโตเต็มที่แล้ว
- ใบ ใบทั้งหมดลดรูปเป็นหนามเช่นเดียวกับกระบองเพชรทั่วไป แต่หนามของแมมขนนกจะมีความอ่อนนุ่มแบบเส้นขนสมชื่อเรียก ลักษณะเส้นขนก็แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ย่อย ซึ่งแสงแดดเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความหนาแน่นของเส้นขนโดยตรง
- ดอก ส่วนมากดอกจะมีขนาดเล็ก โทนสีจัดอยู่ในกลุ่มโทนสีอ่อน เช่น ขาวมุก เหลืองนวล ชมพูอ่อน ส้มอ่อน เป็นต้น กลีบดอกเรียงตัวกันเพียงชั้นเดียวและมีกลุ่มเกสรอยู่กึ่งกลาง รูปร่างของกลีบดอกอาจเป็นแบบเรียวยาวปลายตัดแหลม หรือเป็นแบบเรียวยาวที่มีปลายโค้งมนก็ได้
- ผล ผลเป็นทรงวงรีขนาดเล็ก ติดอยู่กับตุ่มหนามหลังดอกหลุดร่วงไป เมื่อยังเป็นผลอ่อนจะมีสีเขียวสดเหมือนกันหมด แต่พอแก่แล้วก็จะเปลี่ยนสีไปตามสายพันธุ์ เช่น สีน้ำตาลอมแดง สีโทนส้ม สีแดงม่วง เป็นต้น
สายพันธุ์ยอดนิยม
- แมมขนนกขาว ขนที่ขึ้นบริเวณตุ่มหนามจะบานออกคล้ายดอกหญ้าบางเบา ซึ่งมีสีขาวให้เลือกหลายเฉด เช่น ขาวกระดาษ ขาวประกายมุก ขาวนวล เป็นต้น ดอกมีขนาดเล็กและมักจะออกแค่ช่วงฤดูหนาว
- แมมขนนกเหลือง ลักษณะของหนามจะแข็งกว่าพันธุ์ขนนกขาว มีสีเหลืองทองและค่อนข้างยาว ปลายหนามแผ่ออกรอบด้านและสอดประสานกัน พันธุ์ดั้งเดิมจะมีดอกเป็นสีขาวหรือสีชมพู กลีบดอกยาวปลายแหลม สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี
วิธีการปลูก
การขยายต้นแมมขนนกที่น่าสนใจจะมีอยู่ 2 วิธี คือการแยกหน่อและการเพาะเมล็ด การเลือกใช้ก็แล้วแต่วัตถุประสงค์ ถ้าต้องการเพิ่มจำนวนต้นแมมให้มากขึ้น การแยกหน่อจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าหลายเท่า แต่ถ้าจะพัฒนาสายพันธุ์ก็ต้องใช้การผสมเกสรข้ามต้นแล้วเพาะเมล็ดเอาเท่านั้น โดยการแยกหน่อจะทำการต้นแม่พันธุ์ที่มีการแตกหน่อใหม่เรียบร้อยแล้ว ควรรอให้หน่อนั้นโตได้ระยะหนึ่งก่อนค่อยตัดหรือเด็ดออกจากต้นแม่ นำหน่อที่แยกมาไปผึ่งไว้ในร่มจนกว่าแผลจะแห้งสนิท อาจใช้เวลา 2-3 วันแล้วแต่ขนาดของแผลที่เกิดขึ้น จากนั้นค่อยนำมาปักชำลงในกระถางที่เตรียมวัสดุปลูกเอาไว้แล้ว วัสดุปลูกที่ใช้ได้ก็มีให้เลือกหลายสูตร จะเป็นดินร่วนปนทรายที่ผสมขุยมะพร้าวและแกลบดำก็ได้ เป็นดินสำเร็จรูปสำหรับปลูกกระบองเพชรก็ได้ หรือจะเป็นกาบมะพร้าวสับละเอียดผสมกับหินภูเขาไฟก็ใช้ได้ดีเหมือนกัน ช่วงแรกให้รดน้ำสม่ำเสมอประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นค่อยลดปริมาณน้ำลง ส่วนวิธีการเพาะเมล็ด ให้ทำการผสมเกสรแล้วรอจนกว่าจะติดผล เมื่อผลแก่จัดก็เก็บเมล็ดไปเพาะลงดินตามปกติ
วิธีการดูแลรักษา
- แสง ต้องการแสงค่อนข้างมาก เหมาะสำหรับการเพาะปลูกในตำแหน่งที่ได้รับแดดตลอดทั้งวัน
- น้ำ ต้องการน้ำน้อย ควรรดน้ำเพียงแค่สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือรดเฉพาะตอนที่พบว่าหน้าดินแห้งกว่าปกติเท่านั้น ที่สำคัญคือห้ามมีน้ำท่วมขังเด็ดขาด
- ดิน เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้เร็ว และระบายอากาศได้ดี
- ปุ๋ย ให้ใช้ปุ๋ยสำหรับบำรุงต้นกระบองเพชรโดยเฉพาะ
คุณประโยชน์ที่ได้จากต้นแมมขนนก
เนื่องจากต้นแมมขนนกมีหนามที่เปลี่ยนรูปเป็นเส้นขนอันอ่อนนุ่ม จึงสามารถวางไว้ใกล้ตัวได้โดยไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องกังวลว่าจะปัดมือไปโดน หรือสัตว์เลี้ยงจะเดินชนกระถางจนบาดเจ็บ เป็นพันธุ์ที่นิยมตั้งไว้บนโต๊ะทำงานเพื่อช่วยดูดซับรังสีจากหน้าจอคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ รวมถึงตั้งไว้ที่บริเวณหัวเตียงเพื่อช่วยลดปริมาณคลื่นไฟฟ้าและรังสีต่างๆ ทำให้การนอนหลับมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่การวางในห้องนอนจะมีข้อจำกัดเล็กน้อย คือไม่ควรเป็นต้นแมมที่มีกอใหญ่เกินไป เพราะจะกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่นได้ง่าย
ต้นแมมขนนกมีตะไคร่ขึ้นควรทำอย่างไร
ปกติแล้วต้นแมมจะมีขนสีขาวหรือสีเหลืองตามสายพันธุ์ หากเลี้ยงไปสักพักแล้วพบว่าเกิดสีเขียวเกาะตามขนเป็นจุดๆ นั่นไม่ใช่การพัฒนาสายพันธุ์ตามธรรมชาติ แต่เป็นอาการของตะไคร่ขึ้นขน ส่วนมากพบในแมมขนนกขาวมากกว่าขนนกเหลือง ซึ่งหากตะไคร่ยังไม่ขยายวงกว้างมากนักก็ถือว่าไม่เป็นอันตรายใดๆ แก้ได้ด้วยการงดให้น้ำไปพักใหญ่ หรือถ้าดินแห้งมากก็ใช้วิธีหยดน้ำเพียงเล็กน้อยที่ผิวดิน พร้อมกับย้ายต้นแมมไปไว้ในตำแหน่งที่ได้รับแดดจัดตลอดทั้งวัน ไม่นานตะไคร่ก็จะลดน้อยลงจนหมดไปเอง